“ประยุทธ์” เมินโต้ “บิ๊กจิ๋ว” เตือนเจอปฏิวัติซ้ำ ชี้อายุแยะเลยเหงา รับเคารพ ทหารปึ๊กดีไม่ทะเลาะกัน ชม รมต.ทำตามสั่ง ขออย่าอย่าจี้หาจุดอ่อน ลั่นยังไม่ปรับ ครม. เมินตอบข้อแนะเลือกนายกฯ ตรง ชี้ยังไร้ข้อสรุป ไม่สนลงเลือกตั้ง อ้าง “วิษณุ” พูดถึง “แป๊ะ” แค่สำนวน เตรียมเซ็น MOU จีน รถไฟความเร็วสูง คาดเริ่มสร้างต้นปี 59 ขอผู้ประกอบการช่วยซื้อยางราคา 60 วอนอย่าให้ใช้งบกลางแยะ
วันนี้ (9 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์กรณี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาเตือนรัฐบาลอาจเจอปฏิวัติซ้ำว่า อย่าไปตอบท่านเลย ท่านอายุมากแล้ว ท่านก็เหงาๆ แต่ตนเคารพท่านอยู่แล้ว ไม่อยากเอามาเป็นกังวล ท่านก็ฟังคนนู้นคนนี้มา ผู้ใหญ่ก็เป็นห่วงเด็ก ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่เป็นการบั่นทอนกำลังใจการทำงานใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มี ตนเต็มร้อย ไม่ต้องกลัว เมื่อถามว่าถือว่าเป็นคำแนะนำของผู้ใหญ่ในทางที่ดีหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เป็นคำแนะนำไม่ใช่ว่าดีหรือไม่ดี แต่เป็นคำแนะนำทั่วๆไป อย่าไปถือเป็นกังวล ประเทศชาติกำลังพยายามเดินไปข้างหน้า จะกลับถอยหลังไปอีกไม่เอา ตนขี้เกียจไปตอบ
เมื่อถามว่า วันนี้ความสัมพันธ์ในทหารยังดีอยู่ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ทหารไม่มีทะเลาะกัน ไม่เคยทะเลาะกัน เมื่อถามว่าจะต้องมีการปรับทัศนคติต่อ พล.อ.ชวลิตหรือไม่ นายกฯ ย้อนว่าปรับทัศนคติกับสื่อดีกว่า เมื่อถามว่า เสถียรภาพรัฐบาลวันนี้ยังดีอยู่หรือไม่ในเรื่องเศรษฐกิจ นายกฯ กล่าวว่า ดี ไม่เห็นมีอะไร ทุกคนก็ทำงาน ตนคิดว่าวันนี้อย่าไปวิพากษ์จารณ์ให้เสียหาย วันนี้น่าจะบอกว่าเราโชคดี แม้ตนจะเป็นนายกฯ แต่ถือว่าเป็นน้อง ซึ่งเห็นว่าพี่ๆ รัฐมนตรีทุกคนช่วยกันทำงานสั่งอะไรก็ทำหมด ในที่ประชุม ครม.แต่ละคนมีการแสดงความคิดเห็น บางคนอาจจะพูดไม่ค่อยเก่งแต่ก็ทำงาน ตนก็ได้นำเสนอผลงานต่างๆ จนบางทีท่านก็ไม่ได้พูดเพราะเห็นว่านายกฯ พูดแล้วจึงไม่อยากพูดซ้ำ ตนก็บอกว่าไม่เป็นไรขอให้พูดต่อในรายละเอียดด้วยก็ช่วยกัน อย่าไปวิเคราะห์วิพากษ์วิจารณ์ คนนี้อ่อนคนนี้ไม่พูด คนนั้นไม่มีผลงาน ตนให้คะแนนผลการทำงานของรัฐมนตรีเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ เมื่อถามว่าก่อนปีใหม่และหลังปีใหม่จะมีการปรับ ครม.หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีการปรับ ครม.
เมื่อถามว่า นายกฯ ลองพูดชัดๆ แบบมั่นใจว่าจะไม่มีการปฏิวัติซ้ำปฏิวัติซ้อนในยุคนี้ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มี ใครจะปฏิวัติ ปฏิวัติมันง่ายนักหรือไง เมื่อถามว่า ในแง่การบริหารงานอาจไม่โดนใจ นายกฯ กล่าวว่า ไม่รู้ ไม่ทราบ ถ้าอยากโดนใจก็ไปรอรัฐบาลหน้า ไปหาเอาเอง ใครจะทำให้อย่างที่ตนทำหรือเปล่า ไปดูสิว่าตนทำอะไรไปบ้าง หลายอย่างแล้วที่ทำไป แต่พวกเราไม่เคยรู้ไม่เคยเข้าใจว่าเขาทำอะไรไป ไปดูสิว่าทำงานหรือไม่ ถ้ามายืนตรงนี้ สั่งตรงนี้ แล้วเขาทำเลยคงถูกใจท่านแน่นอน แต่ถามว่ากระบวนการมันไปอย่างไร ทั้งเรื่องกฎหมาย พระราชบัญญัติ กฎกระทรวง ต้องออกไหม ลองไปนั่งดู จะรู้ว่าไม่ง่าย ไม่งั้น ครม.จะประชุมกันที 4-5 ชั่วโมงได้อย่างไร มันยากนะ ไม่ได้ทำงานกันปากเปล่า ถ้าทำงานแบบปากเปล่าก็ทำแบบตามใจ ใครขออะไรก็ให้ การจะอนุมัติเรื่องต่างๆ จะต้องดูว่ามีเงินและหนี้สาธารณะเท่าไหร่ ใช้ได้แค่ไหน ทุกอย่างมันตามกันไปหมด ถ้าไปเทเรื่องยาง เรื่องข้าว แล้วคนอื่นทำอะไร เอางบประมาณที่ไหนใช้ มันเดือดร้อนหมด มันต้องช่วยกันลดระดับความเดือดร้อนลงมา ทุกคนเดือดร้อน เขาเรียกว่าแบ่งปันความทุกข์ ถึงเวลามีสุขก็แบ่งปันความสุข วันนี้ต้องยอมรับกติกากันได้ เพราะมีการปล่อยปละละเลยเรื่องเหล่านี้มานานมาก จึงต้องวางระบบระเบียบมาให้ได้ นี่คือสิ่งที่จะยั่งยืน แล้วคิดว่าถ้าทำแบบฉาบฉวย ทุกคนพอใจยิ้มแย้มแจ่มใส แต่สุดท้ายปัญหาไปหนักในอนาคต ลูกหลานต้องมาใช้หนี้
เมื่อถามว่า โอกาสที่กองทัพจะมีศักยภาพในการกดดันให้เปลี่ยนตัวนายกฯ มีหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไร้สาระ ไม่มี เมื่อถามว่า ปีใหม่ไปเคานต์ดาวน์ที่ไหน นายกฯ กล่าวว่า ไม่รู้ ไม่ไป
พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์กรณีที่สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เสนอแนวทางการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีโดยตรงว่า ไม่รู้ ไม่ทราบ ตนไม่อยู่ในคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ และเรื่องดังกล่าวยังไม่มีการสรุปมา ตนก็ฟัง มีหลายวิธีการ และเรื่องดังกล่าวยังไม่จบ เมื่อถามว่า หากให้มีการเลือกตั้งโดยตรง นายกฯ จะลงสมัครหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ไม่ลงๆ ไม่มีอะไรทั้งนั้น ไม่อยากเป็นนักการเมืองอยู่แล้ว” เมื่อถามว่า นายกฯจะขอร้องคนที่ออกมาพูดหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า หากไม่ให้มีการแสดงความคิดเห็นก็จะกลายเป็นการปิดกั้น แต่เมื่อพูดแล้วก็ต้องรับผิดชอบตัวเอง และเรื่องนี้เมื่อยังไม่มีข้อสรุปสุดท้ายตนก็ยังไม่ตอบ และทุกอย่างยังมีอีกหลายขั้นตอนต้องดูว่าตอนสุดท้ายรัฐธรรมนูญออกมาเช่นไร และสุดท้ายก็ต้องผ่าน ครม.ให้ความเห็นชอบ และผ่าน คสช.ที่มีหลายคน
เมื่อถามถึงกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีออกมาพูดถึง “แป๊ะ” คนดังกล่าวคือใคร นายกฯ กล่าวว่า เป็นคำเปรียบเทียบตามสำนวน เมื่อถามว่า มีคนตีความว่าเป็นคนใน คสช. นายกฯ กล่าวว่า เป็นใคร ไม่เกี่ยวหรอก เขาพูดไปเรื่อย แล้วใครคือแป๊ะ ตนจะไปรู้หรือ ให้ไปถามคนพูด ตนคิดว่าเป็นสำนวนแป๊ะแจวเรือจ้าง ซึ่งคำพวกนี้ก็ไม่เคยได้ยินกัน เคยได้ยินแต่คำว่าโว โม้ ฟุ้ง อะไรพวกนี้ ตนไม่รู้เพราะไม่ทันสมัย รู้จักแต่คำเก่าๆ
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงเรื่องรถไฟความเร็วสูงว่า เตรียมเซ็น MOU ความร่วมมือการก่อสร้างรถไฟปานกลาง ประมาณ 180 กม./ชม.กับสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ (Great Mekong Subregion - GMS Summit) ระหว่างวันที่ 19-20 ธ.ค.นี้ ส่วนการเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 22-23 ธันวาคม ตามคำเชิญของผู้นำจีน ยังคงไปตามปกติ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า เรื่องรถไฟเราต้องทำเป็นเรื่องของ connectivity เป็นการพัฒนาประเทศไปสู่อนาคต เพื่อสร้างความต่อเนื่องเพื่อเชื่อมโยงของอาเซียน ส่วนจะสามารถเริ่มการก่อสร้างได้เมื่อไหร่นั้น คาดว่าอย่างเร็วจะประมาณต้นปี 59 จึงเริ่มสร้าง เพราะจะต้องใช้เวลาในการพิจารณาศึกษารายละเอียด และจะตั้งคณะทำงานภายในปีหน้าโดยจะเร่งให้ได้เร็วที่สุด
เมื่อถามว่าจีนจะแลกเปลี่ยนหรือช่วยเหลือด้วยการซื้อสิ้นค้าจากไทยหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า เป็นการช่วยเหลือ แลกเปลี่ยนระหว่างกันอยู่แล้ว เป็นเรื่องของความร่วมมือการลงทุนร่วม ใครจะลงทุนส่วนไหนก็ว่ากันไป เขาก็ช่วยเราในเรื่องของเงินกู้ มีการลงทุนร่วมกัน และจีนจะซื้อข้าว ยางพาราด้วย แต่คงจะมาซื้อแลกเป็นรถไฟไม่ได้ เพราะว่ามูลค่าผิดกันเยอะ ขายเยอะเลยนะถ้าจะต้องมาแลกรถไฟ ปลูกอีก 10 ปี ไม่รู้จะขายได้หมดหรือเปล่า ราคามันสูง
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อถึงมาตรการช่วยเหลือชาวสวนยางพาราว่า วันนี้ได้มีการพูดคุยในที่ประชุม ครม. โดยตกลงว่า ให้เกษตรกรที่เดือดร้อนส่งตัวแทนเข้ามาพุดคุยและมาทำงานคู่ขนานกับกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งที่ผ่านมาปัญหาคือเงินที่ลงไปไม่ทันเวลาเพราะอยู่ในขั้นตอนของงบประมาณ จึงได้เร่งรัดให้งบประมาณลงไปให้เร็วที่สุด เพื่อให้เงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท ถึงมือชาวสวนยางก่อน และจากนี้ไปจะมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อเข้ามาดูแลในเรื่องยางพาราโดยเฉพาะ แต่ยังไม่สามารถประเมินได้ว่ายางจะอยู่ที่ราคาเท่าไหร่ แต่จะทำให้ราคาไม่ต่ำกว่า 50-60 บาท ซึ่งรัฐบาลจะพยายามทำอย่างเต็มที่ แต่หากตั้งราคาสูงเกินไปก็ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนมารับซื้อ รัฐบาลไม่สามารถรับซื้อเองได้ จึงต้องประสานให้ผู้ประกอบการช่วยกันรับซื้อในราคา 60 บาทให้ได้เร็วที่สุด รวมจะรัฐบาลหามาตรการอื่นๆรองรับต่อไป
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงข้อเสนอของเกษตรกรชาวสวนยางให้ออกพันธบัตรรัฐบาลว่า “เรื่องนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา แต่หากคิดว่ารัฐบาลจะต้องหาเงินมาอุดหนุน ถ้ามีตนคงให้ได้หมด แต่ขณะนี้จะเอาเงินมาจากไหน เงินส่วนต่างเท่าไหร่รู้หรือไม่ ตอนนี้รัฐบาลมีเงินงบกลางอยู่เท่าไหร่ ถ้าใช้งบกลางไปเรื่อยๆ แล้วมีเหตุการณ์เร่งด่วนอื่นๆเกิดขึ้นมาจะเอาเงินที่ไหนมาใช้ ประเทศจะล้มละลายได้ ฉะนั้นทุกคนต้องช่วยกัน หากเสนอมาอย่างไรก็แล้วแต่ บังคับผมไม่ได้อยู่แล้ว”