“นายกฯ ตู่” ให้โอวาทคณะนักกีฬาเอเชียนพาราเกมส์ ก่อนแข่งเกาหลีใต้ แนะตั้งความหวังที่ 1 รู้แพ้ ชนะ ฝากรักษาเกียรติ เต็มที่เพื่อชาติ รับไทยต้องมี ร.ร.กีฬา 28 ต.ค.เตรียมจัดเลี้ยงนักกีฬา อัดฉีดทอง 5 แสน เงิน 3 แสน ทองแดง 1.5 แสน-ไม่มีปัญหานำศพ “อภิวันท์” กลับไทย แม้ผิด ม.112 ชี้ตายแล้วคือจบ ปัดร่วมงานศพ เผยสั่งช่วยหา ฮ.ไทยที่หายพม่า ยินดีคนไทยปลอดภัย
วันนี้ (8 ต.ค.) ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวให้โอวาทกับคณะนักกีฬา เจ้าหน้าที่และผู้ฝึกสอน ที่จะเดินทางไปร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชียน พาราเกมส์ ครั้งที่ 11 ที่ประเทศเกาหลีใต้ ว่าปีที่แล้วผลการแข่งขันอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ได้เหรียญทอง เหรียญเงิน เหรียญทองแดง กันมาพอสมควร ปีนี้ก็ตั้งความหวังไว้ได้น้อยก็ไม่เป็นไร มันต้องมีความหวัง ว่าเราจะต้องได้ จะได้มีกำลังใจ ถ้าเราคิดว่าไปแข่งขันแล้วแพ้ก็ไม่ต้องไป ถ้าคิดว่าไปแข่งขันแล้วได้ที่ 3 ที่ 4 อย่าไปเลย ถ้าไปควรตั้งความหวังว่าต้องได้ที่ 1 แม้ไม่ได้เหรียญแต่ได้ความรัก ความสามัคคี ความเข้าใจ รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ให้กัน ไม่ใช่ไปแข่งกีฬากลับมาแล้วรบกันต่อ นักกีฬารบกัน ประเทศรบกัน ไม่เข้าใจกันเอง
“ผมเป็นรัฐบาล ผมยินดีที่จะช่วยในสิ่งที่ทำได้ให้เต็มที่ แต่ความคาดหวังในฐานะคนไทยก็คาดหวัง เรื่องเหรียญก็คาดหวัง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรามีที่ยืนในสังคมโลก ในส่วนกีฬาความสามารถพิเศษเราไม่เคยแพ้ใครในโลก และไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของใครในโลกนี้ นั่นคือสิ่งที่เป็นความภาคภูมิใจของเรา เราต้องสร้างความเป็นหนึ่งให้ได้ในการกีฬาประเภทนี้ในต่างประเทศ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า การสร้างความเข้าใจให้กับคนในประเทศว่าจะทำอย่างไรให้กีฬาเราดีขึ้นไปเรื่อยๆ วันนี้เราได้นักกีฬาส่วนใหญ่จากความสมัครใจ พรสวรรค์ วันหน้ามันควรจะต้องมีนักกีฬาที่มาจากโรงเรียนกีฬา เด็กที่เรียนโรงเรียนกีฬามาตั้งแต่เด็ก จะได้นักกีฬาตัวสูงใหญ่ ตัวโต จะได้ไปแข่งกับเขาได้ ทุกอย่างเก่งหมดแต่เราตัวเล็กเลยสู้เขาไม่ได้ แต่กีฬาประเภทนี้ตัวเล็ก ตัวใหญ่ไม่เกี่ยวหรอก ตนเห็นปั่นกันเต็มที่ เป็นตนยังทำไม่ได้เลย ตนมีทุกอย่างครบยังสู้ท่านไม่ได้ นี่คือสิ่งที่ท่านมีมากกว่าพวกเราทั้งร่างกายและจิตใจที่เข้มแข็ง สู้เขาเอาชัยชนะมาสู่ประเทศไทย นั่นคือชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของพวกท่าน ท่านเป็นพลังของชาติ ในเรื่องกีฬาก็มีปัญหามาก ในองค์กรของท่านเอง ท่านต้องสร้างความเข้าใจให้ได้ ทั้งหมดคือกีฬา คนที่ทำเรื่องกีฬาก็ต้องทำให้คนในสังคมเข้าใจ เพี่อให้มีการสนับสนุนท่าน ไม่ว่าจะเป็นกีฬาฟุตบอล กีฬาลีก อะไรต่างๆ วันนี้ตนเพิ่งออกมาจากการเป็นประธานสโมสรทหาร ยูไนเต็ด พยายามที่จะให้ได้ที่ 1 แต่ก็ยังไปไม่ถึง ทุนสู้ไม่ไหว ใช้เงินเยอะพอสมควร ไม่เป็นไร แต่ทำให้กีฬาฟุตบอลในประเทศไทยดีขึ้น วันนี้ดีทุกอย่าง แต่มันแค่ไม่ทันเขา สู้ไม่ได้
“เพราะฉะนั้นพวกเราทุกคนเวลาไปแข่งกีฬา 1. รักษาเกียรติของประเทศไทย 2. แข่งขันกีฬาให้เต็มที่ 3. ระมัดระวังอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นในการแข่งขัน ถ้าอันตรายท่านก็ควรจะระมัดระวัง เพราะฉะนั้น ผมอยากให้ได้ชัยชนะให้มากที่สุด และหากไม่ได้ก็ไม่เป็นไร รักษาเนื้อรักษาตัวให้เดินทางกลับมาอย่างปลอดภัย อันนี้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญ มีอะไรก็ฝากรัฐมนตรีการท่องเที่ยวและกีฬามา วันนี้เราต้องพัฒนาวิทยาศาสตร์การกีฬาให้มากขึ้น ทุกคนต้องช่วยกัน ไม่อย่างนั้นเราจะเอาชนะเขาไม่ได้ ทุกประเทศเขาพัฒนาทุกอย่าง เพราะฉะนั้นในนามของรัฐบาลยืนยันอีกครั้ง จะส่งเสริมกีฬาในทุกประเภท ให้กีฬาเป็นพื้นฐานของคนไทย ให้ปลูกฝังเยาวชนรัก และมีน้ำใจนักกีฬา และมีระเบียบวินัย ทำตามกฎกติกา และส่งเสริมการเป็นนักกีฬาอาชีพให้มากยิ่งขึ้นในอนาคต” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ในส่วนของความเป็นคนไทย ท่านไปต่างประเทศ ท่านไปเจอคนในหลายประเภท เขาก็ต้องสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ตนก็ไม่อยากพูดอะไรที่ผ่านมาแล้ว ตนเข้ามาเพื่อที่จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น ไม่มีเจตนาที่จะทำอะไรให้แย่ลง ท่านต้องเข้าใจว่าเข้ามาทำอะไร เข้ามาแก้ปัญหาการเมืองที่มีมายาวนานแก้ปัญหาไม่ได้ การแก้ไขปัญหาตอนนี้ คือ การแก้ไขปัญหาราชการแผ่นดินด้วยความสุจริต เพราะตนเข้ามาโดยไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น เพียงต้องการที่จะแก้ไขปัญหา และแก้ไขกฎหมายให้ทันสมัย บริหารราชการด้วยความโปร่งใส และใช้งบประมาณด้วยความประหยัดและคุ้มค่า มีประสิทธิภาพและสร้างความเข้มแข็ง ให้เป็นประชาธิปไตยที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคต ตนเข้ามาเพราะตนเป็นคนไทยและตนคิดว่าตนทำได้ เพราะฉะนั้นอยากจะขอความร่วมมือจากทุกท่านด้วย อยากให้เข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นในประเทศไทย มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นบ้าง ก็คือความขัดแย้ง ซึ่งไม่มีทางแก้ปัญหาได้ นอกจากวิธีการที่ตนทำ ทางเดียวเท่านั้น เพราะติดขัดข้อกฎหมาย ติดขัดรัฐธรรมนูญ ทำให้รัฐบาลก็ไม่ใช่รัฐบาลที่มีอำนาจ ก็เลยทำอะไรไม่ได้ ทำให้เสี่ยงที่จะตรงนี้มาเพื่อพวกเราทุกคน วันนี้ทุกอย่างก็สงบเรียบร้อยดี ก็มีบ้างคนที่ไม่เข้าใจหรือแกล้งไม่เข้าใจ ต่างประเทศก็ไปสร้างความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน อะไรก็ตามที่พูดออกไปก็เป็นการสร้างความเข้าใจให้กับคนในโลก ถึงแม้เราจะวิพากษ์วิจารณ์แต่ก็ออกไปต่างประทศอยู่ดี ต้องวิจารณ์สิ่งที่มันถูกต้อง ถ้าวิพากษ์วิจารณ์สิ่งที่ไม่ดี คิดว่าอยู่แค่ในประเทศคิดอย่างนั้นไม่ใช่ เพราะฉะนั้นเราก็ไม่สามารถไปยืนในสังคมโลกได้ ตนก็ไม่ได้มีความสุข ดีใจ ในการเป็นนายกรัฐมนตรี อาจจะมีอำนาจล้นฟ้า แต่ตนก็ใช้อำนาจในทางสร้างสรรค์ การแก้ปัญหาทุกอย่างต้องใช้เวลา
“ขอบคุณอีกครั้งในการให้เกียรติกับรัฐบาลและผมในวันนี้ ผมถือว่าเป็นกำลังใจให้กับรัฐบาล และรัฐบาลก็ถือเป็นกำลังใจให้กับท่าน เราต้องพึ่งพาอาศัยกันและกัน ไม่ใช่เพื่อผม ไม่ใช่เพื่อท่าน แต่เพื่อประเทศไทย ขออำนาจแห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านหลาย เดชะพระบารมีอันแผ่ไพศาล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานพรให้แก่ทุกคน ทั้งผู้ฝึกสอน นักกีฬา จนถึงเจ้าหน้าที่ทั้งหมด และรัฐมนตรีที่จะต้องไปร่วมงานด้วย ให้ทุกคนประสบความสำเร็จให้มีความสุขความเจริญ สิ่งใดที่ท่านคาดหวัง ให้สมความปรารถนา ขอให้ทุกคนโชคดี” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังการให้โอวาทว่าจะมีการจัดเลี้ยงต้อนรับนักกีฬาที่ไปแข่งขันเอเชียนเกมส์ และเอเชียน พาราเกมส์ ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ ในวันที่ 28 ต.ค.นี้ ซึ่งรัฐบาลเตรียมเงินอัดฉีดให้กับทัพนักกีฬาไว้ โดยแบ่งเป็นเหรียญทองจำนวน 5 แสนบาท เหรียญเงิน 3 แสนบาท และเหรียญทองแดงจำนวน 1.5 แสนบาท
ด้านนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ฝากเป็นกำลังใจให้กับนักกีฬาเอเชียน พาราเกมส์ ส่วนเงินอัดฉีดก็เป็นไปตามเกณฑ์ และท่านนายกฯ ก็จะพบกับนักกีฬาทั้งเอเชียน พาราเกมส์ และเอเชียนเกมส์ในวันที่ 28 ต.ค.นี้
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังให้สัมภาษณ์ถึงการเสียชีวิตของ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย อดีตรองประธานสภา และแกนนำคนเสื้อแดง ว่านำศพกลับมาได้เพราะเป็นคนไทย จะทำพิธีทางศาสนาก็เชิญ ไม่ได้มีปัญหาหรือข้อขัดข้องอะไร แต่ในเรื่องความผิดกฎหมาย มาตรา 112 ไม่ได้ คนผิดก็คือผิด เข้าใจไหมว่ามันคนละเรื่องกัน และท่านก็ยังคงเป็นทหารอยู่ มียศมีอะไรก็เป็นเรื่องของราชการ ต้องดำเนินการว่าไปตามขั้นตอน อย่าไปตีกันไปมา
เมื่อถามว่าจะไปร่วมพิธีศพของ พ.อ.อภิวันท์ด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คงไม่ เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ต่อไปอาจจะมีนักการเมืองเสียชีวิตในต่างประเทศอีกจะทำอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ย้อนถามว่า แล้วเขาไปทำไม ทำไมเขาถึงไป ก็รู้อยู่ว่าเขาหนี
“ผมไม่ได้ไปเอาอะไรกับเขา เขาผิดกฎหมายมาตราอะไร กฎหมายอาญา หรือแพ่ง ก็ต้องขึ้นศาลก็จบแล้ว บางทีตายแล้วศาลยังตัดสินไม่ได้ แต่นี่หนีไปก่อน แต่ตายไปแล้วก็ถือว่าจบ จะไปเที่ยวฟ้องใคร อย่าไปแกล้งเขานะ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีพบนักบินไทยที่หายไปพร้อมกับเฮลิคอปเตอร์พร้อมผู้โดยสารอีกส่วนหนึ่งที่หายไปในประเทศพม่าว่า ตนรู้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ตนสั่งไปเองให้หน่วยงานเขาชี้แจงไป แล้วให้เขารายงานมาอีกที ตนดีใจที่เขาปลอดภัย ไม่มีการบาดเจ็บใดๆ โชคดีที่ไปลงกลางป่า แต่มันติดต่อวิทยุไม่ได้ ตนและคนไทยเอาใจช่วยเขามาตลอด พม่าก็เป็นห่วง มีการประสานงานตลอด