“หลวงปู่พุทธะอิสระ” ห่วงประเทศเดินย่ำอยู่กับที่ ชี้ ปชต. ไทย ๘๒ ปี ไม่เห็นจะมีอะไรดีขึ้น นักการเมืองมีแต่โกง บ้าอำนาจ แนะ “ประยุทธ์” ลองปฏิรูปให้ ปชช. เลือกคนดี มีความสามารถ เข้าไปนั่งนายกฯ - คณะ รมต. ด้วยตัวเอง เผื่อบ้านเมืองจะดีขึ้นบ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงเย็นวันที่ 13 ธ.ค. หลวงปู่พุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จังหวัดนครปฐม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) ภายใต้หัวข้อ “ไหนๆ จะปฏิรูปทั้งที มันควรจะปฏิรูปแม้กระทั่งที่มาของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี”
หลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวว่า การปฏิรูปครั้งนี้ควรอย่างยิ่ง ที่จะแยกฝ่ายบริหารให้ขาดจากฝ่ายนิติบัญญัติ ผู้ที่จะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ไม่ควรจะมาจากพรรคการเมือง แล้วควรที่จะมีการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีแต่ละตำแหน่ง โดยคัดสรรจากบุคคลผู้มีความรู้ความสามารถให้ตรงต่อตำแหน่งหน้าที่การงานที่จะเข้ามาบริหาร ไม่ใช่เอานักเลงมาคุมกระทรวงการคลัง เอาพ่อค้ามาบริหารกระทรวงมหาดไทย บ้านเมืองไทย ขบวนการบริหารการปกครองของบ้านเมืองไทย เป็นเช่นนี้มาเนิ่นนาน จนทำให้ประเทศชาติเดินหน้าไปไม่ได้ ติดหล่มประชาธิปไตย ติดหล่มโควต้าของพรรคการเมืองตลอดมา
ไหนๆ ก็ปฏิรูปทั้งที ขอโอกาสให้ประชาชนได้มีโอกาสเลือกนายกรัฐมนตรี บุคคลที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีด้วยตัวเอง พวกเราปล่อยให้นักการเมือง พรรคการเมืองปู้ยี่ปู้ยำบ้านเมืองนี้มานานเกินไปแล้ว ก็ไม่เห็นจะมีอะไรดีขึ้น เที่ยวนี้ขอประชาชนได้มีโอกาสเลือกคนดีมีความรู้ความสามารถ เข้ามาบริหารบ้านเมืองด้วยตนเองบ้าง ไม่ใช่ให้พรรคการเมือง นักการเมืองเลือกอย่างที่เคยเป็นมา งานนี้ ขอชาวประชาเลือกนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีด้วยตัวของเขาเองเถิดนะคุณประยุทธ์ ลองของใหม่ดูบ้าง เผื่อบ้านเมืองจะดีขึ้นบ้าง โปรดอย่าไปเดินย่ำซ้ำรอยแห่งความผิดพลาดเก่าๆ อยู่เลย ประเทศเดินย่ำย้ำอยู่กับที่เช่นนี้มา ๘๒ ปีแล้วนะ ไปไม่ถึงไหนเสียที
หลวงปู่พุทธะอิสระ ให้รายละเอียดว่าประเทศไทยมีประชาธิปไตยมาก่อนชาติใดๆ ในทวีปเอเชีย มีนักการเมือง พรรคการเมืองมายาวนานไม่ต่ำกว่า ๘๐ ปี แล้วลองดูซิว่าบ้านเมืองได้อะไรจากคนพวกนี้บ้าง มีแต่จะปลิ้นปล้อน กะล่อน หลอกลวง และปลุกเร้าให้คนไทยโง่เขลาคิดฝันเฟื่องเรื่องเรียกร้องเสรีภาพ ประชาธิปไตย
ประชาชนจะทุกข์ยากเดือดร้อนซักปานใด เขาก็ไม่สนใจแยแส เพราะพวกเขาซื้ออำนาจจากประชาชนได้แล้ว ลงทุนไปไม่เท่าไหร่ก็อยู่ได้ตั้ง ๔ ปี เมื่อประชาชนได้รับเงินไปแล้ว จะมาโวยวายอะไร ทนๆ เอาไว้ เดี๋ยวก็หมดเวลา ๔ ปีแล้ว เมื่อลงทุนซื้ออำนาจมา ขอเวลาถอนทุนก่อน จนบางยุคบางสมัยถึงกับเหิมเกริม ออกมาบอกประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจว่า ชาวบ้านย่านไหนหากไม่เลือกเขา ก็ให้ทนทุกข์ยากลำบากไปก่อน พวกเขาต้องช่วยเหลือให้บริการแก่ประชาชนที่เลือกเขาเข้ามาก่อน เป็นความชอบธรรมที่พวกเขาพอใจทำ โดยไม่เห็นประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอยู่ในสายตา เพราะนักการเมืองไทยพวกนี้มีหลักคิดว่า เมื่อประชาชนมอบอำนาจให้มาแล้ว ถือว่าอำนาจของประชาชนเป็นของพวกเขาโดยสิ้นเชิง ไม่มีสิทธิ์ไม่มีเสียงอะไร จะมาเรียกร้อง ต่อรอง หรือแม้แต่ตรวจสอบ โดยมักจะอ้างว่า การตรวจสอบมีองค์กรที่ทำหน้าที่ตรวจสอบอยู่แล้วตามกฎหมาย
ประชาชนไม่มีสิทธิ์ ไม่มีอำนาจหน้าที่ แล้วนักการเมืองพวกนี้ก็ได้ใจลำพองขน กระทำการละเมิด ทุจริต คดโกง ผูกขาด ตัดตอน จับมือรวมหัวกันทำผิดกฎหมายต่างๆ นานา โดยไม่แยแสต่อสายตาประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจ ที่เหม่อมองพวกเขาอย่างเรียกร้อง โหยหา ขอความกรุณา หรือระแวงสงสัย ๘๒ ปีของนักการเมืองไทย ที่ใช้อำนาจประชาธิปไตยของปวงชนชาวไทยมาทำร้ายชาติประชาชนแต่ละยุค แต่ละสมัย แต่ละพรรค แต่ละปี แต่ละวัน ที่พวกนักการเมืองพวกนี้เข้ามาบริหารบ้านเมืองจนเกิดความเสียหายทั้งเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมและความมั่นคงของประเทศชาติ ตัวอย่างเช่น ช่วงปี ๒๕๔๐ วิกฤตฟองสบู่แตก เพราะไปอุ้มค่าเงินบาท เป็นเหตุให้รัฐบาลนายกฯ ชวลิต ยงใจยุทธ โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร รองนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่กำกับดูแลการคลังและเศรษฐกิจ ต้องลอยตัวค่าเงินบาท คนทั้งชาติทุกข์ยากเดือดร้อน แต่คนในคณะรัฐบาล นักการเมือง และวงศาคณาญาติพากันร่ำรวย จากส่วนต่างการแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์มาเป็นเงินบาท ซึ่งในเวลานั้น เงินดอลลาร์มีค่าดังทอง เงินบาทยังกับเศษกระดาษ พวกนักการเมืองรู้ความนัยว่าจะมีการลดค่าเงินบาท ต่างพากันกักตุนเงินดอลลาร์กันเอาไว้มหาศาล ในขณะที่คนทั้งชาติยากจนอดอยากกันทั่วหน้า ด้วยเงินนั้น นายทักษิณและพวกก็นำมาซื้อเสียงจนได้เข้ามาเป็นรัฐบาล เพราะพฤติกรรมบ้าอำนาจของนายทักษิณและพวก มวลชนคนพันธมิตรจึงได้ออกมาขับไล่
จนถึงรัฐบาลของ นายสมัคร สุนทรเวช และรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ล้วนแต่โดนประชาชนคนพันธมิตรฯขับไล่ เหตุเพราะทนต่อพฤติกรรมบ้าอำนาจ ทุจริตคอร์รัปชัน ไร้จริยธรรมของบรรดานักการเมืองไม่ไหว การชุมนุมขับไล่ของประชาชนคนพันธมิตรในเวลานั้น มีประชาชนต้องบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก
ต่อมา รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นมาเป็นรัฐบาล มีปฏิบัติการเอาคืนจากนักการเมือง พรรคการเมืองผู้เสียอำนาจ ผลักดันให้มวลชน นปช. ออกมาปฏิบัติการเผาบ้านเผาเมือง ทำให้ทหารและประชาชนผู้บริสุทธิ์บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก จากการยุยงของนายทักษิณ ชินวัตร ปลุกปั่นยุยงให้คนเสื้อแดงออกมาก่อการเผาบ้านเผาเมือง ด้วยการให้สัญญาว่า จะเดินนำหน้าพี่น้องเสื้อแดงทุกคน จะไม่ทอดทิ้ง จะร่วมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่น้องเสื้อแดง คนเสื้อแดงจึงฮึกเหิมถึงขนาดขับไล่ผู้นำประเทศหลายสิบชาติ ที่มาร่วมประชุมที่ชลบุรี ต่างพากันหนีตายหัวซุกหัวซุน อับอายไปทั่วโลก รัฐบาลประชาธิปัตย์ระดมเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ ทวงคืนพื้นที่ ทำให้มีผู้บริสุทธิ์และผู้ก่อการบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก
หลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวต่อว่าที่เขียนเล่ามาทั้งหมดนี้ เพื่อให้เห็นถึงความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า คนที่เจ็บที่ตาย ไม่ว่าจะเหตุการณ์ไหนๆ ไม่เคยมีนักการเมืองเลยซักคน มีแต่ประชาชนคนหลงเชื่อ เป็นเครื่องมือ ตกเป็นเหยื่อความละโมบหิวกระหายอำนาจ แย่งชิงอำนาจ โดยใช้ประชาชนเป็นฐานเหยียบยืนขึ้นไปสู่อำนาจ รักษาอำนาจ จบแล้วก็ใช้เงินฟาดหัว อ้างว่านี่คือการเยียวยา โดยใช้เงินภาษีของประชาชนนั่นเองมาเยียวยา แต่อำนาจตกเป็นของนักการเมือง นี้คือความน่าไม่อาย เห็นแก่ได้ของนักการเมืองไทย คนพันธุ์นักการเมืองไทย ผู้ไร้คุณธรรม พวกเขาทำได้แม้แต่จะเห็นประชาชนตายเพื่อให้ได้อำนาจมา คนพวกนี้มันไม่สนใจว่าใครจะเดือดร้อน พวกเขามองประชนชนเป็นแค่เบี้ยตัวหนึ่งเท่านั้น ชีวิตของประชาชนจะมีคุณค่าเฉพาะตอนเลือกตั้งเท่านั้น หลังจากนั้นคือเบี้ยที่มีเอาไว้รักษาขุนอย่างพวกเขาล่ะ ขอให้เขาได้ประโยชน์ก็พอ