เผยอนุ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญนัดหารือวางกรอบทำงานร่วม กมธ.ชุดใหญ่วันจันทร์นี้ เปิดตู้ ปณ.9 รัฐสภา 10305 เป็นช่องทางรับฟังความเห็นประชาชน ด้าน “หมอกระแส” เล็งดันเลือกตั้งผู้ว่าฯ จากจังหวัดที่เหมาะสม ลดการเติบโตของกระทรวงให้ท้องถิ่นทำงานไป ชี้หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านต้องรับผิดชอบร่วมกัน แต่เชื่อทำได้สำเร็จเพราะไม่ทันก็ตายทั้งกลม
วันนี้ (7 พ.ย.) พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช กรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ ฐานะประธานคณะอนุ กมธ.ประสานงานเพื่อรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะจากสภาปฏิรูปแห่งชาติ และองค์กรต่างๆ เปิดเผยว่า ในวันที่ 10 พ.ย. เวลา 08.00 น. ทางอนุ กมธ.ได้นัดหารือเพื่อวางกรอบการทำงานร่วมกับระหว่าง อนุ กมธ.ฯ ซึ่งมีตัวแทนมาจากสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) มาร่วมด้วย โดยในแนวทางการทำงานที่เกี่ยวข้องกับองค์กรอิสระนั้น เบื้องต้นอาจเป็นเพียงการรับฟังความเห็น และผลการดำเนินงานที่ผ่านมา แต่ไม่ใช่เป็นการประเมินผลการทำงานที่ผ่านมาเพื่อเป็นบทสรุปว่าองค์กรตามรัฐธรรมนูญใดควรอยู่ต่อหรือยุบองค์กร เพราะการตัดสินใจในประเด็นดังกล่าวนั้นต้องขึ้นอยู่กับมติของ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเชื่อว่าองค์กรอิสระที่มีอยู่เดิมจะไม่ถูกพิจารณายุบอย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมาถือเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่ได้อย่างดีแล้ว
ในเวลาต่อมา พล.อ.เลิศรัตน์กล่าวอีกว่า ขณะนี้คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้เปิดช่องทางเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนทุกภาคส่วน เกี่ยวกับการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยขอเชิญชวนให้ประชาชนร่วมส่งความคิดเห็นมาที่ คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ตู้ ปณ.9 ปณฝ.รัฐสภา กทม. 10305 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม ความเห็นของประชาชนนั้นคณะกรรมาธิการฯ จะนำไปร่วมประกอบการพิจารณาในการจัดทำรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน
ด้าน นพ.กระเส ชนะวงศ์ รองประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญคนที่ 1 กล่าวว่า โครงสร้างทางการเมืองของประเทศไทยต้องยอมรับว่าแต่ละภาคมีความแตกต่างกัน การออกแบบการปกครองในอนาคตต้องลดอำนาจส่วนกลางและกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นให้มาก จังหวัดที่มีความเหมาะสมอาจจะกำหนดให้สามารถมีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดได้ แต่ละจังหวัดต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วม แต่จะทำอย่างไรให้การปกครองส่วนท้องถิ่นมีประสิทธิภาพ การปกครองท้องถิ่นถือเป็นรากฐานของประชาธิปไตย แต่มีการทุจริตมาก ดังนั้นต้องมีการสร้างกลไกการป้องกันเรื่องนี้
นอกจากนี้ ยังควรลดการเติบโตของกระทรวงต่างๆ ในต่างประเทศเช่น จีน หรือสหรัฐฯ กระทรวงพวกเขาขนาดเล็กกว่าเรา แต่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่า จึงควรให้กระทรวงดูนโยบายอย่างเดียวปล่อยให้ท้องถิ่นปฏิบัติงานไป หากทำได้จะสามารถลดความขัดแย้งได้ในระดับหนึ่ง และควรมีกำหนดเรื่องวาระการดำรงตำแหน่งไม่ให้นานเกินไป ไม่เช่นนั้นจะเป็นการผูกขาดอำนาจ ต้องรู้จักเปลี่ยนแปลงให้คนอื่นเข้ามาเรียนรู้บ้าง
นพ.กระแสกล่าวต่อว่า การยกร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ส่วนตัวคิดว่าผ่าน เพราะหากไม่ผ่านเราต้องรับผิดชอบร่วมกัน เราต้องเอาความรู้สึกว่าเราต้องทำได้ทำให้ผ่านมาใช้ และขอว่าอย่าไปพูดถึงเรื่องเก่า ต้องมองไปยังอนาคต ทำเพื่อคนรุ่นหลัง ต้องวางแผนว่าอีก 10 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ทั้งนี้สายสัมพันธ์เก่าๆ ของตนในทั้งสองขั้วจะมีประโยชน์อย่างมากในการร่างรัฐธรรมนูญ ช่วยให้เกิดความเชื่อมั่นจากทุกฝ่าย ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง โดยการยกร่างครั้งนี้ต้องทำให้ทันตามที่ระยะเวลากำหนด ต้องทุ่มเทการทำงานเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ เชื่อว่าจะทำได้เสร็จเพราะหากไม่ทันจะเป็นการตายทั้งกลม
