“ทีมทนายยิ่งลักษณ์” ยื่น ปธ.สนช.ขอเพิ่มเติมเอกสารคดีถอดถอน จี้ ป.ป.ช.ต้องรวมหลักฐานผู้ถูกกล่าวหามาหักล้างด้วย โวยมีพิรุธ ยกมติ ครม.-รายงาน กขช.-ข้อสั่งการอดีตนายกฯ นำมาพิจารณามีสิทธิพ้นผิด แต่ ป.ป.ช.กลับเมิน จึงใช้สิทธิยื่นเพื่อให้พิจารณาอย่างเที่ยงธรรม ดักอย่ากล่าวหาประวิงคดี โต้ไม่ได้รับกระบวนการถอดถอน ยังยื่นค้านอำนาจ สนช.อยู่ ตอบไม่ได้เจ้าตัวมาแจงเอง
วันนี้ (21 พ.ย.) นายนรวิชญ์ แหล่งหล้า พร้อมด้วยทีมทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยื่นขอเพิ่มเติมพยานเอกสารต่อนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในการพิจารณาถอดถอนออกจากตำแหน่งจากคำร้องของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่กล่าวหาปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในโครงการจำนำข้าว
ทั้งนี้ นายนรวิชญ์กล่าวว่า เนื่องจากข้อบังคับการประชุมสภาสนช.ข้อ 153 ในการพิจารณาสำนวนของ ป.ป.ช.เป็นหลัก ดังนั้น ป.ป.ช.ต้องรวบรวมพยานหลักฐานของฝ่ายผู้ถูกกล่าวหานำเข้าสู่การพิจารณาของ ป.ป.ช.ที่ถือเป็นคุณแก่ฝ่ายผู้ถูกกล่าวหา ถือเป็นหลักในการอำนวยความยุติธรรมตามหลักสากล กฎหมายจึงยินยอมไว้เนื้อเชื่อใจให้ยึดสำนวน ป.ป.ช.เป็นหลัก ไม่ใช่ ป.ป.ช.จะยึดแต่พยานหลักฐานของตนหรือของผู้กล่าวหาอย่างเดียวในการนำเข้าสู่การพิจารณาของ ป.ป.ช. แต่คดีมีพิรุธ ข้อตำหนิ และข้อสังเกตว่า ป.ป.ช.ไม่ยอมนำหลักฐานที่เป็นประเด็นสำคัญในการหักล้างข้อกล่าวหาเข้าสู่การพิจารณาในชั้นไต่สวนของ ป.ป.ช.
นายนรวิชญ์กล่าวว่า จากที่ได้ตรวจสอบรายงานสำนวนคดีและพยานเอกสารบางส่วน จากจำนวน 3,870 แผ่นแล้วเห็นว่า พยานเอกสารสำคัญที่เป็นคุณแก่ผู้ถูกกล่าวหาและพยานผู้ถูกกล่าวหา อ้างส่งพยานเอกสาร ได้แก่มติ ครม.และรายงานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) และข้อสั่งการของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งหลักฐานดังกล่าวหานำเข้าสู่การพิจารณาของ ป.ป.ช. แล้วอาจชี้มูลความผิดไม่ได้ ดังนั้นจากการตรวจสอบจึงพบแต่เพียงพยานเอกสารของ ป.ป.ช.เท่านั้น ที่คณะกรรมการยอมนำเข้าสู่การพิจารณา จึงเป็นเหตุให้ทีมทนายเห็นว่าหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป น.ส.ยิ่งลักษณ์จะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงจำเป็นจ้องเสนอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ใช้สิทธิตามข้อบังคับ สนช.ข้อ 155 เพื่อเพิ่มเติมพยานเอกสารดังกล่าว เข้าสู่การพิจารณาของ สนช.เพื่อให้การพิจารณาถอดถอนเป็นไปโดยถูกต้องเที่ยงธรรม โดยมีการรับฟังพยานทั้งสองฝ่าย
“หากใครได้ตรวจสอบรายงานของ ป.ป.ช.จะพบว่าไม่มีข้อพิจารณา หรือข้อวินิจฉัยใดๆ เกี่ยวกับพยานเอกสารของฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาเลย เราจึงจำเป็นต้องต่อสู้คดีเพื่อให้ลูกความได้รับความเป็นธรรม ผู้ที่ไม่เข้าถึงเอกสารอย่าด่วนมาตำหนิติเตียนว่าเราประวิงคดี ถ้าไม่เข้าใจอย่าด่วนกล่าวหากัน เราเพียงแต่ไม่ต้องการให้ผู้ถูกกล่าวหาถูกเอารัดเอาเปรียบในเชิงคดี โดยไม่เป็นธรรม และพยานเอกสารที่ขอเพิ่มไม่ใช่เป็นการยื่นพยานหลักฐานใหม่ แต่เป็นพยานเอกสารที่ ป.ป.ช.รับอยู่ในรายงานไต่สวนแล้ว แต่ไม่ยอมนำเข้าสู่การพิจารณาของ ป.ป.ช.”
ผู้สื่อข่าวถามว่า การยื่นพยานเอกสารเพิ่มเติมเท่ากับยอมรับกระบวนการถอดถอนใช่หรือไม่ นายนรวิชญ์ปฏิสธว่าไม่ได้หมายความว่าพวกตนยอมรับ เพราะยังมีการยื่นคัดค้านเกี่ยวกับข้อกฎหมายว่า สนช.มีอำนาจพิจารณาถอดถอนหรือไม่ จึงขอให้ประธานมีคำสั่งอย่างเป็นการหรือให้ สนช.มีมติให้ชัดเจนแต่ถ้า สนช.ยืนยันอำนาจตัวเองโดยไม่มีมติเพิ่มเติมก็จะมีการพิจารณาอีกครั้ง แต่ขณะนี้ส่วนใดที่สามารถทำได้ก็ต้องทำไปก่อนเพื่อหักล้างข้อกล่าวหา และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเดินทางมาแก้ข้อกล่าวหาด้วยตัวเองหรือไม่ ยังมีเวลาตัดสินใจและยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะยอมรับต่อผลลัพท์ที่จะออกมาได้หรือไม่