xs
xsm
sm
md
lg

“สมบัติ” ยันเลือกนายกฯ ตรงไม่เหมือน ปธน. ให้ 1 สิทธิเลือก 1 ส.ส.โละบัญชีรายชื่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (แฟ้มภาพ)
ประธาน กมธ.ปฏิรูปการเมือง ยันเลือกนายกฯ โดยตรงไม่เหมือนประธานาธิบดีเพราะไม่ได้เป็นประมุขแห่งรัฐ ย้ำหวนใช้แบ่งเรียงเบอร์ 1 สิทธิเลือกได้ 1 คน โละบัญชีรายชื่อทิ้ง ชี้แค่นำนายทุนสู่การเมือง จ่อชง สปช. กมธ.ยกร่างฯ ต่อหากที่ประชุมเอาด้วย ด้าน “สปช.ประสาร” รับไม่เห็นด้วย หวั่นเพิ่มอำนาจนายกฯ เกิน ยากตรวจสอบ

วันนี้ (8 ธ.ค.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 10.00 น. ได้มีการประชุมคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง สภาปฏิรูปแห่งชาติ ที่มีนายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ เป็นประธาน จะมีการพิจารณาข้อเสนอการปฏิรูปด้านการเมืองก่อนที่จะส่งให้ที่ประชุมใหญ่ สปช.พิจารณาก่อนนำส่งให้คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ประกอบการพิจารณาภายในวันที่ 19 ธันวาคม

โดยนายสมบัติได้ยืนยันว่า มติเสียงข้างมากในที่ประชุมกรรมาธิการฯ เห็นชอบแนวทางให้เลือกนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีโดยตรงตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว โดยวันนี้จะเป็นการพิจารณาเนื้อหาทั้งหมดอีกครั้ง พร้อมชี้แจงถึงเหตุผลของเสียงข้างมากที่เห็นว่าเป็นการให้อำนาจประชาชนได้ตัดสินใจว่าบุคคลใดที่เหมาะสมจะทำหน้าที่ฝ่ายบริหาร ส่วนที่มีกระแสกังวลเกี่ยวกับการตรวจสอบก็มีการออกแบบวิธีการตรวจสอบโดยตั้งกรรมาธิการไต่สวนร่วมกับอัยการอิสระและสามารถนำส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ พร้อมมองว่าระบบการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาไม่เคยทำสำเร็จ ขณะที่การถอดถอนยังคงไว้ซึ่งอำนาจของ ส.ว. ส่วนกระแสฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยให้เหตุผลว่าอาจเกิดความสับสนกับระบอบประธานาธิบดีนั้น การเลือกนายกรัฐมนตรีโดยตรงมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน เพราะไม่ได้เป็นประมุขของประเทศเหมือนกับระบอบประธานาธิบดี

นายสมบัติยังกล่าวถึงระบบการเลือกตั้ง ส.ส.ว่า โดยแบบแบ่งเขตจะเป็นแบบเขตใหญ่ที่มีผู้แทนราษฎร 3 คน โดยผู้ใช้สิทธิจะมีหนึ่งสิทธิหนึ่งเสียงในการเลือกผู้แทนฯ ขณะที่ระบบบัญชีรายชื่อ ทางกรรมาธิการเสียงข้างมากมองว่าไม่จำเป็นต้องมี เพราะที่ผ่านมาระบบบัญชีรายชื่อไม่ได้ตอบสนองในเรื่องการนำผู้มีความรู้ความสามารถมาทำหน้าที่ได้เต็มประสิทธิภาพ แต่กลับสร้างปัญหาเรื่องระบบนายทุนที่เข้ามาเป็นนักการเมือง รวมถึงไม่มีความจำเป็นแล้ว หากมีการเลือกนายกรัฐมนตรีโดยตรง และแม้ว่าข้อเสนอจะสวนกับความเห็นของพรรคการเมือง แต่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปการเมืองให้ดีขึ้น ขณะที่อำนาจของ ป.ป.ช.ยังคงเดิม แต่จะมีการระบุถึงที่มาให้มีความหลากหลาย ไม่แทรกแซงโดยฝ่ายการเมือง

ประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปด้านการเมืองกล่าวอีกว่า ในวันนี้ภายหลังการประชุมจะมีข้อสรุปส่งต่อให้สภาปฏิรูปแห่งชาติ หากมติที่ประชุมรองรับ ก็จะเสนอต่อคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญต่อไป ส่วนจะเห็นชอบในร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญตัดสินใจ

ด้านนายประสาร มฤคพิทักษ์ โฆษกคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง สภาปฏิรูปแห่งชาติ กล่าวถึงมติที่ให้มีการเลือกตั้งคณะรัฐมนตรีโดยตรงว่า ส่วนตัวเป็นเสียงข้างน้อยที่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการดังกล่าว เพราะมองว่าเป็นการเพิ่มอำนาจให้นายกรัฐมนตรีมากเกินไป อีกทั้งไม่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องการซื้อเสียง คนที่ชนะการเลือกตั้ง ต้องใช้งบประมาณมหาศาล ซึ่งเหตุผลที่เสียงข้างมากระบุว่าต้องการให้นายกรัฐมนตรีทำงานครบ 4 ปี ถือเป็นเรื่องอันตราย เพราะหากรัฐบาลเข้มแข็งมากเกินไปจะเป็นการผูกขาดอำนาจและยากต่อการตรวจสอบ

ทั้งนี้เบื้องต้นมีผู้สงวนคำแปรญัตติ 3 คน ประกอบด้วย นายประสาร มฤคพิทักษ์ นายชัย ชิดชอบ และนายฐิติวัฒน์ กำลังเอก


กำลังโหลดความคิดเห็น