สนช.ส่อยุติถอดถอนสำนวน “สมศักดิ์-นิคม” 6 พ.ย.นี้ ขณะที่ 40 ส.ว. ผนึกกำลังนักวิชาการ ฮึดสู้! หวังอภิปรายเปลี่ยนแปลงความคิด ตีความอำนาจ สนช.สามารถพิจารณาเกินคำขอ อ้างเหตุสองสมุนแม้วทำผิดจริง แม้ไม่มีกฎหมายลงโทษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 5 พ.ย. รายงานข่าวจาก สนช.ระบุว่า ในการพิจารณาคดีการถอดถอนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา และนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ในวันที่ 6 พ.ย.นี้จะเป็นการประชุมลับ เนื่องจาก สนช.ไม่ต้องการให้มีหลักฐานไปพาดพิงผู้เกี่ยวข้องซึ่งเป็นบุคคลที่ 3 จนได้รับความเสียหายและนำไปสู่การฟ้องร้องได้
ทั้งนี้ ในการประชุมดังกล่าว นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.จะเปิดโอกาสให้สมาชิกที่ต้องการอภิปรายการถอดถอนนายสมศักดิ์และนิคมได้อย่างเต็มที่ แต่สุดท้ายเชื่อว่าจะลงมติไม่รับเรื่องการถอดถอนทั้งสองสำนวน มีผลให้เรื่องดังกล่าวสิ้นสุดลง โดยไม่เข้าสู่กระบวนการถอดถอนตามข้อบังคับการประชุม สนช. เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดปัญหาวุ่นวายตามมา และจากสำนวนที่ ป.ป.ช.ส่งมาเป็นการชี้มูลตามฐานความผิดของรัฐธรรมนูญ 50 ซึ่งสิ้นสภาพไปแล้ว จึงเห็นว่าไม่สามารถลงโทษได้
แต่กลุ่ม 40 ส.ว. และกลุ่มนักวิชาการบางส่วนจะขออภิปรายจูงใจให้สมาชิก สนช.เปลี่ยนความตั้งใจ เพราะแม้ไม่มีกฎหมายเอาโทษ แต่การกระทำของนายสมศักดิ์ และนิคมเป็นการกระทำผิดที่ชัดเจนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง จึงสามารถตีความของกฎหมายให้เกินคำร้องของ ป.ป.ช.ได้ เพราะ สนช.ไม่ใช่ศาลที่จะต้องตีความไม่ให้เกินคำขอ อย่างเช่น ระบบราชการสามารถอุทธรณ์การลงโทษทางวินัยต่อข้าราชการ ให้มีอัตราโทษเพิ่มมากขึ้น จากโทษเดิมที่ลงโทษไปแล้วได้หากเห็นว่าผู้เสียหายไม่ได้รับความยุติธรรม ซึ่งสุดท้ายก็ต้องดูว่าเหตุผลของกลุ่ม40 ส.ว. และนักวิชาการบางส่วน จะฟังขึ้นและสามารถเปลี่ยนความตั้งใจของ สนช. โดยเฉพาะสายของทหารและตำรวจที่เป็นเสียงข้างมากของ สนช.ได้หรือไม่
