xs
xsm
sm
md
lg

ไฟไหม้โรงงานSVIวอด 300คนงานหนีตายวุ่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ไฟไหม้โรงงาน SVI บางกระดีวอด อพยพคนงาน 300 ชีวิตหนีตายวุ่น มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว เผยต้นเพลิงเกิดจากสะเก็ดลูกไฟช่างเชื่อมกระเด็นไปติดกล่องชิ้นส่วน คาดเสียหายพันล้าน กรมควบคุมมลพิษจับตาควันพิษและน้ำที่ใช้ดับเพลิง หวั่นมีสารปนเปื้อน อุตสาหกรรมสั่งปิดโรงงาน 60 วัน ด้านราคาหุ้นเจอแรงเทขาย ดิ่งติดฟลอร์ 4.24 บาท จากราคาปิดก่อนหน้า 6.05 บาท

วานนี้ (12 พ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้โรงงานของบริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน) ซึ่งผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ในสวนอุตสาหกรรมบางกะดี โดยไฟไหม้อาคารผลิต เลขที่ 142 หมู่ 5 ต.บางกะดี อ.เมือง จ.ปทุมธานี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมรถดับเพลิงจากเทศบาลบางกะดีและท้องที่ใกล้เคียงกว่า 50 คัน โดยที่เกิดเหตุเป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 40 ไร่ และพบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้โกดังอย่างรวดเร็ว

โรงงานดังกล่าว มีลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียวในเนื้อที่ประมาณ 10ไร่ ด้านในเป็นโรงงานผลิตและคลังเก็บอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยแสงเพลิงและกลุ่มควันสีดำพวยพุ่งออกมาเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีเสียงระเบิดดังอยู่ภายในอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีแก๊สและน้ำมัน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เร่งสกัดเพลิงไว้ในวงจำกัด เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นคนงานหญิง จำนวน 2 คน มีอาการสำลักควัน เจ้าหน้าที่จึงช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลปทุมธานี ทราบชื่อ น.ส.จิรพร โชติช่วง อายุ 34 ปี และ นางสุนันทา ประสานทรัพย์ อายุ 47 ปี

ในเบื้องต้น เจ้าหน้าทหารที่ได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือ ได้ทำการอพยพคนงานที่มีอยู่กว่า 200 คน ออกจากพื้นที่อย่างปลอดภัย ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เร่งระดมฉีดน้ำสกัดดับไฟ และสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้

ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่คาดว่า เกิดจากสะเก็ดลูกไฟที่ช่างกำลังเชื่อมภายในโรงงานมีการต่อเติมอาคาร กระเด็นไปติดกองกล่องชิ้นส่วน แล้วเกิดลุกลาม ทำให้เกิดเพลิงไหม้ อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะประสานให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้อีกครั้ง โดยมูลค่าความเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้ แต่เบื้องต้นน่าจะอยู่ในหลัก 500-1,000 ล้านบาท

ต่อมา นายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยพล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี และพ.ต.อ.ธนกฤต อ่อนละออ ผกก.สภ.ปากคลองรังสิต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง และปภ.ปทุมธานี ได้เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

นายธวัชชัย อึ้งอัมพรวิไล นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบางกะดี กล่าวว่า สาเหตุของไฟไหม้ที่แท้จริงยังไม่ทราบ แต่ขณะเกิดเหตุมีพนักงานทำงานอยู่ราว 300 คน ซึ่งโรงงานนี้มีพนักงานทั้งหมด 3,000 คน โดยในส่วนของกลุ่มควันไฟ ได้ปกคลุมรอบนิคมอุตสาหกรรมบางกะดี และบริเวณใกล้เคียง ซึ่งเจ้าหน้าที่ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปทุมธานี กำลังสำรวจว่ามีผลกระทบหรือไม่ โดยเฉพาะกับโรงเรียนที่มีการเรียนการสอนอยู่

นายพีรพัฒน์ พรศิริเลิศกิจ อธิบกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวว่า ได้กำชับให้สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดปทุมธานี ประสานสำนักงานประกันสังคม ลงพื้นที่ไปช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานและผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว

นพ.อนุรักษ์ อมรเพชรสถาพร ผู้อำนวยการสำนักงานสาธารณสุขฉุกเฉิน (สธฉ.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากการตรวจสอบไปยังพื้นที่ พบว่าพนักงานหญิงของโรงงานดังกล่าวได้รับบาดเจ็บจากการสำลักควันและไฟไหม้จำนวน 2 คน โดยคนหนึ่งสามารถกลับบ้านได้แล้ว แต่อีกคนยังต้องนอนรักษาแผลไฟไหม้ต่อที่ รพ.ปทุมธานี โดยอาการไม่น่าเป็นห่วงนัก เพราะแผลไฟไหม้อยู่ในระดับกลาง ค่อนมาในระดับต้น

ส่วนผลกระทบจากสารเคมีนั้นยังไม่มีรายงาน แต่กำลังประสานไปยังกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งดูแลเรื่องนี้อยู่ จะมีความแม่นมากกว่า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างควบคุมเพลิง ซึ่งในที่เกิดเหตุมีกลุ่มควันและกลิ่นสารเคมีแรงมาก

นางสุณี ปิยะพันธุ์พงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า ในพื้นที่อาจเกิดการปนเปื้อนของแก๊สไฮโดรเจนคลอไรด์ หรือคลอรีนที่มาจากการเผาไหม้แผงวงจรและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนน้ำจากการดับไฟ ซึ่งมีสารปนเปื้อนต้องนำไปผ่านกระบวนการบำบัด โดยกรมควบคุมมลพิษจะติดตามสถานการณ์ประเมินทิศทางลม 24 ชั่วโมง และภายในเวลา 8 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ไม่ควรอยู่ในพื้นที่ และไม่ควรรับแก๊สเกิน 0.1 พีพีเอ็ม

ทางด้านนายศักดา พันธุ์กล้า รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กล่าวว่า นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รมว.อุตสาหกรรม ได้สั่งการให้ กรอ. ลงพื้นที่ตรวจสอบ ซึ่งเบื้องต้น กรอ. ได้สั่งปิดโรงงานดังกล่าวแล้ว 60 วัน เพื่อตรวจสอบตัวอาคารและความเสียหายเพื่อความปลอดภัย โดยเบื้องต้นคาดว่า มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท แต่จะต้องรอการตรวจสอบอย่างชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง

นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า บริษัทที่ประสบเหตุ ตั้งอยู่ในสวนอุตสาหกรรมบางกะดี ซึ่งมิได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กนอ. แต่ กนอ. ได้ประสานงานไปยังสวนอุตสาหกรรมบางกะดี และ กรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลเขตประกอบการอุตสาหกรรม และสวนอุตสาหกรรม ในเบื้องต้นแล้ว เพื่อแจ้งว่า กนอ. พร้อมให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ อย่างเต็มที่ โดยขณะนี้ได้จัดส่งรถ Mobile Unit ตรวจวัดคุณภาพอากาศ จากนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ไปยังพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบและเฝ้าระวัง คุณภาพอากาศและช่วยสร้างความมั่นใจให้กับชุมชนที่อยู่โดยรอบโรงงานดังกล่าว

สำหรับความเคลื่อนไหวของหลักทรัพย์ของบริษัท SVI ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ขึ้นเครื่องหมาย H ห้ามซื้อขายหลักทรัพย์ในช่วงเช้า และได้ปลดเครื่องหมายในเวลาประมาณ 12.00 น. ซึ่งหลักจากปลดเครื่องหมาย ราคาหุ้นได้เปิดลดลงติดฟลอร์ ที่ 4.24 บาท ลดลง 29.92% จากราคาปิดวันก่อนหน้าที่ 6.05 บาท โดยราคาได้ปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 4.90 บาท และลดลงต่อเนื่อง จนมาเปิดตลาดภาคบ่ายที่ 4.38 บาท และเจอแรงเทขายจนราคาหุ้นติดฟลอร์อีกครั้งจนปิดตลาด โดยมีมูลค่าการซื้อขายกว่า 3,200 ล้านบาท

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟินันเซียไซรัส ได้ปรับลดคำแนะนำ “ขาย” โดยระบุว่า แม้บริษัทจะมีการทำประกันภัยครอบคลุม แต่ระยะสั้นจะกระทบต่อผลการดำเนินงานไปอย่างน้อย 2-3 ไตรมาส เพราะเป็นโรงงานหลักที่ใช้ในการผลิต แม้จะมีโรงงานสำรองที่แจ้งวัฒนะ (ใช้ผลิตช่วงน้ำท่วม) แต่เครื่องจักรที่บางกระดีได้รับความเสียหาย ไม่สามารถย้ายมาผลิตที่แจ้งวัฒนะได้เหมือนตอนน้ำท่วม ในขณะที่การสั่งซื้อเครื่องจักรใหม่ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน ส่วนราคาหุ้นได้ปรับเพิ่มขึ้นมาค่อนข้างแรงบวก 13% ภายใน 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา และเต็มมูลค่าแล้ว เมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายที่ 5.90 บาท
กำลังโหลดความคิดเห็น