“ยงยุทธ” สรุปผลหารือ “ประยุทธ์-เต็ง เส่ง” เผยนายกฯ เป็นเกียรติเยือนพม่า ยกความสัมพันธ์สองชาติดี พร้อมขยายความร่วมมือโดยเฉพาะตามชายแดน พัฒนาครบวงจรทุกด้าน ให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เป็นประโยชน์ลงทุน หนุนยกระดับจุดผ่านแดนถาวรเพิ่ม ดันโครงการทวาย อ้อนพม่าให้ธนาคารไทยเปิดเพิ่มอีก พร้อมลงทุนพลังงานน้ำ ร่วมมือจัดระเบียบต่างด้าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (9 ต.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ร่วมหารือข้อราชการเต็มคณะกับนาย เต็ง เส่ง ประธานาธิบดีพม่า ณ ห้องประชุมสำนักประธานาธิบดี
โดย ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวสรุปผลการหารือว่า พล.อ.ประยุทธ์กล่าวขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เดินทางเยือนพม่าอย่างเป็นทางการในฐานะนายกฯ และรู้สึกยินดีกับรัฐบาลพม่าสำหรับความสำเร็จทั้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจ ความสำเร็จในการทำหน้าที่ประธานอาเซียน เชื่อมั่นว่าภายใต้การนำของประธานาธิบดีพม่าจะสามารถพัฒนาให้ประเทศก้าวไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่องและมั่นคง ในด้านความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทยและพม่ามีความใกล้ชิดและอยู่ในระดับที่ดี ไทยพร้อมที่จะขยายความร่วมมือกับพม่าในทุกด้านโดยหวังว่า ทั้งสองประเทศจะดำเนินความร่วมมือในระยะต่อไปในฐานะ “หุ้นส่วนเพื่อความมั่นคงและการพัฒนา (Partnership for Security and Development)” โดยเฉพาะตามแนวพื้นที่ชายแดน และหวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศจะมีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ทั้งในด้านการพัฒนาความเชื่อมโยง และการเสริมสร้างเอกภาพและความเข้มแข็งของอาเซียน โดยเฉพาะในขณะที่การแข่งขันระหว่างมหาอำนาจทวีความเข้มข้นมากขึ้นตามลำดับ
ทั้งนี้ ไทยพร้อมร่วมมือกับเมียนมาร์ในการจัดระเบียบและพัฒนาพื้นที่ชายแดนอย่างครบวงจร ทั้งด้านความมั่นคง และเศรษฐกิจ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาข้ามพรมแดน ทั้งปัญหายาเสพติด แรงงานผิดกฎหมาย การค้ามนุษย์ รวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิต ทั้งในด้านสาธารณสุข การศึกษา การฝึกอาชีพ และการพัฒนาชุมชน โดยอาจดำเนินความร่วมมือกับมิตรประเทศอื่นที่มีความสนใจ
ร.อ.นพ.ยงยุทธกล่าวต่อว่า ในด้านการพัฒนาความเชื่อมโยง นายกฯ แจ้งให้พม่าทราบว่า ขณะนี้ไทยได้ดำเนินการซ่อมแซมสะพานข้ามแม่น้ำเมยแห่งที่ 1 และยังได้จัดทำ feasibility study และออกแบบสะพานข้ามแม่น้ำเมยแห่งที่ 2 เสร็จแล้ว และพร้อมที่จะสนับสนุนการก่อสร้างสะพานดังกล่าวต่อไป
ทั้งนี้ รัฐบาลไทยมีนโยบายพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษตามแนวชายแดน โดยมีเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอดเป็นโครงการนำร่อง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการส่งเสริมการค้าการลงทุนชายแดน และเป็นการสร้างงานสำหรับประชาชนในพื้นที่ทั้งสองฝั่งไทย-พม่าพร้อมสนับสนุนการเปิดและยกระดับเป็นจุดผ่านแดนถาวรเพิ่มเติมระหว่างกันในพื้นที่ที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะด่านสิงขร-มอต่อง
ส่วนโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ไทย-พม่าพร้อมผลักดันโครงการเพื่อให้เกิดความคืบหน้าเป็นรูปธรรมโดยเร็ว นอกจากนี้ไทยยังได้สนับสนุนการจัดตั้งโรงพยาบาลขนาดเล็กในพื้นที่ทวายด้วย
ร.อ.นพ.ยงยุทธกล่าวอีกว่า ด้านความร่วมมือด้านการเงินและตลาดทุน พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวขอบคุณการสนับสนุนของรัฐบาลพม่าเกี่ยวกับใบอนุญาตดำเนินธุรกรรมของธนาคารกรุงเทพในพม่า โดยนายกฯ ยังได้ขอให้เมียนมาร์พิจารณาสนับสนุนธนาคารของไทยรายอื่นๆ ต่อไปด้วย พร้อมทั้งยังได้ขอให้รัฐบาลพม่าเร่งพิจารณาเงินบาทให้สามารถแลกเปลี่ยนกับเงินจั๊ตได้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับการขยายการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศ ส่วนความร่วมมือด้านพลังงานของไทยและพม่า โดยไทยพร้อมจะเข้าไปลงทุนพลังงานน้ำเพื่อความมั่นคงด้านพลังงานของไทย
ส่วนความร่วมมือด้านแรงงานนั้น ทั้งสองประเทศมีความร่วมมือในการสนับสนุนนโยบายการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวของไทย ไทยให้ความสำคัญเป็นลำดับต้น เพื่อให้แรงงานได้รับความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายและป้องกันการค้ามนุษย์ และเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน นายกฯ ยังได้เสนอให้ทั้งสองประเทศร่วมมือกันจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวอย่างครบวงจร รัฐบาลไทยขอความร่วมมือพม่าจัดส่งเจ้าหน้าที่มาดำเนินการพิสูจน์สัญชาติแรงงานพม่าในไทยโดยเร็ว ส่วนการจัดระเบียบแรงงานจะครอบคลุม 3 ประเภท ได้แก่ ประเภทไปเช้า-เย็นกลับ แรงงานตามฤดูกาล และแรงงานรายปี โดยยืนยันจะดูแลแรงงานพม่าเช่นเดียวกับแรงงานไทย ทั้งนี้ หากไม่ได้รับความเป็นธรรมสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ทันที ส่วนความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายกฯ ได้กล่าวย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหายาเสพติดซึ่งไทยรู้สึกยินดีที่พม่าให้ความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง และขอให้ทั้งสองประเทศร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดต่อไป
ร.อ.นพ.ยงยุทธกล่าวอีกว่า ในโอกาสนี้ นายเต็ง เส่ง ได้กล่าวขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เลือกเยือนสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่าเป็นประเทศแรก และขณะนี้มี 36 ประเทศที่เข้ามาลงทุนกว่า 720 โครงการในพม่า โดยไทยเป็นผู้ลงทุนลำดับ 2 รู้สึกยินดีถึงความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ ทั้งนี้ พม่าได้ตั้งสำนักงานประสานงานการต่อต้านการค้ามนุษย์ในพื้นที่ที่ติดกับเขตแดนของไทยใน อ.แม่สาย อ.แม่สอด และ จ.ระนอง โดยขอให้การจับกุมผู้หลบหนีเข้าเมือง การดำเนินการส่งกลับนั้น ให้เป็นอำนาจหน้าที่ระหว่างสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ ประธานาธิบดีพม่ายังได้ขอให้ไทยช่วยเพิ่มจำนวนนักศึกษาที่ได้รับทุนจาก ปตท.ไปศึกษาดูงานเพิ่มเติม และยังได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลไทยและประชาชนไทยที่มอบเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงที่พม่าประสบอุทกภัยนาร์กิสด้วย
นอกจากนี้ ร.อ.นพ.ยงยุทธยังกล่าวอีกว่าภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายกฯ ได้ทำพิธีมอบป้ายบริจาครถรับบริจาคโลหิตแก่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติของพม่า และมอบเงิน 3 ล้านบาทสนับสนุนการซ่อมแซมปรับปรุงโรงเรียนอนุบาลในโครงการที่เมืองกิ่งมะนา โครงการภายใต้โครงการมิตรภาพไทย-พม่า และร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ 3 ฉบับ ได้แก่ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้อง จ.เชียงใหม่-เชียงตุง ลงนามระหว่างผู้ว่าการจังหวัดเชียงใหม่และมุขมนตรีรัฐฉาน บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้อง จ.ประจวบคีรีขันธ์-มะริด ลงนามโดยผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และมุขมนตรีภาคตะนาวศรี และบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้อง จ.ระนอง-เกาะสอง ลงนามโดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดระนองและมุขมนตรีภาคตะนาวศรี ก่อนที่นายกรัฐมนตรีและคณะจะเข้าร่วมรับประทานอาหารค่ำที่ประธานาธิบดีพม่าเป็นเจ้าภาพเลี้ยงเพื่อเป็นเกียรติ ณ สำนักประธานาธิบดี จากนั้นได้เดินทางไปสักการะพระเจดีย์อุปปตะสันติ