ไทยพีบีเอสแถลงยันรายการมีประโยชน์ต่อปฏิรูป “ประดิษฐ์” จ่อชง ปธ.สปช.หารือ คสช.ถึงอุปสรรคสื่อ

“สปช.ประดิษฐ์” เตรียมชงประธานไปหารือ คสช.ให้เห็นถึงอุปสรรคในการทำงานจากประกาศ คสช. และเรียกร้องความชัดเจนในนโยบายของการทำหน้าที่ในช่วงปฏิรูป จี้ “สมชัย” แจง ชี้ทหารถ้าพบผิดไปร้องเรียนได้ ไม่ใช่คุกคาม ด้านไทยพีบีเอสออกแถลงการณ์ ยันรายการมีประโยชน์ต่อการปฏิรูป หนุนคุยกับทหารเพื่อสร้างความเข้าใจ ชี้ “ณาตยา” ปฏิบัติงานตามหลักสากล แต่ยอมเปลี่ยนตัวผู้ดำเนินรายการแล้ว

วันนี้ (14 พ.ย.) นายประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และนายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงกระแสข่าวเจ้าหน้าที่ทหาร เข้าไปกดดัน “รายการเสียงประชาชนต้องฟังก่อนปฏิรูป” สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ว่าในฐานะที่ตนเป็น สปช.ด้านสื่อมวลชน ตนจะเสนอเรื่องนี้ให้นายเทียนฉาย กีระนันท์ ประธาน สปช.ไปหารือกับ คสช.และรัฐบาล ให้เห็นว่าการทำหน้าที่ของสื่อฯมีอุปสรรคจากประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 97 และ 103 รวมทั้งเรียกร้องความชัดเจนต่อ คสช.และรัฐบาล ให้มีนโยบายที่แน่นอนต่อการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในช่วงการปฏิรูปประเทศ เพราะอาจจะกระทบต่อการสื่อสารต่อประชาชนได้ และยังทำให้ฝ่ายปฏิบัติ เช่น ทหาร เข้าใจผิดต่อการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนอีกด้วย

นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยยังกล่าวว่า นอกจากนี้ขอเรียกร้องไปยังนายสมชัย สุวรรณบรรณ ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ให้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวด้วย เพื่อให้เกิดความชัดเจน เพราะหากทำผิดตามจริยธรรม ตามมาตรา 42 ของพระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย 2551 คสช.สามารถเข้าไปร้องเรียนต่ออนุกรรมการของสถานีไทยพีบีเอส เพื่อให้ตรวจสอบรายการดังกล่าวได้ตามช่องทางของกฎหมาย มิใช่เข้าไปกดดันคุกคามการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน

ล่าสุด คณะกรรมการนโยบายองค์การกระจายเสียงและเผยแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าว โดยระบุว่า สืบเนื่องจากกระแสข่าวการแทรกแซงของคณะนายทหารกลุ่มหนึ่ง ที่มีต่อรายการเสียงประชาชนที่ต้องฟังก่อนการปฏิรูป ซึ่งเป็นโครงการร่วมกับสถาบันพระปกเกล้า และองค์กรร่วมจัดอื่น รวม 12 องค์กร และ 171 เครือข่าย คณะกรรมการฯ มีความเห็นดังนี้ 1. คณะกรรมการฯ ยืนยันการรักษาความเป็นอิสระในการทำหน้าที่สื่อมวลชนในการทำรายการตามโครงการเวที 4 ภาคอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูปประเทศ โดยประชาชนทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง 2. คณะกรรมการฯ สนับสนุนคณะกรรมการบริหาร ส.ส.ท.ในการสื่อสารกับคณะนายทหารที่เข้าพบ เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันถึงบทบาทของสื่อสาธารณะ และจุดมุ่งหมายของรายการ

3. คณะกรรมการฯ มีความเห็นว่า การปฏิบัติงานของ น.ส.ณาตยา แวววีรคุปต์ เป็นไปตามหลักวิชาชีพสื่อมวลชนที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล จึงสนับสนุนการทำงานของ น.ส.ณาตยา ในบทบาทผู้ดำเนินรายการของโครงการดังกล่าวตลอดมา อย่างไรก็ตามได้มีการปรับเปลี่ยนผู้ดำเนินรายการเป็นการชั่วคราวเพื่อไม่ให้กระทบต่อโครงการเวที 4 ภาค