xs
xsm
sm
md
lg

จับสาวโคราชตุ๋นเงินร้านจำหน่ายปุ๋ยมูลค่า 10 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

น.ส.ปัญญาพร นิลเกต ผู้ต้องหา
กองปราบฯ ตามรวบสาวเมืองย่าโม ปลอมเอกสารกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง ลวงเงินผู้ประกอบการจำหน่ายและผลิตปุ๋ยทางภาคอีสาน และภาคกลาง มูลค่าความเสียหายนับ 10 ล้านบาท แถมยังมีหมายจับคดีฉ้อโกงอีกหนึ่งคดี

วันนี้ (26 ก.ย.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 12.30 น. พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. พ.ต.อ.ณต เศวตเลข รอง ผบก.ป. พ.ต.ท.ต่อวงศ์ พิทักษ์โกศล สว.กก.1 บก.ป. แถลงจับกุม น.ส.ปัญญาพร นิลเกต อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 191/27 หมู่ 10 ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 642/2557 ลงวันที่ 5 กันยายน 2557 ข้อหาปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม และฉ้อโกง จับกุมได้ที่ริมถนนทางหลวง หมายเลข 2256 (ม่วงค่อม-ด่านขุนทด) ใกล้สี่แยกเขาน้อย ต.เขาน้อย อ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา

พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้มีกลุ่มผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ประกอบการจำหน่ายปุ๋ยและโรงงานผลิตปุ๋ยทางภาคอีสาน และภาคกลาง เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.ป.ว่าถูก น.ส.ปัญญาพรหลอกลวงให้เข้าร่วมโครงการสั่งซื้อปุ๋ยจาก 9 จังหวัดทางภาคอีสาน ประกอบด้วย จ.ขอนแก่น จ.อุดรธานี จ.หนองคาย จ.บึงกาฬ จ.อุบลราชธานี จ.สุรินทร์ จ.บุรีรัมย์ จ.มุกดาหาร และ จ.กาฬสินธุ์ ของสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง โดยอ้างตัวว่ารู้จักผู้ใหญ่ในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สามารถช่วยให้ได้รับสัมปทานโครงการดังกล่าว แต่มีการเรียกเงินจากผู้เสียหายเป็นค่าดำเนินการรายละ 3-4 แสนบาท และมีการโอนเงินให้หลายครั้ง รวมมูลค่าเสียหายกว่า 10 ล้านบาท

พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวต่อว่า หลังจากได้รับแจ้ง ทางชุดสืบสวน กก.1 บก.ป.ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวบพยานหลักฐานต่างๆ กระทั่งพบว่าโครงการนี้ เป็นเพียงการแอบอ้างของ น.ส.ปัญญาพร ส่วนเอกสารประกาศโครงการซึ่งมีตราประทับของกองทุนสงเคราะห์ฯ นั้นถูกทำปลอมขึ้นเพื่อหลอกลวงผู้เสียหาย ชุดสืบสวนจึงเร่งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ก่อนขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาเอาไว้ กระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวไว้ได้ดังกล่าว

สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้หลอกลวงผู้เสียหายจริง โดยเรียนจบชั้น ปวส.ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นได้คิดเองคนเดียว โดยหาข้อมูลจากทางอินเทอร์เน็ต ส่วนเอกสารและตราประทับของกองทุนสงเคราะห์ฯ ก็ทำปลอมขึ้นเพื่อหลอกลวงผู้เสียหาย ยืนยันว่าไม่ได้รู้จักกับผู้ใหญ่ในกระทรวงเกษตรฯ แต่อย่างใด สำหรับบุคคลที่ได้โทรศัพท์ไปสอบถามก็ให้คนรู้จักกันอ้างเป็นข้าราชการระดับสูงในกระทรวงเกษตรฯ เพื่อหลอกลวงผู้เสียหาย ให้เกิดความไว้วางใจเท่านั้น

อย่างไรก็ดตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ เนื่องจากกรณีที่เกิดขึ้นมีการจัดทำร่างโครงการและสัญญาซึ่งใช้ภาษากฎหมายได้อย่างแนบเนียนน่าเชื่อถือ จึงเชื่อว่าน่าจะมีผู้ให้คำปรึกษาหรืออยู่เบื้องหลัง จึงเตรียมสืบสวนขยายผลการจับกุมต่อไป นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหายังมีหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ 44/2557 ลงวันที่ 25 มกราคม 2557 ข้อหาฉ้อโกงติดตัวอยู่ด้วย

ด้านนายศรัณย์ จาตกานนท์ อายุ 36 ปี เจ้าของโรงงานไทยไบโอเทค เฟอร์ติไลเซอร์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม หนึ่งในผู้เสียหายกล่าวว่า เมื่อประมาณเดือนกันยายน 2556 ได้รู้จักกับผู้ต้องหาผ่านทางน้องที่สนิทกัน โดยผู้ต้องหารายนี้อ้างว่าสามารถช่วยเหลือให้ได้รับสัมปทานในโครงการดังกล่าวได้ซึ่งต้องการปุ๋ยเป็นจำนวนมากและจะทำกำไรได้มหาศาลตลอดระยะเวลาของโครงการ 5 ปี จึงสนใจ ประกอบกับได้เห็นเอกสารที่มีตราประทับของหน่วยงานราชการ ทำให้เกิดความเชื่อถือ แต่ทางผู้ต้องหาได้เรียกเงินเป็นค่าดำเนินการอ้างว่าต้องนำไปดูแลผู้ใหญ่ในกระทรวงเกษตรฯ

นายศรัณย์เปิดเผยอีกว่า ที่ผ่านมาได้โอนเงินให้กับผู้ต้องหาเป็นค่าดำเนินการมาแล้วกว่า 10 ครั้ง มีทั้งบัญชีธนาคารในชื่อของผู้ต้องหา และบุคคลอื่นรวม 3 บัญชี เป็นเงินครั้งๆ ละ 1.5 แสนบาท รวมแล้วโอนไปทั้งสิ้น 1.9 ล้านบาท ส่วนปุ๋ยที่เตรียมส่งมอบก็จะถูกอ้างเรื่องคุณภาพว่าไม่ผ่านการประเมิน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ได้มีการตรวจสอบคุณภาพไปแล้ว แต่เป็นเพราะทิ้งไว้นานจึงเกิดเสื่อมสภาพ หรือมีปัญหาติดขัด เช่น มีบริษัทที่สนใจจะเข้าร่วมโครงการจำนวนมากจึงต้องใช้เวลาในการพิจารณาคัดเลือกผู้ได้รับสัมปทาน

นายศรัณย์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ผู้ต้องหายังทำทีโทรศัพท์ไปพูดคุยกับบุคคลที่อ้างว่าเป็นผู้ใหญ่ในกระทรวงเกษตรฯ ก่อนจะแจ้งกับตนว่าจะมีการขยายโครงการออกไปจาก 9 เป็น 19 จังหวัด ขอให้ตนอดทนรอ แต่เมื่อพบว่ามีผู้ประกอบการอีกหลายรายที่ถูกกล่าวอ้างลักษณะเดียวกันจึงเชื่อว่าถูกหลอกลวง ก่อนจะรวมตัวกันเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาเอาไว้ และบางรายได้แจ้งความตำรวจท้องที่ไว้แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของ พล.ต.ต.สุพิศาลครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกหลังลาออกจากราชการไปลงสมัครเลือกตั้ง ส.ว.กทม. ก่อนขอเข้ามารับราชการในตำแหน่ง ผบก.ป.อีกครั้ง ซึ่งเจ้าตัวจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายนนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น