รองนายกฯ แจงสรรพคุณ กมธ. ยกร่างฯ บอกต้องใช้คนให้หลากหลาย ที่เลือก “กระแส” อยากได้นักการเมืองน้ำดี เห็นชอบตั้ง 4 เวทีปฏิรูป ทำงานควบคู่ สปช. ดึงพวกอกหักร่วมวง ปัด “รัฐธรรมนูญสีชมพู” ยันทั้ง 36 คนมีทุกสี แทบจะตาบอดสีด้วยซ้ำ โวถ้าจะทำประชามติไม่ยาก แก้รัฐธรรมนูญง่ายนิดเดียว
วันนี้ (4 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ด้านกฎหมาย ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมร่วมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า กรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 11 คน อย่างนายปกรณ์ ปรียากร อดีตรองคณบดี คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ซึ่งเป็นอดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ปี 2550 และ นายสุจิต บุญบงการ อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ อดีตรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้าน นายกฤต ไกรจิตติ อดีตเอกอัครราชทูต ณ กัวลาลัมเปอร์ประเทศมาเลเซีย และเป็นอดีตอธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เป็นอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เป็นบุตรชาย นายสรรเสริญ ไกรจิตติ อดีตประธานศาลฎีกา ที่จะมาดูในเรื่องของการเขียนรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 และมาดูในเรื่องของสิทธิเสรีภาพ เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้มีแต่เรื่องเลือกตั้ง มีพระมหากษัตริย์ ครม. ศาล การตรวจสอบควบคุม สิทธิเสรีภาพ ต่างประเทศ แนวนโยบายพื้นฐาน ท้องถิ่น เพราะฉะนั้นต้องใช้คนที่มีความหลากหลาย อย่างเรื่องเศรษฐกิจ ได้เลือก นายวิชัย ทิตตะภักดี ประธานคณะทำงานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สารสนเทศ และการสื่อสาร และในฐานะสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มาร่วม ส่วนที่เลือก นายกระแส ชนะวงศ์ อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีต รมว.การต่างประเทศ อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังธรรม เพราะใน 36 คนอยากได้นักการเมืองน้ำดี ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นว่าพวกที่มาร่างรัฐธรรมนูญไม่เคยเลือกตั้ง ซึ่งทั้ง 11 คน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้เลือกทั้งหมด และส่งชื่อมาให้ตนตรวจสอบ
นายวิษณุ กล่าวว่า นอกจากนี้ นายกฯ เห็นชอบตั้ง 4 เวทีปฏิรูป ทำงานควบคู่ สปช. ประกอบด้วย 1. ทีมงานวิชาการ สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่ตั้งผู้เชี่ยวชาญชำนาญการ เป็นคณะทำงาน 2. เวทีกรรมาธิการ สปช. รัฐบาลส่งคนเข้าร่วม สัดส่วน 1 ใน 5 ของจำนวน กมธ. 3. เวทีรูปแบบเดียวเวทีปฏิรูปประเทศ ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คัดมาจำนวน 300 คน จากผู้สมัคร สปช. จำนวน 7,000 คน ที่ไม่ได้รับคัดเลือกเป็น สปช. แบ่งเป็น 3 ทีม คือ 1. การเมือง การปกครอง 2. เศรษฐกิจ พลังงาน 3. สังคม แยกกันประชุม ใช้เวทีสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ หากมีอะไรที่รัฐบาลต้องการให้ทีมนี้ช่วย ก็จะส่งเรื่องไป และ 4. เวทีภูมิภาค ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กระทรวงกลาโหม รับไป ซึ่งเวทีวิชาการ สปช. เริ่มทำงานแล้ว ส่วนเวที กมธ. สปช. เมื่อเริ่มใช้ข้อบังคับได้ จะส่งคนไปร่วม ส่วนเวทีที่ 3 ประชุม ครม. สัปดาห์หน้าจะเสนอออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีมารองรับ แล้วลงมือคัดคน ส่วนเวทีภูมิภาค กอ.รมน. สามารถเริ่มจัดทำเวทีได้แต่วันที่ 5 พ.ย. เป็นต้นไป
เมื่อถามว่า จาก กมธ. ยกร่างรัฐธรรมนูญที่ตั้ง จะถูกมองหรือไม่ว่าเป็น “รัฐธรรมนูญสีชมพู” นายวิษณุ กล่าวว่า ถ้าเอาทั้ง 36 คนมาดูจะรู้ว่ามีทุกสี แดง เหลือ เขียว ชมพู บอกแล้วเวลาตั้งไม่ได้ดูอะไร แต่สื่อก็เอามาโยงกันได้ คนไทยคอนเนกชันมันมีแน่ เพราะว่ามันเป็นคนไทย ข้อสำคัญเป็นคอนเน็กชั่นไม่เป็นไร แต่อย่าเป็นคอนสไปเรซี (conspiracy หรือการสมคบร่วมคิด) ก็แล้วกัน รัฐธรรมนูญใหม่ที่จะร่างขึ้นไม่มีสี ตาบอดสี เมื่อถามว่า การทำประชามติหรือไม่ ให้ กมธ. ยกร่างรัฐธรรมนูญ เป็นผู้ตัดสินใจหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ประชาชนเป็นคนตัดสินใจ ไม่ใช่เรื่องของเขา และถ้าจะทำแก้ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ไม่ยาก เขียนแก้ง่ายนิดเดียว ง่ายกว่าแก้ พ.ร.บ.