อัครราชทูตพม่านำพ่อแม่สองผู้ต้องหาฆ่านักท่องเที่ยวอังกฤษ พบ กสม. ยันถูกทำร้ายให้สารภาพ โวยถูกตีตรวนทั้งที่เป็นแค่ผู้ต้องสงสัย แถมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย ด้าน “หมอนิรันดร์” รับที่สอบอยู่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดี แต่แค่ซักว่ามีการซ้อมหรือไม่ สับตำรวจเข้าใจคลาดเคลื่อนจึงไม่มาแจง เตรียมเรียกมาคุยจันทร์หน้าต่อหน้าพ่อแม่ชาวพม่า จ่อคุย ผบ.เรือนจำเรื่องใส่โซ่ด้วย
วันนี้ (28 ต.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เมื่อเวลา 10.30 น. นายตวน เอ (Mr.Tun aye) อัครราชทูตพม่าประจำประเทศไทย พร้อมด้วยนายตวน ตวน ไทก์ (Tun Tun Htike) นางเมย เทน (May Thein) บิดามารดาของนายวินซอทู และนางพิว เชว นุ (Phyu Shwe Nu) มารดาของนายซอลิน สองผู้ต้องหาฆาตกรรมสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี รวมถึงตัวแทนจากสภาทนายความ ได้เข้าพบ นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิฯ ในฐานะประธานอนุกรรมการสิทธิพลเมืองและการเมืองเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับสองผู้ต้องหา
โดยนายตวนเอได้พูดผ่านล่ามว่า พ่อแม่ของสองผู้ต้องหาได้ประสานมายังสถานทูตเพื่อขอให้พามาร้องเรียนต่อกรรมการสิทธิมนุษยชน เนื่องจากได้พูดคุยกับลูกชายแล้วยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมที่เกิดขึ้น แต่ถูกข่มขู่ ถูกทำร้ายให้รับสารภาพ จึงขอให้มาร้องต่อกรรมการสิทธิฯ เพราะเขาโดนทำร้าย โดนซ้อมมาก รวมทั้งอยากให้กรรมการสิทธิฯ ช่วยในกรณีการตีตรวนเนื่องจากบุคคลทั้งสองยังไม่ได้เป็นผู้ต้องหา เป็นเพียงผู้ต้องสงสัยเท่านั้น
ด้านนายตวนตวน ไทก์ ได้กล่าวผ่านล่ามว่า เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ตนและภรรยาได้ไปเยี่ยมลูกชายที่เรือนจำเกาะสมุย จากการพูดคุยนั้นลูกชายบอกว่าตั้งแต่เด็กไม่เคยโกหกใคร แม้แต่พ่อแม่ก็ไม่เคย ถามลูกชายว่าที่รับสารภาพเพราะทำจริงหรือไม่ ลูกชายบอกว่าไม่ได้ทำและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีเกาะเต่าเลย แต่ที่ต้องรับสารภาพเพราะถูกข่มขู่ ถูกบังคับ เจ้าหน้าที่บอกว่าถ้าไม่รับสารภาพก็จะตัดแขนขาใส่ถุงปุ๋ยไปลอยน้ำ จะเผานั่งยาง ทรมานให้รับสารภาพ มีการเอาถุงคลุมศีรษะ ด้วยเหตุนี้จึงต้องรับสารภาพผิดไป ทำให้ต้องต้องมาร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรม ความเมตตา ขอบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อช่วยให้คดีเป็นไปด้วยความยุติธรรม
ด้านนางพิว เชว นุ กล่าวผ่านล่ามว่า ลูกบอกว่าไม่เคยโกหกแม่ ลูกเป็นลูกผู้ชายพอ ไม่ได้ฆ่าสองนักท่องเที่ยว ที่ต้องรับสารภาพเพราะโดนทรมานทำให้ทนไม่ไหว จึงขอร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รีบดำเนินการช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้
นพ.นิรันดร์กล่าวทำความเข้าใจกับพ่อแม่ของผู้ต้องหาว่า ที่กรรมการสิทธิฯ ตรวจสอบไม่เกี่ยวกับการสืบสวนคดี แต่เป็นเรื่องของการที่ผู้ต้องหาถูกละเมิดสิทธิด้วยการถูกซ้อมทรมาน ที่ผ่านมาอนุกรรมการได้มีการเชิญผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจงถึง 3 ครั้งแล้ว แต่ก็ยังได้ข้อมูลไม่ชัดเจน เพราะทีมสอบสวนมีหลายชุด อีกทั้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับการตรวจสอบของอนุกรรมการจึงยังไม่มาชี้แจงซึ่งเมื่อวันที่ 27 ต.ค. ก็ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อย้ำประเด็นที่กรรมการสิทธิตรวจสอบเฉพาะเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในส่วนของการจับกุมและสืบสวน เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่สืบสวนมาชี้แจงต่ออนุกรรมการในวันจันทร์ที่ 3 พ.ย. เวลา 13.30 น. โดยอาจจะเชิญพ่อแม่ของสองผู้ต้องหาเข้าร่วมด้วย ส่วนในเรื่องการตีตรวนก็จะเชิญผู้บัญชาการเรือนจำมาพูดคุยและประสานไปยังอธิบดีกรมราชทัณฑ์ให้ช่วยดูแล