xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กป้อม” นัดเคลียร์ปมพบ “แม้ว” - ผบ.ทบ.ส่ง 4 กองร้อยซ่อมถนน จชต. คุมเข้มเปิดเทอม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม(แฟ้มภาพ)
“บิ๊กโด่ง” แจงส่ง 4 กองร้อยซ่อมถนน 37 เส้นทาง ตามความเห็นคน จชต. นายกฯ อนุมัติ 800 ล้าน คาด 7-8 เดือนเสร็จ ดูแลความปลอดภัยดีขึ้น เข้มดูแลช่วงเปิดเทอม บูรณาการกำลัง ปรับจุดแจ้งเตือนกันช่องโหว่ เลื่อนประชุม คปต. เหตุ “ประวิตร” ติดภารกิจ แย้มคงอัยการศึก หวั่นเลิกแล้วไม่สงบ เชื่อ ปชช.เข้าใจ ด้าน “บิ๊กป้อม” นัดสื่อเคลียร์พบ “แม้ว” หลังลงเครื่องกลับจากจีนพรุ่งนี้

วันนี้ (30 ต.ค.) พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานเป็นประธานในพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานกองทัพบกที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้กองทัพบกรับพระราชทานผ้ากฐินวัดหงษ์รัตนารามราชวรวิหาร ถึงกรณีที่กองทัพบกส่งกำลังทหารช่างจำนวน 4 กองร้อยลงไปซ่อมแซมถนนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (กอ.รมน ภาค 4) มีการสำรวจความต้องการของประชาชนในพื้นที่ที่ต้องการความสะดวกในเส้นทางคมนาคมทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ใน 37 เส้นทาง ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้อนุมัติงบกลางจำนวนกว่า 800 ล้านบาท โดยทางกองทัพบกได้มอบหมายให้กรมการทหารช่างได้แบ่งหน้าที่รับผิดชอบไปยัง 4 กองพลทหารพัฒนาให้ลงไปช่วยงานในพื้นที่ แต่มีอุปสรรคในการซ่อมถนน ทั้งนี้คาดว่า 7-8 เดือนข้างหน้าหากสร้างเสร็จจะอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน รวมถึงความปลอดภัย ทั้งนี้จะมีกำลังทหารไปดูแลรักษาความปลอดภัยให้ทหารช่างที่ลงไปปฎิบัติหน้าที่ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของทหารช่างเองก็มีการเตรียมการในเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัยตัวเอง และเชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะทุกหน่วยดีใจที่ได้ไปช่วยเหลือประชาชนให้เกิดความสุข

พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า สำหรับการดูแลรักษาความปลอดภัยในช่วงเปิดเทอมในสัปดาห์หน้านั้น เราได้เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษและต้องดูแลอย่างเต็มที่ รวมถึงบูรณาการกำลังในภาคส่วนของประชาชน ดังนั้นในช่วงที่ครูและนักเรียนเดินทางไปกลับ ทาง กอ.รมน.ภาค 4 จะวางมาตรการดูแลอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งปรับจุดแจ้งเตือนให้ดีขึ้นเพื่อป้องกันช่องโหว่ ส่วนในวันศุกร์ ที่ 31 ต.ค.ที่จะมีการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบาย 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) นั้น เบื้องต้นต้องเลื่อนไปก่อน เนื่องจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดภารกิจอยู่ต่างประเทศ จึงต้องเลื่อนไปประชุมในวันที่ 3 พ.ย.นี้ เพื่อให้ทุกกระทรวง ทบวง กรม ที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อนงานในพื้นที่ โดยเฉพาะการวางแผนแก้ไขปัญหาตามไตรมาสแรก ซึ่งแผนงานต้องสอดคล้องกับสิ่งที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และศอ.บต.ได้พิจารณาดำเนินการตามความเร่งด่วน

พล.อ.อุดมเดชยังกล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณายกเลิกการประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางพื้นที่ว่า ผู้บังคับบัญชาชั้นสูงมีความเข้าใจถึงข้อเรียกร้องในการขอให้ยกเลิกกฎอัยการศึก แต่เมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์ต่างๆในประเทศดูแล้วจึงมีความจำเป็นต้องเลือกเอาแนวทางที่จะทำอย่างไรให้มีความสงบมากที่สุด บางครั้งเราก็ต้องยอมใช้กฎหมายพิเศษนี้ และหากยกเลิกไป จะทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ซึ่งทุกคนน่าจะเข้าใจเพราะไม่ได้ส่งผลกระทบในชีวิตประจำวัน เมื่อย้อนกลับไป 6-7 เดือนที่แล้ว จะเห็นว่าสถานการณ์ภายในประเทศมีความแตกต่างกัน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเองก็พยายามทำงานให้ดีที่สุด เพื่อเดินหน้าต่อไป ขอให้โอกาสและเวลา พร้อมทั้งให้กำลังใจในการทำงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง และรมว.กลาโหม ซึ่งอยู่ระหว่างการปฏิบัติภารกิจที่เมืองคุนหมิง สาธารณประชาชนจีน ซึ่งได้เดินทางไปตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค.โดยไม่มีการแจ้งกำหนดการอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางกระแสข่าวบินไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ระหว่างพักผ่อนอยู่ประเทศจีน กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และท่ามกลางกระแสข่าวไปพูดคุยคดี “นายหน่อคำ” ราชายาเสพติด ที่ถูกศาลคุนหมิงสั่งประหารชีวิต จากคดีร่วมกันปล้นฆ่าลูกเรือขนส่งสินค้าชาวจีน 13 ศพ ระหว่างอยู่ในแม่น้ำโขงในน่านน้ำประเทศไทยอ.เชียงแสน จ.เชียงราย เมื่อเดือน ต.ค. 54 ที่ในชั้นศาลนายหน่อคำ และพวก ซัดทอดถึงกลุ่มทหารไทยบางรายว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง ล่าสุด พล.อ.ประวิตรมีกำหนดการเดินทางกลับประเทศไทยวันที่ 31 ต.ค. เวลา 21.30 น. พร้อมให้ทีมงานแจ้งมายังสื่อมวลชนว่า พล.อ.ประวิตรจะให้สัมภาษณ์ชี้แจงด้วยตนเองทันทีที่ลงจากเครื่อง ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ

ด้านนายปณิธาน วัฒนยากร ที่ปรึกษา พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การกลับมาแถลงข่าวของพล.อ.ประวิตรในวันที่ 31 ต.ค. เวลา 21.30 น. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังเดินทางกลับจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะข่าวลือพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เป็นช่วงจังหวะเดียวกันอยู่ระหว่างพักผ่อนที่จีน เพราะไม่อยากให้เกิดความเข้าใจผิด และยังไม่เคยพูดถึงเหตุผลการเดินทางไปจีนครั้งนี้อย่างละเอียด เป็นการเดินทางไปพร้อมกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ สมาชิก คสช. และนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมช.ต่างประเทศ จริงๆ ไปผลักดันสินค้าเกษตร รถไฟความเร็วสูง เป็นภารกิจรัฐบาล และมีเรื่องความร่วมมือทางทหารนิดหน่อย แต่ยังไม่เป็นทางการ เข้าใจว่าการเดินทางไปว่าด้วยการทางทหารจะเดินทางไปอีกครั้งเมื่อมีการเชิญมา แต่รอบนี้เศรษฐกิจเป็นหลักโดยนายสมคิดเข้าช่วยประสาน และมีผู้สื่อข่าวติดตามไปด้วย เรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาหากไม่นำไปเชื่อมโยง เป็นเรื่องความบังเอิญมากกว่าที่ พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ที่จีนพอดี เลยกลายทำให้คนสงสัย


กำลังโหลดความคิดเห็น