ชาวบ้านเลาขวัญ กาญจนบุรี 560 ราย ยื่นฟ้องศาลปกครอง ขอให้ อบต.หนองนกแก้ว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิกถอนใบอนุญาต และระงับการประกอบกิจการ โรงงานหลอมทองแดง - ทองเหลือง “ทีซีซี หนองนกแก้ว” ชี้สร้างในเขตพื้นที่อนุรักษ์ป่าไม้ และใกล้ลำห้วยสาธารณะของหมู่บ้าน ทนายความเผยโรงงานก่อสร้างเสร็จแล้วแต่ยังไม่ดำเนินการ ชาวบ้านช่วยเฝ้าระวัง อีกด้านพบเจ้าของโรงงานทำธุรกิจกระดาษหมุนเวียน มารดาเหยื่อซานติก้าผับ
วันนี้ (27 พ.ย.) ที่ศาลปกครอง นายสำนวน ประพิณ พร้อมด้วยทีมทนายความ และตัวแทนชาวบ้าน จ.กาญจนบุรี รับมอบอำนาจ นายจิรพัทธ์ ถิ่นฐาน กับชาวบ้านที่อาศัย ต.หนองนกแก้ว และ ต.หนองประดู่ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี ซึ่งประกอบอาชีพเกษตรกรรม รวม 560 ราย ยื่นฟ้องนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองนกแก้ว, อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม, ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี, สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี, อุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรี, ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรี และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1 - 7 เรื่อง กระทำการโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพิกเฉยละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ ในการอนุมัติออกใบอนุญาตก่อสร้างโรงงานหลอมทองแดง - ทองเหลือง ให้ บริษัท ทีซีซี หนองนกแก้ว จำกัด เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 56 โดยไม่ชอบด้วยหลักกฎหมายและหลักธรรมาภิบาล เพราะไม่ได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของผู้ฟ้องทั้ง 560 ราย และประชาชนทั่วไปที่อาจได้รับผลกระทบและไม่เห็นด้วยกับการออกใบอนุญาตดังกล่าว เนื่องจากโรงงานดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติ รวมทั้งสุขภาพชาวบ้านในอนาคต
ทั้งนี้ คำฟ้องระบุว่า โรงงานหลอมทองแดง - ทองเหลืองของบริษัท ทีซีซีฯ จะมีขนาดกำลังผลิตไม่เกิน 50 ตันต่อวัน ซึ่งแม้ไม่ต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เรื่องกำหนดประเภท และขนาดของโครงการหรือกิจการซึ่งต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและหลักเกณฑ์วิธีการ ระเบียบปฏิบัติ และแนวทางการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ฉบับลงวันที่ 20 มิ.ย. 55 ก็ตาม แต่ตามประกาศดังกล่าวได้กำหนดให้โครงการที่ไม่เข้าข่ายจัดทำรายงาน EIA ต้องจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น หรือ IEE ที่ต้องนำเสนอเหตุผลความจำเป็นการดำเนินโครงการ รวมทั้งที่ตั้งและเหตุผลเลือกที่ตั้งโครงการ และมาตรการป้องกัน แก้ไข การชดเชย กับมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม ที่ต้องดำเนินการตามแนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งการอนุญาตให้โรงงานของบริษัทดังกล่าวประกอบกิจการได้ ทั้งที่อยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ป่าไม้ และก่อสร้างใกล้ลำห้วยสาธารณะของหมู่บ้านที่ใช้อุปโภคบริโภค จึงเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามรูปแบบขั้นตอน และเลือกปฏิบัติไม่เป็นธรรม หรือใช้ดุลพินิจไม่ชอบ จึงจะขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนให้ผู้ถูกฟ้องทั้งเจ็ด เพิกถอนใบอนุญาต เพื่อหยุดหรือระงับการประกอบกิจการของบริษัท หรือย้ายโรงงานของบริษัทดังกล่าวออกจากชุมชน ต.หนองนกแก้ว อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี
ด้าน นายสำนวน ประพิณ ทีมทนายความช่วยเหลือทางกฎหมายจากสภาทนายความ ที่ดูแลคดีให้กับชาวบ้าน กล่าวว่า การยื่นฟ้องเราก็ขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนใบอนุญาตเป็นหลัก โดยไม่ได้ยื่นคำขอไต่สวนฉุกเฉินเพื่อกำหนดมาตรการคุ้มครองหรือบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษาคดี เนื่องจากขณะนี้โรงงานดังกล่าวยังไม่ได้ดำเนินงาน เพียงแต่ได้ก่อสร้างเสร็จแล้ว ดังนั้นระหว่างนี้จึงให้ชาวบ้านช่วยกันเฝ้าระวังติดตามดูว่า หากโรงงานเริ่มประกอบกิจการเมื่อใดแล้ว จะนำข้อเท็จจริงที่ส่งผลกระทบมาเสนอต่อศาลเพิ่มเติมเพื่อระงับความเดือดร้อนเสียหาย
อนึ่ง ผู้สื่อข่าว ASTVผู้จัดการออนไลน์ รายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับ บริษัท ทีซีซี หนองนกแก้ว จำกัด ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จดทะเบียนเมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2556 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ประกอบธุรกิจผลิต หล่อหลอม ขายส่ง ส่งออกทองแดง อะลูมิเนียม ตะกั่วและธาตุอื่น มีนางธนพร ชินเจริญกิจ และ นางหลิว ฟางลี่ เป็นคณะกรรมการบริษัท ซึ่ง นางธนพร ยังเป็นกรรมการ บริษัท ที.โอ.พี. (กระดาษหมุนเวียน) จำกัด ประกอบธุรกิจการขายส่งของเสียและเศษวัสดุเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ ร่วมกับ นายสุรศักดิ์ ยินดีธรรมกิจ ซึ่งมีโรงงานอยู่ที่ จ.สมุทรสาคร นอกจากนี้ นางธนพร ยังเป็นมารดาของนายสมิต ยินดีธรรมกิจ ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์เพลิงไหม้ซานติก้าผับ ที่ซอยสุขุมวิท 63 เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2551
