xs
xsm
sm
md
lg

สัมมนาพระปกเกล้า ปฏิรูปท้องถิ่น หนุนกระจายอำนาจ ผุดเทศบาลนคร ขออย่าอ้างโกงยุบองค์กร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สถาบันพระปกเกล้าจัดสัมมนาปฏิรูปท้องถิ่น ร้อยกว่าชีวิตร่วม นักวิชาการหนุนแผนกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นมากขึ้น แต่ต้องปรับโครงสร้างยุบ อบต.รวมเทศบาล พร้อมยกฐานเป็นเทศบาลนคร มีเอกภาพ รับอาจยากเหตุมียื้ออำนาจ ชี้อย่าเหมาโกง เป็นเหตุ ยุบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มองผลงานท้องถิ่นที่ผ่านมาช่วยแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำได้ ติงขยายปัญหาเลือกตั้งท้องถิ่นเกินไป


วันนี้ (28 ต.ค.) สถาบันพระปกเกล้าจัดงานสัมมนาสู่ทศวรรษที่เก้า : ก้าวใหม่ของระบอบประชาธิปไตยไทย ครั้งที่ 5 หัวข้อ “การปฏิรูปประเทศไทย : ร่วมคิด ร่วมปฏิรูป การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นไทย” เพื่อเป็นเวทีสาธารณะแลกเปลี่ยนความคิดและให้ข้อเสนอแนะต่อทิศทางการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นและการปกครองท้องถิ่น โดยมีผู้เข้าร่วมการสัมมนากว่าร้อยคน โดยนายวุฒิสาร ตันไชย รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า และสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้านการปกครองส่วนท้องถิ่น กล่าวตอนหนึ่งระหว่างเปิดงานว่า การกระจายอำนาจถือเป็นแกนหลักของการพัฒนาประชาธิปไตยให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น เพราะเป็นการให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมของประชาชนตั้งแต่รากขึ้นมาโดยตรง ทำให้การกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นเป็นกลไกสำคัญต่อการเรียนรู้รูปแบบประชาธิปไตยผ่านการมีส่วนร่วมของประชาชน เมื่อสังคมไทยเข้าสู่ยุคการปฏิรูป การกระจายอำนาจท้องถิ่นจึงเป็นประเด็นหนึ่งที่มีการกล่าวถึงอย่างมาก ทั้งการปรับเปลี่ยนรูปแบบ อำนาจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การยุบหรือรวมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ หรือเครือข่ายและกลไกการเชื่อมต่อระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับภาคสังคม ก็เป็นข้อถกเถียงที่น่าสนใจ และมีความสำคัญต่อการปฏิรูปประชาธิปไตยทั้งสิ้น

จากนั้นนายวุฒิสารแสดงปาฐกถาหัวข้อ “หลักคิดกับการปฏิรูปการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นไทย” ตอนหนึ่งว่า เป้าหมายของการกระจายอำนาจ คือ การนำอำนาจไปไว้ใกล้กับปัญหา ซึ่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องมีความหลากหลาย มีความเป็นอิสระ ต้องทำงานสอดคล้องกับท้องถิ่น ที่ผ่านมามักจะพูดว่าท้องถิ่นมีปัญหา แต่ไม่ค่อยพูดสิ่งดีๆ ที่องค์กรท้องถิ่นทำดีไว้ ส่วนตัวคิดว่าท้องถิ่นต้องปฏิรูปตัวเอง โดยภายใน 1 ปีจะมีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน ขณะเดียวกัน 15 ปีที่ผ่านมานี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ช่วยแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม เพราะองค์กรท้องถิ่นเป็นข้อต่อระหว่างรัฐบาลกับประชาชน ส่วนสาเหตุที่ต้องปฏิรูป เพราะปัญหาเก่ายังไม่ได้รับการแก้ไข และมีปัญหาใหม่เข้ามาตลอด

“ที่ผ่านมามีการเพิ่มอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทำให้ประชาชนมีความพอใจในการทำงานของท้องถิ่นมากขึ้น แต่ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ทิศทางการปฏิรูปองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะออกมาเป็นอย่างไร เป็นเรื่องที่ยังคาดเดาไม่ได้ แต่การกระจายอำนาจต้องเดินหน้าต่อไป เพราะเป็นหลักสำคัญ เป็นการเมืองเพื่อบ้านเมืองไม่ใช่การเมือง เพื่อการเมือง”

ทั้งนี้ ไม่เห็นด้วยที่ท้องถิ่นเกิดการทุจริต แล้วจึงเกิดแนวคิดในการปฏิรูปว่าควรเลิกระบบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไป เพราะการทุจริตมีทุกที่ในทุกสังคม ซึ่งก็ต้องแก้ช่วยกันป้องกัน ขณะที่ปัญหาเรื่องความซ้ำซ้อนในพื้นที่นั้น จะแก้ไขด้วยการจัดอำนาจหน้าที่ใหม่ อย่างหลายประเทศมีท้องถิ่นหลายชั้นแต่จัดการได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม การปฏิรูปองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นคราวนี้ ควรทำให้ชัดเจน โดยท้องถิ่นต้องปฏิรูปตัวเอง และรู้จุดดี-จุดด้อยของตัวเอง เช่น เปลี่ยนวิธีคิดโดยต้องเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง เปลี่ยนวิธีการทำงาน ให้สอดคล้องกับชีวิตและความต้องการของประชาชน โดยการปฏิรูปท้องถิ่นมีความท้าทายหลายอย่าง อาทิ การหารายได้ให้ท้องถิ่น เพราะถ้าท้องถิ่นไม่มีรายได้ก็จะมีการพัฒนายาก เนื่องจากจะกลายเป็นปัญหาเรื่องการจัดงบประมาณให้ท้องถิ่นอีก การปฏิรูปต้องคิดว่า เอาอำนาจส่วนกลางไปไว้ในท้องที่และทำงานร่วมกัน การที่จะทำให้ประชาชนศรัทธาท้องถิ่น ต้องปรับรูปแบบการทำงานคิดว่าสิ่งที่สำคัญของการปฏิรูปท้องถิ่น คือการเชื่อมั่นปรัชญาการกระจายอำนาจ ต้องเชื่อว่าการกระจายอำนาจคือการเอาอำนาจไปไว้ที่ประชาชน

จากนั้นได้มีการสัมมนาในหัวข้อ “ร่วมคิด ร่วมปฏิรูป : ข้อเสนอการปฏิรูปท้องถิ่นสู่การปฏิรูปประเทศไทย” โดยนายตระกูล มีชัย อาจารย์รัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การปฏิรูปกระจายอำนาจยุคนี้ไม่ง่าย เพราะมีแรงต้านเพื่อรักษาฐานอำนาจหน้าที่ ขณะเดียวกันรัฐก็เน้นการรวมศูนย์และวิตกกังวลสถานการณ์ความมั่นคง มากกว่าการกระจายอำนาจ จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนแนวคิดการกระจายอำนาจ โดยดำเนินการแบบบูรณาการ คำนึงถึงขนาด ขีดความสามารถการเข้าถึงบริการสาธารณะ และการมีส่วนร่วมของประชาชน รวมถึงยกเลิกกฎระเบียบที่ทำให้องค์กรท้องถิ่นขาดอิสระ และแบ่งอำนาจ หน้าที่ของรัฐ กับท้องถิ่นให้ชัดเจน ต้องไม่ให้เป็นลักษณะการควบคุม สั่งการ แต่ต้องเป็นการร่วมมือทำงาน เพื่อให้องค์กรขับเคลื่อนการกระจายอำนาจต้องเป็นเอกภาพ

ด้านนายโกวิทย์ พวงงาม อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ต้องทำให้องค์กรปกครองท้องถิ่นมีศักยภาพและขีดความสามารถ เพื่อตอบโจทย์การแก้ปัญหาประเทศ ต้องให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสร้างสำนึกความเป็นพลเมืองเพื่อประโยชน์ส่วนรวม เป็นเขตปลอดทุจริตคอ์รัปชัน และปลอดการซื้อเสียง รวมทั้งต้องสร้างรากฐานประชาธิปไตยควรมีการยุบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดเล็ก เช่น องค์การบริหารส่วนตำบลแล้วไปรวมกับเทศบาล ยกฐานะเทศบาลนครที่มีประชากรตั้งแต่ 3 แสนคนขึ้นไป ให้เป็นเทศบาลมหานคร พร้อมแก้ไขอำนาจหน้าที่และปรับโครงสร้างองค์การบริหารส่วนจังหวัดสำหรับท้องถิ่นระดับล่างให้มีเพียงเทศบาลระบบเดียว

นายศุภสวัสดิ์ ชัชวาลย์ อาจารย์รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า รัฐบาลต้องถือว่าการกระจายอำนาจเป็นวาระสำคัญที่ส่งผลต่อการพัฒนาประชาธิปไตยของประเทศ เพราะหากไม่สนับสนุนจริงจังการกระจายอำนาจจะไม่ก้าวหน้า เห็นว่าต้องเริ่มจากการพิจารณาภารกิจที่จะถ่ายโอนสู่ท้องถิ่นก่อนจึงปรับปรุงโครงสร้างให้เหมาะสมกับภารกิจโดยโครงสร้างต้องมีขนาดเหมาะสม และมีมาตรการป้องกันการทุจริต ซึ่งรัฐต้องไปเน้นกำกับดูแล ไม่ใช่การควบคุม

ขณะที่นายประจักษ์ ก้องกีรติ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ปัญหาการเลือกตั้งท้องถิ่นมีอยู่จริง แต่ถูกขยายความมากเกินไป อาทิ ความรุนแรง การผูกขาดอำนาจของชนชั้นนำ การซื้อเสียง การเชื่อมต่อทางการเมืองท้องถิ่นกับการเมืองระดับชาติ และการตรวจสอบถ่วงดุลระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นต้นหากจะปฏิรูปการเลือกตั้งท้องถิ่น ต้องก้าวข้ามการถกเถียงเรื่องที่มา เพราะการเลือกตั้งคือวิธีได้มาซึ่งตัวแทนประชาชนที่ประชาชนมีส่วนร่วม และสามารถตรวจสอบได้มากที่สุด ที่ผ่านมาเราละเลยว่าประเทศไทยเหมาะสมการเลือกตั้งในแบบใด นอกจากไปบริหารการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ ยุติธรรมมากขึ้น จึงต้องมีการจัดการข้อพิพาท การคัดค้าน การนับคะแนนและการกำหนดวาระดำรงตำแหน่ง คุณสมบัติให้ชัดเจน หรือสนับสนุนพรรคการเมืองท้องถิ่น กำหนดโควตาให้ผู้หญิงสมัคร และปรับเขตเลือกตั้งเป็นเขตเดียวทั้งระดับ
กำลังโหลดความคิดเห็น