รวบโจรสองพี่น้องควบ จยย.ตระเวนชิงทรัพย์ นศ.สาว

ตำรวจราษฎร์บูรณะ รวบหนุ่ม 2 พี่น้องควบ จยย. ตระเวนชิงทรัพย์นักศึกษาสาว อ้างต้องดูแลลูกเมียเงินไม่พอใช้จึงมาก่อเหตุ

เมื่อเวลา 17.30 น. วันนี้ (3 ต.ค.) ที่ สน.ราษฎร์บูรณะ พ.ต.อ.ฤชากร จรเจวุฒิ รรท.ผบก.น.8 พร้อมด้วย พ.ต.อ.เจษฎา สวยสม ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ พ.ต.ท.ณัฐจักร จันลา รอง ผกก.สส.สน.ราษฎร์บูรณะ และ พ.ต.ท.ทรงวุฒิ เชื้อพลากิจสว.สส.สน.ราษฎร์บูรณะ แถลงผลการจับกุม นายพิชัย พรหมทอง อายุ 31 ปี นายพิชิต พรหมทอง อายุ 29 ปี สองพี่น้องก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์สาวนักศึกษาย่านประชาอุทิศ พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซูเมอร์เอ็กซ์ สีเหลืองดำ ทะเบียน 2 กว-3002 กรุงเทพมหานคร รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีน้ำเงินดำ ทะเบียน 2 กต-2069 กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง ไอแพดมินิ 1 เครื่อง กระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง 1 ใบ โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านพักในซอยประชาอุทิศ 22 แยก 3 แขวงและเขตราษฎร์บูรณะ กทม.

พ.ต.อ.ฤชากร กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากในช่วงเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันมีผู้เสียหายหญิง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ ว่า ถูกคนร้ายชาย 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์สีเหลืองดำ และสีน้ำเงินดำ ก่อเหตุวิ่งราวกระเป๋าสะพายแล้วหลบหนีไปจำนวนหลายคดี โดยคนร้ายชาย 2 คนนี้ มักจะเลือกก่อเหตุในช่วงหัวค่ำจนถึงกลางดึก จากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ จึงออกหาข่าวตามร้านขายของเก่า ร้านรับซื้อโทรศัพท์มือถือ ตลอดจนโรงรับจำนำในละแวกใกล้เคียง จนพบว่า นายพิชัย และ นายพิชิต ผู้ต้องหาซึ่งเป็นพี่น้องกัน มักนำทรัพย์สินที่ได้จากการวิ่งราวทรัพย์ไปขายกระทั่งนำกำลังติดตามไปจับกุมตัวได้ที่บ้านพัก

จากการสอบสวน นายพิชัย ให้การรับสารภาพว่า ตนเคยถูกตำรวจ สน.ทุ่งครุ จับกุมข้อหาค้ายาบ้ามาแล้วครั้งหนึ่งติดคุกพ้นโทษออกมาเมื่อปี พ.ศ. 2551 ปัจจุบันเป็นพนักงานโรงงานทำสเตนเลสย่านประชาอุทิศ ส่วน นายพิชิต น้องชายไม่ได้ทำงานอะไรเคยถูกตำรวจ สน.ทุ่งครุ จับกุมข้อหาเสพยาบ้า โดยตนทั้ง 2 คนล้วนมีลูกเมียต้องดูแล ทำให้รายได้ไม่พอใช้ จึงชักชวนกันออกก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์เหยื่อนักศึกษาสาวที่เดินอยู่ตามข้างทางยามค่ำคืน หรือพวกที่นั่งรับประทานอาหารตามร้านริมถนนแล้ววางกระเป๋าเอาไว้ล่อตา โดยตนทำหน้าที่ขับขี่รถให้ นายพิชิต ลงมือวิ่งราวทรัพย์ ร่วมกันก่อเหตุมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมจนถึงปัจจุบันประมาณเกือบ 10 คดี เมื่อได้ทรัพย์สินมาแล้ว อาทิ โทรศัพท์มือถือ หรือเครื่องประดับก็จะนำไปขายตามร้านในพื้นที่ใกล้เคียงและพื้นที่ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ก่อนเอาเงินมาแบ่งกันใช้จ่าย สำหรับสาเหตุที่เลือกลงมือกับนักศึกษาสาวนั้น เพราะเห็นว่าเป็นผู้หญิงไม่มีทางสู้และที่ผ่านมาก็ไม่เคยทำร้ายเหยื่อแต่อย่างใด

น.ส.นฤมล ม่วงไหมทอง อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิศวกรรมเคมี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา ตนกำลังเดินกลับเข้าหอพักภายในซอยประชาอุทิศ 53 กับเพื่อนอีก 2-3 คน โดยตนเดินอยู่ริมถนนด้านนอกสุด สักพักคนร้ายก็ขับรถมาประกบในลักษณะเฉียดให้ตนตกใจก่อนอาศัยช่วงที่สติเตลิดเปิดโปงวิ่งราวเอากระเป๋าสะพายภายในบรรจุไอแพดมินิ 1 เครื่อง และโทรศัพท์มือถืออีก 1 เครื่องไปอย่างรวดเร็ว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุมหรือรับของโจร” ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมาย สำหรับผู้เสียหายรายอื่นๆ ที่สงสัยว่าจะถูกผู้ต้องหาคู่นี้ลงมือก่อเหตุขอให้เดินทางมาดูตัวและยานพาหนะได้ที่ สน.ราษฎร์บูรณะ เพื่ออายัดตัวแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกันต่อไป