xs
xsm
sm
md
lg

"ปู-แม้ว-ไปป์"เพลินดูแพนด้าที่จีน ขำถูกจับ-พบบิ๊กป้อม "บิ๊กตู่-ฮุนเซน"ถกพลังงาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"ปู-แม้ว-ไปป์" ยังอยู่จีน เยี่ยมชมสวนสัตว์แพนด้า เมืองเฉิงตู "แม้ว"ขำข่าวลือถูกตำรวจสากลจับตัว และเรื่องพบกับ "บิ๊กป้อม" ด้าน"ปณิธาน"เผย "ประวิตร"กลับจากจีนวันนี้ พร้อมแถลงข่าวทันที ยันไปเจรจาผลักดันสินค้าเกษตร รถไฟความเร็วสูง "ประยุทธ์" ควงภรรยาเยือนกัมพูชา อย่างเป็นทางการ พร้อมเจรจา"ฮุนเซน" เกี่ยวกับผลประโยชน์พลังงานในอ่าวไทย ย้ำไม่จำเป็นต้องรอปักปันเขตแดน

ผู้สื่อข่าวรายงานความความเคลื่อนไหวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ยังอยู่ระหว่างการพักผ่อนที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 30 ต.ค.ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมด้วยบุตรชาย ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังสวนสัตว์แพนด้า ที่เมืองเฉิงตู ในมณฑลเสฉวน ของจีน

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ที่นี่เป็นสวนสัตว์ที่มีแพนด้าอยู่สองชนิด คือ แพนด้าที่เราคุ้นเคย คือ แพนด้าพันธุ์ Giant Panda มีอยู่ประมาณ 2,000 ตัวในโลก กับแพนด้าแดง หรือ Red panda นิสัยจะดุกว่าหน่อย เลยไม่ได้เข้าใกล้ เพราะเขาขี้อาย อยู่ตามต้นไม้ พบได้ในประเทศจีน เนปาล อินเดีย ธิเบต ภูฏาน และเมียนมาร์ มีราว 5,000 ตัว จากทั่วโลก ซึ่งเสียดายวันนี้ไม่ได้เจอหลินปิงที่น้องๆ คิดถึง เพราะหลินปิง ถูกเลี้ยงไว้อีกที่หนึ่งที่เขาต้องอนุรักษ์ให้อยู่ตามธรรมชาติ และดูแลอย่างใกล้ชิด แต่ก็ประทับใจที่ได้อุ้มหมีแพนด้าอายุ 3 เดือน และถ่ายคลิปแพนด้ามาฝากเด็กๆ ด้วย

นอกจากนี้ ในอินสตาแกรม @ingshin21 ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวคนเล็กของ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้นำภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ และ ด.ช.ศุภเสกข์ ที่กำลังอุ้มหมีแพนด้ามาแสดง พร้อมระบุว่า"ไปด้วย คิดถึงหมดเลย" ท่ามกลางกระแสข่าวในเครือข่ายโซเชียลมีเดีย ที่ปล่อยข่าวลือว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกตำรวจจีนจับกุม โดยอ้างว่า ทางการไทยประสานงานอย่างลับๆ แต่ นายไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วย รองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ยืนยันว่า ตรวจสอบแล้วไม่ได้ถูกจับ แต่ไปดูหมีแพนด้าที่เสฉวน และเห็นว่าเป็นการปล่อยข่าวลือ เพื่อหลอกกลุ่มคนเสื้อแดง ให้ด่ารัฐบาล หลังจากที่ก่อนหน้านี้ก็มีการปล่อยข่าวว่า พล.อ.ประวิตร ไปพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เมืองจีน ระหว่างเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวจากคนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณถึงกับหัวเราะเมื่อทราบถึงข่าวลือทั้งเรื่องถูกตำรวจจับ และการพบกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

** ปัด"บิ๊กป้อม"บินพบ"แม้ว"ที่จีน

นายปณิธาน วัฒนยากร ที่ปรึกษา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม กล่าวว่า การกลับมาแถลงข่าวของ พล.อ.ประวิตร กลับจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่ 31 ต.ค. เวลา 21.30 น. และจะแถลงข่าวทันที ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เนื่องจากมีข่าวลือว่าได้ไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพราะเป็นช่วงจังหวะเดียวกับที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ระหว่างการพักผ่อนที่ประเทศจีน ทั้งนี้ไม่อยากให้เกิดความเข้าใจผิด และ พล.อ.ประวิตร ยังไม่เคยพูดถึงเหตุผลการเดินทางไปจีนครั้งนี้อย่างละเอียด ซึ่งเป็นการเดินทางไปพร้อมกับ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ สมาชิก คสช. และ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมช.ต่างประเทศ

"จริงๆไปผลักดันสินค้าเกษตร รถไฟความเร็วสูง เป็นภารกิจของรัฐบาล และมีเรื่องความร่วมมือทางทหารนิดหน่อย แต่ยังไม่เป็นทางการ เข้าใจว่า การเดินทางไปว่าด้วยภารกิจทางทหาร จะเดินทางไปอีกครั้ง เมื่อมีการเชิญมา แต่รอบนี้เศรษฐกิจเป็นหลัก โดยนายสมคิด ได้ช่วยประสาน และมีผู้สื่อข่าวติดตามไปด้วย เรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหา หากไม่นำไปเชื่อมโยง เป็นเรื่องความบังเอิญมากกว่าที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่จีนพอดี เลยทำให้คนสงสัย" นายปณิธาน กล่าว

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร เดินทางไปปฏิบัติภารกิจ ที่เมืองคุนหมิง สาธารณประชาชนจีน ซึ่งได้เดินทางไปตั้งแต่ วันที่ 28 ต.ค.โดยไม่ได้มีการเผยแพร่กำหนดการอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางกระแสข่าวว่าการเดินทางไปครั้งนี้ เพื่อพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่อยู่ระหว่างพักผ่อนอยู่ประเทศจีนพอดี

** "ประยุทธ์"พบ"ฮุนเซน"ถกพลังงาน

เมื่อเวลา 13.45 น. วานนี้ (30 ต.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( คสช. ) พร้อม นางนราพร จันทร์โอชา ภริยาและคณะ อาทิ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฎิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ประเทศ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม เดินทางออกจากท่าอากาศยาน กองบิน 6 ดอนเมือง ด้วยเครื่องแอมแบร์ เที่ยวบิน 135 ไปลงที่ สนามบินกรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อเยือนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 30-31 ตุลาคม 2557

ทั้งนี้ตามหมายกำหนดการ เมื่อเดินทางไปถึงนายกฯ จะร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ ณ วิมานสันติภาพ ก่อนจะเข้าพบหารือกับสมเด็จ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จากนั้น จะร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ 3 ฉบับ ประกอบด้วย บันทึกความเข้าใจระหว่างไทยและกัมพูชา ว่าด้วยการขจัดการค้าเด็กและหญิง และการช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟและ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ก่อนที่นายกรัฐมนตรีทั้ง 2 ประเทศ จะแถลงข่าวร่วมกันอย่างเป็นทางการ และ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำ เพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรี และภริยา

โอกาสนี้ นางนราพร ภริยา นายกรัฐมนตรี จะร่วมเปิดภาควิชาภาษาไทย ระดับปริญญาตรี พร้อมมอบอุปกรณ์การเรียนการสอนให้กับภาควิชาภาษาไทย ระดับปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยพนมเปญ

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังมีกำหนดการเยี่ยมคารวะ นายเฮง สัมริน ประธานสภาแห่งชาติกัมพูชา ส่วนวันที่ 31 ตุลาคม นายกรัฐมนตรี จะเข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี กษัตริย์แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา พร้อมเยี่ยมชมพระบรมหาราชวัง วัดพระแก้ว และพบปะ รับประทานอาหารกลางวันร่วมกับสมาคมนักธุรกิจไทยในกัมพูชา ก่อนเดินทางออกจากท่าอากาศยานกรุง พนมเปญ และเดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร บน. 6 ในเวลา 15.30 น.

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ ได้ให้สัมภาษณ์ ถึงการเดินทางไปพบกับ สมเด็จฮุนเซนครั้งนี้ จะมีการเจรจาเรื่องแหล่งพลังงานทางทะเลในอ่าวไทยด้วย

" เรื่องพลังงาน จะพูดถึงพื้นที่ทับซ้อน จะทำกันอย่างไร แต่ต้องคุยกันในรูปแบบของคณะกรรมการ ที่ไปครั้งนี้ เป็นการพูดคุยระดับผู้นำ ว่าเห็นชอบร่วมกันหรือไม่ ถ้าจะคุยกันต่อ ก็ไปคุยกัน ถ้าเราเอาเส้นเขตแดนมาเป็นปัญหาทั้งหมด มันไม่ได้ การที่ยังไม่ปักปันเขตแดน ไม่ได้หมายความว่าใครยอมรับใคร แต่ตอนนี้ ต่างฝ่ายต่างอ้างเป็นของตัวเอง คือพื้นที่ทับซ้อนนั่นแหละ ยังไม่ใช่พื้นที่ของใคร หากเรายังรอเรื่องปักปันเขตแดน ตรงนี้ก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนเดิม อีก10 ชาติ ก็ทำอะไรไม่ได้ และถามว่าพลังงานจะมาจากไหน ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน " พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น