รมต.ประจำสำนักนายกฯ มอบนโยบายโครงการประสานความร่วมมือเพื่อบูรณาการการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์ ชี้แม้ยุคนี้ตื่นตัวแต่มีปัญหาทำงานล่าช้าไม่ทันใจ อยากได้ผู้ชำนาญการอัธยาศัยดี เพื่อช่วยลดความทุกข์ให้กับประชาชน แนะถ้าคนร้องเรียนมีความเครียดก็อย่าไปโต้ตอบ เผยเตรียมสุ่มสำรวจการทำงาน ใครทำดีมีรางวัล
วันนี้ (6 พ.ย.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ในฐานะประธานโครงการประสานความร่วมมือเพื่อบูรณาการการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์ ได้มอบนโยบายแก่ผู้ร่วมโครงการจากส่วนราชการต่างๆ และรับฟังข้อคิดเห็น โดย ม.ล.ปนัดดา กล่าวตอนหนึ่งว่า ในการช่วยเหลือประชาชนศูนย์ดำรงธรรมถือเป็นศูนย์ที่มีเอกภาพ ตั้งขึ้นมาหลายสมัย แต่ตนเพิ่งเห็นว่ามีความแอกทีฟขึ้นในสมัยนี้ แต่ก็มีปัญหาในเรื่องการทำงานที่ล่าช้าไม่ทันใจ ตนจึงอยากให้ผู้ที่ทางจังหวัดคัดเลือกให้มาช่วยงาน เป็นผู้ที่มีความชำนาญการ มีอัธยาศัยดี เพื่อช่วยลดความทุกข์ให้กับประชาชน เหมือนกับที่นายกรัฐมนตรีเคยบอกกับตนว่า อย่างน้อยให้ประชาชนที่มาใช้บริการเดินกลับออกไปด้วยความสบายใจขึ้น และปัญหาใดที่ทางศูนย์ดำรงธรรมสามารถแก้ได้ ก็ให้แก้ในระดับจังหวัด หากแก้ไม่ได้ให้ประสานมาที่สำนักนายกฯ ตนจะช่วยประสานให้ อย่าให้มาถึงทำเนียบฯ เลย
ม.ล.ปนัดดา กล่าวต่อว่า ตนอยากให้ทุกคนใช้ความบริสุทธิ์ใจในการทำงาน หากคนมาศูนย์ดำรงธรรมมีความเครียดก็อย่าไปโต้ตอบ ให้พูดจาผ่อนปรนกัน ส่วนบางกระทรวงที่มีสัมพันธ์ติดต่อกับประชาชนน้อย เช่น ที่โต๊ะบริการประชาชน บางกระทรวงคนมาร้องเรียนน้อย เราประเมินเป็น 2 อย่าง คือ 1. ติดต่อประชาชนไม่มาก เป็นหน่วยงานที่คนไม่จำเป็นต้องมาปรึกษาหารือ และ 2. กระทรวงมีความเก่ง บริหารจัดการได้ดี สำหรับเรื่องการประสานราชการระหว่างหน่วยงาน ตนได้ยินกับหูว่าผู้แทนบางหน่วยงานชอบที่การประสานมีความรวดเร็ว อย่างเช่นกระทรวงยุติธรรม เป็นต้น ตอนนี้ตนได้ปรึกษากับหลายท่านแล้วว่า จะมีการสุ่มสำรวจการทำงาน หากใครทำงานได้ดี ไม่เบื่อหน่าย จะมีรางวัลมอบให้เพื่อเป็นกำลังใจ
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการมอบนโยบายมีตัวแทนบางหน่วยงานเสนอให้มีการเพิ่มอัตรากำลังพลในระดับกระทรวง เพื่อมาช่วยทำงานแก้ไขปัญหา ซึ่งจะสามารถลดความเดือดร้อนของประชาชนที่จะเดินทางมาทำเนียบฯ ได้ด้วย โดย ม.ล.ปนัดดา รับจะนำไปเสนอต่อนายกรัฐมนตรี
