xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” ถกทวิภาคีนายกฯ มาเลย์ พอใจคุยมั่นคง เห็นพ้องตั้งเป้ามูลค่าการค้า 1 ล้านล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ประยุทธ์” พร้อมคณะร่วมหารือทวิภาคีนายกฯ มาเลย์ ขอบคุณต้อนรับอบอุ่น ชมวิสัยทัศน์มาเลย์พัฒนาสู่ชาติรายได้สูง ย้ำกระชับสัมพันธ์ หนุนเชื่อมโยงชายแดน พร้อมประชุมหารือกันหลายเวที พอใจคุยมั่นคง ยันสานต่อถกสันติภาพ เร่งพัฒนาเขต ศก.พิเศษสะเดา-ปาดังเบซาร์ เห็นพ้องเพิ่มมูลค่าการค้าเป็น 1 ล้านล้าน พัฒนาท่องเที่ยวร่วมกัน นายกฯ มาเลย์ชมความสัมพันธ์ไทยยาวนาน หนุนพัฒนา ศก.

วันนี้ (1 ธ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เข้าร่วมหารือทวิภาคีเต็มคณะระหว่างนายกรัฐมนตรีกับ ดาโต๊ะ ซรี มูห์ฮัมหมัด นาจิบ บิน ตุน อับดุล ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยมีบุคคลระดับสูงของไทยเข้าร่วมหารือ ประกอบด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นต้น ณ ห้อง Perdana Meeting Room ชั้น 3 ทำเนียบรัฐบาลมาเลเซีย ภายหลังการหารือ ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการหารือ สรุปดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากรัฐบาลมาเลเซีย พร้อมชื่นชมวิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในการพัฒนาประเทศสู่การเป็นประเทศที่มีรายได้สูงตามวิสัยทัศน์ปี 2563 หรือ Vision 2020

นายกรัฐมนตรีย้ำความสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์กับมาเลเซียให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ในฐานะหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและมาเลเซีย ให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างทุกภาคส่วนของทั้งสองประเทศ ส่งเสริมความเชื่อมโยงความร่วมมือด้านการพัฒนาพื้นที่ชายแดน ไทยสนับสนุนการทำหน้าที่ของมาเลเซียในฐานะเป็นประธานอาเซียน และสมาชิกไม่ถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในปี 2558

ทั้งนี้ ไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพการประชุมหารือประจำปี (Annual Consultation) ครั้งที่ 6 ระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยและมาเลเซีย ในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 ไทยยังได้เสนอให้มาเลเซียพิจารณาเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (JC) ไทย-มาเลเซีย ครั้งที่ 13 และคณะกรรมการว่าด้วยยุทธศาสตร์การพัฒนาร่วมสำหรับพื้นที่ชายแดน (JDS) ครั้งที่ 4 ด้วย

ด้านความมั่นคง นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความพอใจผลการพบหารือกลุ่มเล็กกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียก่อนหน้านี้ ซึ่งรัฐบาลไทยยืนยันที่จะเดินหน้าสานต่อกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวก โดยจะได้มีการหารือในรายละเอียดกันต่อไป เพื่อให้กระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขมีความคืบหน้าอย่างแท้จริง

ด้านเศรษฐกิจ ไทยกับมาเลเซียต่างให้ความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ การสร้างความเชื่อมโยงระหว่างกันทั้งรถและราง โดยเฉพาะการเชื่อมโยงในพื้นที่ชายแดน ซึ่งไทยได้มีการเร่งรัดพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษสะเดา-ปาดังเบซาร์ เพื่อเพิ่มการจ้างงาน สร้างรายได้แก่ประชาชนในพื้นที่ ไทยยังอยากเห็นนักลงทุนมาเลเซีย เข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น เช่นเดียวกันกับที่จะส่งเสริมให้นักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนในมาเลเซียเช่นกัน โดยไทยและมาเลเซียเห็นพ้องกันในการตั้งเป้าหมายมูลค่าการค้าเพิ่มขึ้น จาก 8 แสนล้านบาทในปี 2556 ให้ได้ถึง 1 ล้านล้านบาทในปี 2558 ซึ่งไทยได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนของไทย (BOI) ได้พิจารณาปรับเปลี่ยนกฎระเบียบเพื่อให้เอื้อต่อการลงทุนของต่างประเทศด้วย

นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังมีศักยภาพในการพัฒนาการท่องเที่ยวร่วมกันให้มีความแข็งแรงยิ่งขึ้นในลักษณะ Package ทั้งการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ สอดคล้องกับนโยบายของไทย ที่จะกำหนดให้ปีหน้าเป็นปีแห่งการท่องเที่ยวไทยด้วย สำหรับโครงการ Rubber City ระหว่าง จ.สงขลา กับรัฐเกดะห์ ซึ่งทั้งไทยและมาเลเซียได้ร่วมกันผลักดัน ไทยได้ศึกษาการจัดตั้ง Rubber City บริเวณนิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ ที่บ้านฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมแปรรูป เพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ยางและส่งเสริมการจ้างงาน

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้กล่าวชื่นชมความสัมพันธ์ไทยและมาเลเซียที่มีมายาวนาน และมีความร่วมมือกันรอบด้านอย่างลึกซึ้ง มาเลเซียได้สนับสนุนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยได้มอบทุนการศึกษาแก่เยาวชนไทยทั้งสายอาชีวะ การศาสนาและวิชาสามัญ และจะเดินหน้าโครงการความร่วมมือด้านการศึกษาอย่างต่อเนื่อง

นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวสนับสนุนนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับความร่วมมือไทยและมาเลเซียทั้ง การพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน โดยจะส่งเสริมการลงทุนที่เน้นการพัฒนาทุกภาคส่วนทั้งสิ่งปลูกสร้างที่อยู่อาศัย และสิ่งอำนวยความสะดวกในการประกอบอาชีพและกิจกรรมอื่น รวมทั้งการส่งเสริมการเชื่อมโยง (Connectivity) ด้วยเส้นทางถนนและรถไฟจากไทย-มาเลเซีย เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนและการขนส่งสินค้า อาจเชื่อมต่อไปยังอินเดียและจีนในอนาคตด้วย

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวสนับสนุนเป้าหมายมูลค่าการค้า 1 ล้านล้านบาท ของทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ไทยมีความเชี่ยวชาญในสาขายานยนต์ ซึ่งภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ของมาเลเซีย มีความพอใจในการลงทุนในไทยด้วย รวมทั้งมาเลเซียยังสนใจที่จะร่วมมือกับไทยในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยซึ่งเป็นยอมรับในภูมิภาค






กำลังโหลดความคิดเห็น