เกาะกระแส
00 ยังเป็นไปตามโรดแมปของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป๊ะ สำหรับการคัดเลือกแต่งตั้ง สปช.จำนวน 250 คน ซึ่งตามอำนาจของ คสช.ได้เคาะรายชื่อเป็นครั้งสุดท้าย และเสร็จสิ้นไม่เกินวันที่ 2 ต.ค.อย่างไรก็ดีระหว่างที่รอการประกาศอย่างเป็นทางการ ก็มีการแพลมรายชื่อออกมาให้เห็นหน้าตากันบ้างแล้ว และเชื่อว่า"ของจริง"ก็คงเป็นแบบนี้แหละ มีทั้งคนเก่ง คนดัง ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะสาขาเข้ามาแบบหลากหลายพอสมควร มองในภาพรวมๆแบบตรงไปตรงมาก็ถือว่าโอเคนะ
00 ขณะเดียวกันสิ่งที่ต้องพิจารณาซ้อนกันเข้าไปก็ต้องยอมรับว่านี่คือการคัดเลือกแบบมียุทธศาสตร์ป้องกัน"เสียงยี้"ทำลายเครดิตตั้งแต่ต้น โดยเอารายชื่อแบบเด่นดัง รวมไปถึงรายชื่อที่เชื่อว่ามี"กลุ่มการเมืองเป็นแบ็ก"หนุนคละกันเข้ามา กับสเป็กของตัวเองที่ดูแล้วเหมือนกับ"ล็อก"รายชื่อกันมาล่วงหน้านานนับเดือนแล้ว ที่น่าสังเกตก็คือบุคคลที่เป็นอดีตนักการเมือง อดีต สส.ที่เคยสังกัดพรรคการเมือง และ สว.หลายคนติดโผในคราวนี้ด้วย ที่น่าสนใจก็มี ชัย ชิดชอบ อลงกรณ์ พลบุตร รายหลังนี้แม้ว่าจะประกาศว่ามาในนามส่วนตัวไม่เกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์ก็ตามแต่เมื่อมีรายชื่อเข้ามามันก็ช่วยไม่ได้ที่จะต้องโยงไปถึงพรรคเก่าแก่กันบ้าง แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วจะเชื่อว่าไม่ค่อยเกี่ยวกันแล้วก็ตาม หรือแม้แต่อดีต สส.ของพรรคเพื่อไทย อดีตทนายความของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็มีชื่อติดเข้ามาด้วย ลักษณะแบบนี้เชื่อว่าต้องการให้เห็นว่ามีภาพตัวแทนพรรคการเมืองเข้ามาร่วมปฏิรูปด้วย
00 อย่างไรก็ดีอย่างที่บอกไปแล้วก็คือ บรรดารายชื่อเหล่านี้ล้วนเป็นคนละส่วนกับรายชื่ออีกชุดหนึ่งที่แม้ว่า"ไม่ล็อก"ก็เหมือน"ล็อก"เอาไว้นั่นแหละ ถามว่าชื่อของ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ มันคุ้นหูคุ้นตามานนานหลายเดือนแล้ว หลังจากได้เห็น วิษณุ เครืองาม ได้เห็น มีชัย ฤชุพันธ์ มีบทบาทใน คสช.และรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมไปถึงมีบทบาทในการสรรหาคัดเลือก สปช.มาตั้งแต่ต้น และยังเชื่ออีกว่า ชื่อของ บวรศักดิ์ จะต้องคั่วเก้าอี้ ประธานกมธ.ยกร่างรธน.ฉบับใหม่อย่างแน่นอน แต่ก็ต้องบอกว่าคนละส่วนกับเรื่องความรู้ความสามารถ เพราะต้องยอมรับแบบไม่มีข้อแย้งว่าเขา "เจ๋ง"จริง ลองเป็นว่าถ้าเป็นงานเกี่ยวกับ กม.สำคัญของบ้านเมืองจะขาดคนพวกนี้ไปไม่ได้ เพราะเห็นกันมานาน ดังนั้นคราวนี้ก็เช่นกัน หากมีการร่างรธน.กันใหม่ก็หวังว่าจะใช้ประสบการณ์ในอดีตมาอุดช่องโหว่ จุดอ่อนที่ตัวเองเคยทำมาออกไปให้หมดด้วยนะ !!
00 แน่นอนแบบที่เรียกว่าไม่มีเปลี่ยนแปลงนั่นก็คือการ"เคาะ"ปรับขึ้นราคาพลังงานในส่วนของราคาก๊าชแอลพีจี กก.ละ62 สต.และเอ็นจีวีภาคขนส่ง กก.ละ 1 บาท มีผล 1 ต.ค.เป็นต้นไปเพราะ รมว.พลังงาน ณรงค์ชัย อัครเศรณี ได้ส่งสัญญาณมานานหลายสัปดาห์แล้ว แต่ปัญหาที่ตามมาก็คือให้เตรียมกับการปรับราคาค่าขนส่ง ที่เป็นต้นทุนหลักอย่างหนึ่งของราคาสินค้าจะมีการพาเหรดกันปรับราคาใหม่ ทั้งในแบบเปิดเผยและแอบปรับขึ้นแบบไม่บอกใคร และน่าห่วงก็คือมันจะคุมราคา"ค่าครองชีพ"ไม่อยู่แล้วมันจะยุ่ง เพราะถ้าคุมไม่อยู่เกิดปัญหา"ความรู้สึกแพงทั้งแผ่นดิน"เมื่อไหร่ เมื่อนั้น "ลุงตู่"และคสช.จะ"ขาลง"เรื่อยๆ แม้จะร้องเพลงให้ฟังทุกวันมันก็ไม่ไหวเหมือนกัน
00 ที่ปรับแน่ๆก็คือราคามิเตอร์แท็กซี่ ที่แม้ว่าจะเริ่มต้นที่ 35 บาทเท่าเดิม แต่ระยะทาง ช่วงเวลารถติด จะมีการปรับราคากันเพิ่มขึ้น สรุปรวมจะปรับราคาเพิ่มขึ้นประมาณ 10-15 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งที่ผ่านมา รมว.คมนาคม พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ไฟเขียวไปแล้วเพียงแต่รอดีเดย์เท่านั้น อ้อเกือบลืมไปยังมีแบะท่าให้ปรับค่าเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย และแน่นอนว่าจะตามมาด้วยเรือโดยสารในคลองแสนแสบ งานนี้ก็ต้องวัดใจคนกรุง คนไทยว่าจะกัดฟันสู้ไปได้นานแค่ไหน !!
00 ยังวิจารณ์ในทางลบกันไม่จบสำหรับ 28 สนช.ที่รวมหัวกันยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางให้ระงับคำสั่ง ปปช.ที่ให้เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินให้ชาวบ้านได้รู้ อ้างว่าพวกเขา"ไม่ใช่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง" และจำไม่ได้ว่าตัวเองมีทรัพย์สินอะไรบ้าง ส่วนใหญ่ก็เป็นนายทหาร นายตำรวจระดับ "ขาใหญ่"ทั้งนั้น เอาเป็นว่านอกจาก พล.อ.นพดล อินทปัญญา อดีตเลขาฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เมื่อครั้งเป็นรมว.กลาโหม ยุครัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แล้ว ยังมี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผบ.ตร.น้องชาย พล.อ.ประวิตร พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิชย์ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ อดีต ผบ.ทอ.พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ เพื่อนบิ๊กตู่ ประธานบอร์ด รฟม.เป็นต้น คิดเอาเองแล้วกัน "สปิริต"จิตสำนึกมีแค่ไหน !!
