หัวหน้าชาติพัฒนา หารือ กมธ.ยกร่างฯ ยันพร้อมให้ความร่วมมือ แนะ ส.ว.ควรอาวุโส มีประสบการณ์ ให้บทบาทเลือกตั้งกับสรรหาต่างกัน นายกฯ ควรมาจาก ส.ส. เว้นแต่ช่วงวิกฤตแต่ต้องอยู่ไม่นาน ด้านกุนซือพลังชลขอกฎหมายเป็นกลาง หนุน ส.ส.เขตเดียวเบอร์เดียว แนะแก้ให้มีอิสระฝืนมติพรรคได้
วันนี้ (19 พ.ย.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 10.00 น. นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกุล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าหารือกับคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญถึงเรื่องการรับฟังความเห็นของประชาชนที่ขณะนี้ยังติดปัญหาเรื่องกฎอัยการศึกว่าควรมีการผ่อนปรนหรือไม่ ว่าอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อการรับฟังความคิดเห็น ถ้าพิจารณาผ่อนปรนได้ก็ควรจะให้ตามความเหมาะสม ในฐานะที่เป็นพรรคการเมืองเราก็พร้อมให้ความร่วมมือกับทุกฝ่ายในการพัฒนาประเทศ
เมื่อถามว่า ในพื้นที่ภาคอีสานยังมีปัญหาเรื่องความขัดแย้งอยู่นั้น นพ.วรรณรัตน์กล่าวว่า ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่ให้มีการเคลื่อนไหวทางการเมือง พรรคชาติพัฒนาเราก็ปฏิบัติตามกรอบอยู่แล้ว
สำหรับแนวทางที่พรรคชาติพัฒนาเสนอต่อ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ มีสาระสำคัญ ดังนี้ คือ ส่วนคุณสมบัติ ส.ว.ควรมีความอาวุโส และมีประสบการณ์มากกว่า ส.ส.เพื่อทำหน้าที่กลั่นกรองกฎหมายให้ประชาชนอีกขั้นหนึ่ง นอกจากนี้ ส.ว.เลือกตั้งและสรรหาควรมีบทบาทแตกต่างกัน รวมถึงนายกรัฐมนตรีควรมาจากการเป็นส.ส. ในกรณีที่บ้านเมืองมีวิกฤตต่างๆ ให้มี นายกฯ ที่ไม่ได้มาจาก ส.ส.ได้ แต่ต้องมีอำนาจหน้าที่และระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งต่างจากนายกฯ ที่มาจาก ส.ส. ส่วนเรื่องนโยบายประชานิยมของฝ่ายบริหารต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาก่อนนำไปปฏิบัติ สำหรับขั้นตอนการสรรหาองค์กรอิสระต้องมีส่วนร่วมจากประชาชนและทุกองค์กรสามารถตรวจสอบได้
ด้านนายสันต์ศักย์ จรูญ งามพิเชษฐ์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังชล ให้สัมภาษณ์ก่อนการก่อนเข้าร่วมเสนอความเห็นว่า ทางพรรคขอให้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่มีความเป็นกลาง เพื่อให้ประโยชน์แก่ทุกฝ่ายทั้งประเทศชาติและประชาชนอย่างเหมาะสม ซึ่งการให้ข้อคิดเห็นแก่คณะกรรมาธิการยกร่างฯ ในครั้งนี้ ทางพรรคก็มีความเป็นห่วงในการให้ความคิดเห็น เพราะไม่ได้มีการประชุมพรรค แต่เมื่อได้รับเชิญจากคณะ กมธ.ยกร่างฯ เพื่อให้มาปรึกษาหารือนั้น ทางพรรคก็ยินดีเข้ามาร่วม
นายสันต์ศักย์กล่าวต่อว่า ทางพรรคเตรียมที่จะให้ข้อเสนอกับคณะ กมธ.ยกร่าง โดยเฉพาะเรื่องของ ส.ส.และ ส.ว. เห็นว่าข้อเสนอที่ให้มี ส.ส.จังหวัดละ 1 คนนั้นตนไม่เห็นด้วย จากประสบการณ์ที่เป็น ส.ส.มา 8 สมัยนั้นเห็นว่ารูปแบบเขตเดียวเบอร์เดียว เป็นรูปแบบที่ดีที่สุด เพราะ ส.ส.จะเข้าถึงพื้นที่และประชาชนได้มากกว่า เห็นว่าหน่วยตรวจสอบควรกำหนดโทษให้รัดกุมกับบุคคลที่ซื้อสิทธิขายเสียง ส่วนปัญหาที่ ส.ส.ลงมติฝ่าฝืนมติพรรคจนเป็นเหตุให้ออกจากพรรคนั้น ตนก็จะขอให้มีแก้ไขให้ ส.ส.มีอิสระให้สามารถใช้ดุลพินิจการดำเนินการต่างๆ ได้
ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงประเด็นการผ่อนคลายกฎอัยการศึกเพื่อประโยชน์ในการระดมความคิดเห็นนั้น นายสันต์ศักย์กล่าวว่า ทางพรรคได้มีการทำหนังสือขออนุญาตประชุมพรรคตามที่ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แจ้งว่า สามารถทำได้ ซึ่งปัญหาก็คงจะมีอยู่บ้าง เนื่องจากว่า คสช.ต้องคงอำนาจเอาไว้ก่อน เพื่อให้บ้านเมืองมีความสงบ ส่วนประเด็นการปฏิรูปการเมืองนั้น ตนเห็นว่านักวิชาการที่เข้าไปในกระบวนการดังกล่าวนั้น มีคุณภาพก็น่าจะให้การเมืองมีทิศทางที่ดีขึ้น
โดยในช่วงต้นของการประชุมนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธาน กมธ.ยกร่างฯ กล่าวชี้แจงว่า กมธ.ยกร่างฯ ยังไม่มีธงหรือข้อยุติ หรือพิมพ์เขียวรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด อีกทั้งในคณะอนุกรรมาธิการกรอบพิจารณาการจัดทำรัฐธรรมนูญคณะที่ 3 ที่มีนายสุจิต บุญบงการ ประธานอนุฯ และคณะกรรมาธิการฯ คณะที่ 6 ที่มี นพ.กระแส ชนะวงศ์ เป็นประธาน ซึ่งทั้งสองคนเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่สังคมให้ความเคารพ ขณะเดียวกัน ทาง กมธ.มี พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช โฆษก กมธ.ยกร่างฯ ทำหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะพรรคการเมือง อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ กมธ.ยกร่างฯ จะแจกโครงร่างรัฐธรรมนูญที่คณะจัดทำขึ้น ตลอดจนรายชื่อคณะอนุกรรมาธิการต่างๆ ให้หัวหน้าพรรค หลังจากนี้พรรคการเมืองใดหากมีข้อเสนอหรือแนวทางปฏิรูปสามารถยื่นรายละเอียดเพิ่มเติมได้