เพื่อแม้ว เริ่มขย่มปฏิรูป คสช.สัญญาณดิสเครดิตลากยาวถึงเลือกตั้ง !?

ผ่าประเด็นร้อน

ดาหน้าออกมาถล่มรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กันแบบแท็กทีม สำหรับพลพรรคเพื่อไทย เครือข่าย ทักษิณ ชินวัตร โดยจับเอาเรื่องการแต่งตั้งสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ขึ้นมาเป็นต้นเรื่อง ทั้งที่ยังไม่ได้เห็นรายชื่อที่ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการด้วยซ้ำ เป็นเพียงโผรายชื่อที่ปรากฏออกมาตามสื่อเท่านั้น

อย่างไรก็ดี แม้ว่าเมื่อมีการประกาศรายชื่อ สปช. ออกมาแล้วไม่ได้ผิดเพี้ยนไปจากโผดังกล่าว ก็ต้องมาพิจารณากันว่า “ยี้” มากน้อยแค่ไหน มีความหลากหลาย มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านแค่ไหน ลักษณะออกมาแบบ “ล็อกสเปก” ตามที่มีการดักคอนินทากันก่อนหน้านี้หรือไม่

และที่ต้องติดตามแบบไม่ให้คลาดสายตาก็คือ เนื้อหาสาระในการปฏิรูปทั้ง 11 ด้านจะออกมาตรงตามความต้องการและประโยชน์ของคนส่วนใหญ่หรือไม่ รวมไปถึงตัวคณะบุคคลที่ถูกคัดเลือกมาเป็นคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ปี 2558 จะมีความก้าวหน้า คุ้มครองสิทธิของชาวบ้าน ป้องกันการใช้อำนาจมิชอบทั้งจาก นักการเมือง และข้าราชการ ป้องกันการทุจริตคอร์รัปชันได้เข้มงวดได้แค่ไหน

แม้ว่าตามรายชื่อ สปช. ที่แพลมออกมาในช่วงนี้ ซึ่งก็เชื่อว่าคงเป็นไปตามนั้น แต่เท่าที่เห็นมันก็คละเคล้ากันไป ยี้บ้างไม่ยี้บ้าง พรรคพวกกันบ้าง มากันแบบเพื่อนพ้องน้องพี่สมนาคุณปลอบใจจากที่เคยพลาดหวังเก้าอี้ในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) บ้าง หลายคนเห็นชื่อแล้วมันปฏิเสธไม่ได้หรอก เพราะการแต่งตั้งมันมีเป้าหมายหลายอย่างประกอบกัน อย่างน้อยหากออกมาแบบที่ว่าจริงมันก็ป้องกันแรงกระเพื่อมเอาไว้ตั้งแต่ต้นมือในระดับหนึ่ง

เพราะเท่าที่สำรวจรายชื่อนอกจากมีตัวแทนจากพรรคการเมือง กลุ่มการเมือง แม้จะมาแบบไม่เป็นทางการ แต่ก็พอมองออก ตัวแทนพรรคการเมืองที่เคยเป็นอดีต ส.ส. บางคนเคยขึ้นเวทีร่วมชุมนุมกับกลุ่มการเมือง ทั้ง กปปส. หรือแม้แต่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถ้ามองแบบเชื่อมโยงก็สามารถมองได้หมด

นั่นเป็นรายชื่อที่แยกออกมาเป็นพวกหนึ่ง ก็ต้องจับตามองว่าคนกลุ่มนี้จะมีบทบาทมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นเสนอแนวคิดในการปฏิรูปได้อย่างจริงจังแค่ไหน

แต่ที่ต้องจับตาก็คือ จะมีรายชื่ออีกกลุ่มหนึ่งที่เหมือนกับว่า “ถูกกำหนด” หรือล็อกเอาไว้ล่วงหน้ามานานนับเดือนแล้วว่า “ต้องเข้ามาทำภารกิจ” สำคัญนี้ หรือเข้ามาเป็นผู้กำหนดทิศทางไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง ซึ่งแน่นอนว่านาทีนี้ต้องโฟกัสไปที่ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า “นักร่างรัฐธรรมนูญ” มาหลายยุคหลายสมัย มาคราวนี้ก็เช่นเดียวกัน เขาถูกจับตามาตั้งแต่ได้เห็นรายชื่อของ วิษณุ เครืองาม และ มีชัย ฤชุพันธุ์ เข้ามามีบทบาทสำคัญด้านกฎหมายในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และในรัฐบาล เพราะการกำหนดและออกแบบองค์กรอำนาจไม่ว่าจะเป็นการร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ. 2557 สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จนมาถึง สภาปฏิรูปแห่งชาติก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเขาต้องมีบทบาท

หากเน้นเฉพาะ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ในตอนแรกที่ไม่มีชื่อมีตำแหน่งใน สนช. และในรัฐบาล ก็เพราะมีการมองเอาไว้แล้วจะให้มาคุมเกมในสภาปฏิรูปฯ ซึ่งหากคาดเดาให้แคบเข้ามาอีกก็น่าจะถูกกำหนดให้เป็นประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับ พ.ศ. 2558 มากกว่า

ถามว่าคนอย่าง บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เก่งหรือไม่ ก็ต้องตอบแบบไม่ลังเลว่าเก่ง แทบทุกคนยอมรับ ซึ่งหาก คสช. และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เปิดปากยอมรับว่า “ล็อก” เอาไว้ให้เขาก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะไว้ใจได้ สามารถกำหนดทิศทางได้ เพียงแต่ว่าเนื้อหาสาระในร่างรัฐธรรมนูญที่จะออกมามันก้าวหน้าเป็นการปฏิรูปทุกภาคส่วนได้จริงหรือเปล่าต่างหาก ขณะเดียวกัน เมื่อคนอย่างบวรศักดิ์ ร่างรัฐธรรมนูญมาหลายฉบับ ก็ต้องรู้จุดอ่อนจุดแข็งแล้วมาปรับปรุงให้สมบูรณ์ที่สุด รวมทั้งจะรับฟังความเห็นจาก สปช. ที่อยู่วงนอกที่คละกันมาได้แค่ไหน หรือว่าเป็นแค่ไม้ประดับเท่านั้น

เมื่อย้อนกลับไปพิจารณาท่าทีของ ทีมงานพรรคเพื่อไทย เครือข่าย ทักษิณ ชินวัตร ที่ก่อนหน้านี้ได้รับสัญญาณมาจากแดนไกลว่า “ให้รอ” ไปก่อน เพื่อรอกลับมาหลังการเลือกตั้งในปลายปี 2558 หรืออย่างช้าก็ในต้นปี 2559 ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ประกาศย้ำไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่แล้วจู่ๆ กลับไม่นิ่งเฉย ดาหน้าออกมารุมถล่มทันที เริ่มตั้งแต่ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ อำนวย คลังผา อดีตประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิป) รวมไปถึงระดับปลายแถวอย่าง วรชัย เหมะ อดีต ส.ส. สมุทรปราการ ก็ออกมาดิสเครดิตสมาชิกสภาปฏิรูปเสียตั้งแต่ต้นมือ นั่นคือยังไม่มีการประกาศแต่งตั้งอย่างเป็นทางการด้วยซ้ำไป ดูรายชื่อจากสื่อก็วิจารณ์กันแบบไม่มีชิ้นดี โดยสรุปล่วงหน้ากันไปแล้วว่า “ปฏิรูปเหลว” แน่นอน ที่สำคัญระบุว่าการแต่งตั้ง สปช. มีการล็อกสเปก มีแต่พวกพ้องของ คสช. และบุคคลที่เป็นคู่ขัดแย้งกับพรรคเพื่อไทยทั้งสิ้น

ทั้งที่ในความเป็นจริงหากรายชื่อ สปช. ออกมาตามโผรายชื่อที่ปรากฏออกมาตามสื่อจริง มันก็ไม่ถึงขั้นเลวร้ายตามปากของพวกเครือข่ายพรรคเพื่อไทยวาดภาพเอาไว้ เพราะแม้ว่าหลายคนอาจเป็นคนใกล้ชิดคนนั้นคนนี้ เหมือนเป็นตัวแทนกลุ่มการเมือง บางคนเป็นนักการเมืองสายพันธุ์ยี้ แต่พวกเขาก็มีประสบการณ์มีความสามารถ มีความเชี่ยวชาญ แต่ที่ต้องมาประเมินกันก็คือทำไมต้องมีเจตนาทำลายความน่าเชื่อถือกันตั้งแต่ต้นแบบนี้

คำตอบก็น่าจะอยู่ที่ว่า “ได้จังหวะ” ต้องออกมาแล้ว อย่างน้อยก็เป็นการเตะตัดขาทำลายจังหวะฝ่ายตรงข้ามเอาไว้ก่อน เพื่อรอเข้าทำในคราวหน้าหากเปิดช่องโหว่ให้ตี แต่อย่างน้อยก็เป็นการสร้างกระแสความเคลื่อนไหวให้พวกเดียวกันได้เห็นอย่างน้อยก็ต้องพยายามแสดงออกในเรื่องสิทธิของประชาชน เชิดชูประชาธิปไตยอะไรทำนองนั้น และเชื่อว่านับจากนี้ไปบทบาทการเคลื่อนไหวของคนพวกนี้จะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึงวันเลือกตั้ง โดยวาทะสำคัญที่ต้องชูธงก็คือ คัดค้านรัฐธรรมนูญเผด็จการ เพื่อกลับมาแก้ไขใหม่ หลังกลับมามีอำนาจอีกครั้ง

ซึ่งคนพวกนี้ได้ประกาศไว้ล่วงหน้าแล้ว !!