ตำรวจ-ทหารบุกจับ 4 ผู้ต้องหาแก๊งทองปลอม เช่าบ้านย่านราษฎร์บูรณะเป็นฐานการผลิต สารภาพเคยทำมาก่อนแล้ว แต่ปี 55 ถูกออกหมายจับจึงหยุดไป ล่าสุดกลับมาทำอีกครั้ง เผยทำเสร็จแจกจ่ายลูกน้องไปฝากขาย-จำนำร้านทองย่านปริมณฑลและต่างจังหวัด รรท.ผบก.น.8 สั่งล่าเพื่อร่วมแก๊ง พร้อมติดตามเจ้าของร้านทอง-โรงจำนำที่ตกเป็นเหยื่อมาแจ้งความเพิ่ม ให้ได้รับโทษตามกฎหมายขั้นสูงสุด
เมื่อเวลา 00.00 น. วันนี้ (31 ต.ค.) พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.ผบช.น. พ.ต.อ.วิสูตร ฉัตรชัยเดช รรท.ผบก.น.6 พ.ต.อ.ฤชากร จรเจวุฒิ รรท.ผบก.น.8 พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.3 บก.สส.บช.น. ฝ่ายสืบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ และทหาพล.ร.9 เข้าตรวจค้นบ้านพักเลขที่ 73 หมู่บ้านเบสท์แลนวิลล่า ซอยประชาอุทิศ 33 แขวงและเขตราษฎร์บูรณะ กทม.
หลังก่อนหน้านี้ได้จับกุมนายธนากร อาภรณ์ชัย อายุ 35 ปี ขณะนำทองปลอมไปแจกจ่ายให้คนในขบวนการ นำไปหลอกจำนำตามร้านค้าทองย่านตลาดมีนบุรี แล้วขยายผลจนทราบว่ามีขบวนการผลิตทองปลอม มาเช่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นที่ผลิต
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด เนื้อที่ประมาณ 60 ตารางวา ประตูหน้าบ้านไม่ได้ล็อค จึงแสดงตัวเพื่อขอเข้าตรวจค้น พบชั้นล่างพบอุปกรณ์ในการทำทองจำนวนมาก เช่น เครื่องรีดทอง เครื่องชั่ง ตราประทับชื่อร้านทอง เครื่องหลอม เครื่องยืดทอง เป็นต้น ส่วนชั้น 2 ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ จับกุมผู้ต้องหาได้ 4 ราย ประกอบด้วย นายบุญช่วย ชัยโนนตุ่น อายุ 50 ปี ผู้เช่าบ้านหลังดังกล่าว นางสมจิต ชัยโนนตุ่น อายุ 52 ปี ภรรยานายอนุรักษ์ เสนาฤทธิ์ อายุ 41 ปี และนายพีรทัด ชัยโนนตุ่น อายุ 29 ปี ทั้งสองเป็นช่างทำทองคำปลอม จึงควบคุมตัวพร้อมยึดอุปกรณ์ผลิตทองคำปลอมทั้งหมดไว้เป็นของกลาง
สอบสวนนายบุญช่วยรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 ปีที่ผ่านมาเคยเปิดโรงงานผลิตทองปลอม พร้อมแจกจ่ายให้ลูกน้องไปจำนำที่ร้านทอง จนถึงปี 2555 ถูกเจ้าหน้าที่ออกหมายจับคดีซ่องโจรเพื่อฉ้อโกง พื้นที่ สน.ชนะสงคราม ตนและภรรยาจึงพักการผลิตทองไปเป็นเวลา 1 ปี เพราะกลัวถูกจับ กระทั่งล่าสุดกลับมาผลิตอีกครั้ง โดยเช่าบ้านหลังดังกล่าวมาตั้งแต่เดือนเมษายน เดือนละ 8,000 บาท ไว้สำหรับผลิตทองรูปพรรณปลอม ส่วนเครื่องมือที่ใช้ผลิตก็หาซื้อจากร้านขายเครื่องจักรย่านวงเวียนใหญ่
สำหรับกระบวนการผลิตเริ่มจากการรับซื้อทองคำจริงน้ำหนัก 2 สลึง ราคา 2,000 บาท นำมารีดผสมเงินผลิตเป็นสร้อยคอ พร้อมทำเครื่องหมายร้านปลอม ส่วนใหญ่จะผลิตออกมาเป็นทองรูปพรรณน้ำหนัก 2 สลึงเท่าเดิม แต่เปอร์เซ็นของทองจะลดลง เมื่อได้ของแล้วก็จะแจกจ่ายให้ลูกน้อง นำทองไปฝากขาย หรือจำนำกับร้านค้าทองในปริมณฑลและต่างจังหวัด ราคา 5,000-8,000 บาท โดยผลิตได้วันละ 2 เส้น
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามีความผิดตาม พ.ร.บ.โรงงานอุตสาหกรรม ปลอมแปลงเครื่องหมายการค้า ครอบครอง หรือผลิตเครื่องหมายการค้า ไม่ว่าจดทะเบียนในหรือนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนสน.ราษฎร์บูรณะ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
เวลา 12.30 น. ที่บก.น.8 พ.ต.อ.ฤชากร จรเจวุฒิ รรท.ผบก.น.8 กล่าวว่า ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนสน.ราษฎร์บูรณะ และพนักงานสอบสวน ร่วมกันขยายผลหาตัวผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการ ซึ่งยังหลบหนีอยู่ โดยเฉพาะผู้ที่นำทองปลอมไปจำนำ และขายตามร้านทองต่างๆ ทั้งในกทม.และปริมณฑล มาดำเนินคดีร่วมกัน เบื้องต้นพอรู้ตัวแล้ว แต่ต้องสอบเค้นให้ได้จำนวนคนที่แน่ชัด
ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหานั้น ต้องติดตามเจ้าของร้านทองที่เป็นผู้เสียหายมาสอบปากคำ เชื่อว่ายังมีร้านค้าทองและโรงรับจำนำหลายราย ที่ตกเป็นเหยื่อรับซื้อหรือรับจำนำทองรูปพรรณปลอม จึงอยากประชาสัมพันธ์ให้มาแจ้งความ และให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนสน.ราษฎร์บูรณะ เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับผู้กระทำผิด ให้ได้รับโทษตามกฎหมายขั้นสูงสุดต่อไป นอกจากนี้จะประสานเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วย เพราะผู้ต้องหาเปิดโรงงานโดยไม่ขออนุญาตอีกด้วย