รายงานการเมือง
แม่น้ำอีกสายของ “เนติบริกร” นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ใกล้จะแตกแขนงออกมาแล้ว หลังคณะกรรมการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) 11 ด้าน เตรียมจะส่งรายชื่อ 550 ผู้ผ่านการคัดเลือกไปให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จิ้มออกมาให้เหลือ 173 คน ในวันที่ 19 กันยายนนี้
ขณะที่คณะกรรมการสรรหา สปช.แต่ละจังหวัด จะส่งรายชื่อ 385 ผู้ผ่านการคัดเลือกไปให้ คสช.จิ้มให้เหลือ 77 คน ในวันที่ 23 เดือนเดียวกัน โดยจะเห็นหน้าคร่าตา “250 อรหันต์ สปช.” ได้ไม่เกินวันที่ 2 ตุลาคม หรืออีกไม่ถึงเดือนแล้ว
มาถึงตรงนี้หลายฝ่ายจับตาว่า หน้าตาของ สปช. หนึ่งในแม่น้ำสายหลักของ “เนติบริกร” จะออกมาอย่างไร ดีหรือยี้ ก่อนหน้านี้หลายฝ่ายค่อนแคะกันเยอะว่ากระบวนการสรรหาเป็นเพียงพิธีกรรมเท่านั้น เพราะสุดท้ายก็ล็อกหัวล็อกหางกันไว้หมดแล้วว่า ใครดูอะไรด้านไหน เนื่องจากผู้มีอำนาจย่อมต้องใช้คนที่ไว้วางใจได้เข้าไปทำ ไม่น่าจะปล่อยให้เสี้ยนหนามหรือคนนอกที่แห่กันไปยื่นใบสมัครเข้ารอบสุดท้ายไปร่วมวงปฏิรูป เป็นที่ปวดใจในภายหลัง
ด้วยเหตุนี้การสมัครเพื่อเข้ารับการสรรหาที่ผ่านๆ มาจึงดูจะไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่าไหร่ ตามปรากฏการณ์ แรกเริ่มเดิมทีที่บรรยากาศการรับสมัคร สปช.เป็นไปอย่างโหรงเหรง วังเวงชอบกลราวกับป่าช้า จนคนนินทาหมาดูถูก เยาะเย้ยแหลกลาญว่า โดยเฉพาะจากเครือข่ายพรรคเพื่อไทย และเสื้อแดงเผาเมืองที่หัวเราะท้องแข็ง หลังจากเห็นวันแรกๆ มากันไม่กี่ร้อย ไม่ถึงร้อย คนไม่ให้ความสนใจ เพราะรู้อยู่เต็มอกว่า กรอกประวัติให้เสียน้ำหมึกเปล่าๆ
จนกระทั่งวันหลังๆ ความเชื่อเรื่องการล็อกสเปกยิ่งมีมากขึ้นหนักกว่าเก่า เพราะบรรดาตัวเด่นตัวดังเริ่มตบเท้ากันเข้ามาเป็นพัน คึกคักครึกครื้นกันน่าดู โดยเฉพาะประเภทบิ๊กเนม เก๋าเกม รู้ทิศทางลม เป็นมวยมีเชิงจะมาช่วงหลังๆ ไม่ปรากฎตัวให้ช้ำแต่แรกๆ เรียกว่า เคลียร์รันเวย์ เคลียร์พื้นที่กันมาเรียบร้อยแล้ว พวกนี้ชื่อดังผ่านรอบแรกแน่นอนชัวร์ป้าบ เชื่อขนมกินรอได้เลย
หนำซ้ำ บรรดาบิ๊กเนมเหล่านี้ยังมีสิทธิ์จะทะลุไปเป็นโตเป็นใหญ่ ระดับหัวๆ ใน สปช.กันเลย โดยเฉพาะ “ดร.ปึ๊ด” นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ที่งานนี้เต็งหามแม้จะมาสมัครหลังสุด ชนิดไม่คั่วเก้าอี้ประธาน สปช.ก็ถูกเสนอโควตาไปเป็นกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวรปี 2558 เพื่อไปชิงเก้าอี้ประธานยกร่างฯ ที่มาแรงกว่าใครเพื่อน
เพราะได้รับแรงหนุนเนืองจากแก๊งสามเกลออย่างนายมีชัย ฤชุพันธุ์ คสช. และนายวิษณุ ทีมงานกฎหมายคนสำคัญของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
งานนี้บรรดาบิ๊กเนมคงสมหวังกันถ้วนหน้า แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ ด้านพลังงาน ที่ก็รู้กันอยู่ว่า มีรายการซดเกาเหลากันชามโต เป็นไม้เบื่อไม้เมากันระหว่างกรรมการสรรหาบางคนกับผู้เข้ารับการสรรหาบางคน โดยเฉพาะในราย น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.กทม. ที่ก่อนหน้านี้หลายฝ่ายเดาทางว่า น่าจะหล่นรอบแรกด้วยเหตุกรรมการสรรหาบางคนไม่ชอบขี้หน้า
แต่พอคณะกรรมการสรรหาโดนโจมตีจากสังคมไปสักระยะว่าจะเจอรายการสกัดดาวรุ่งหรือไม่ ผนวกกับ พล.อ.ประยุทธ์เองเป็นคนเสนอให้กลับเข้าสู่เวทีปฏิรูป ไม่ให้พูดข้างนอก ทำให้มีคนมองว่า อย่างนี้ น.ส.รสนาน่าจะผ่านเข้าวินรอบ 50 คนไปได้
แต่ปัญหาคือ เมื่อผ่านเข้ารอบ 50 คน มาแล้ว คสช.ไม่เลือก ตรงนี้สังคมคงจะตั้งคำถามแน่นอนว่าเป็นการปล่อยให้เข้ารอบมาเพื่อมาเขี่ยออกกันในรอบสุดท้ายเพื่อไม่ให้น่าเกลียด ซึ่งน่าจะมีปัญหาตามมาและค้านสายตาคนดูแน่ๆ เพราะน.ส.รสนาเป็นคนจับเรื่องนี้มาตลอด เหตุใดจึงไม่ได้รับเลือกจาก คสช. แล้วคนที่ถูกเลือกดีกว่า หรือเหมาะสมกว่าตรงไหน อย่างไร ต้องอธิบายให้ได้
แน่นอนว่า ถ้า น.ส.รสนาตกรอบรอบสุดท้าย อย่างไรงานนี้ก็อุดปากหรือหยุดความคิดคนไม่ได้ว่า มีพลังอำนาจอะไรบางอย่างทำให้ไปไม่ถึงฝั่งฝัน แล้วมันจะถูกโยงกันไปถึงเรื่องที่ครหากันคือ สุดท้าย สปช.ก็มีรายการล็อกสเปก เว้นที่ให้เด็กตัวเอง อะไรต่างๆ นานาที่ทำกันมา ตั้งแต่รับสมัคร กรอกประวัติ ล้วนเป็นพิธีกรรมที่สรรสร้างขึ้นมาเพื่อให้ดูเป็นทางการและมีความชอบธรรมเท่านั้น
แล้วเมื่อเป็นอย่างนี้การปฏิรูปที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้ามันจะไปแตะขอบฟ้าได้อย่างไร!!
อย่างไรก็ดี ดูกันตามโปรแกรมต่อจากนี้ หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทำการคัดกรองขั้นต้นแล้ว ช็อตต่อไปเป็นงานของ คสช.ที่จะต้องเป็นผู้เลือกเฟ้นต่อ เป็นเผือกร้อนที่หล่นใส่มือ คสช.ที่ต้องเลือกตัวจริงเสียงจริงมาปฏิรูป ซึ่งเดี๋ยวก็รู้ว่ามีใครแทงหวยถูกบ้าง ไม่นานให้อดใจสักครู่
ต้องรอดูภาพรวมจะออกมายี้ และสวยงามกว่าที่ผ่านๆ มาหรือไม่ หลังก่อนหน้านี้ทำชาวบ้านเสียอารมณ์ ถอนหายใจกันเฮือกใหญ่ เพราะแม่น้ำสายแรกอย่างสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดนนินทากันขรมเมืองมาครั้งหนึ่งแล้วว่าเลือกแต่พรรคพวก กากี่นั้ง ทหารตบเท้าเข้ามากว่าครึ่ง นักวิชาการ อดีตข้าราชการส่วนใหญ่มีแนวคิดตรงกันข้ามกับระบอบทักษิณทั้งนั้น ซึ่งงานนี้ขืนทำแบบนั้นอีกคนเสื่อมศรัทธาแน่
นอกจากเรื่องหน้าตาที่ต้องลุ้นกันว่าจะน่าเกลียดน่าชังหรือไม่ อีกปัจจัยหนึ่งที่เข้ามาเป็นปัจจัยแทรกซ้อนคือ เรื่องการจัดสรรผลประโยชน์ อย่าลืมว่า รอบ สนช.ที่ผ่านมา มีคนพลาดหวัง เคว้งคว้าง ไม่มีหลักแหล่งอยู่ไม่น้อย จนมีการคาดการณ์กันว่า อาจจะมีการจับยัดมาใส่ใน สปช.อีกรอบ
แล้วก็มีหลายคนเสียด้วยที่ถูกมองว่า พาดหวังจาก สนช.มาสมัครเป็น สปช. ซึ่งก็พกความหวังกันมาเต็มที่ว่ารอบนี้ได้แน่ ในฐานะที่ต่อสู้เคียงไหล่เคียงบ่ากันมา
แต่จะดันเข้าไปหมดหรือไม่ก็ยังไม่แน่ อย่าลืมว่าแนวร่วมนั้นมีอยู่เพียบ อาจเกิดรายการเก็บตกไม่หมด คนที่พาดหวังอาจออกมาตีโพยตีพาย ฟาดงวงฟาดงาใส่ ดีไม่ดีจะสร้างปัญหาปั่นป่วนได้ไม่น้อย
โดนทั้งสังคมจับตา โดนทั้งสังคมคาดหวัง โดนทั้งพวกเดียวกันลุ้นตัวโก่ง การจิ้มให้เหลือ 250 คน จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย แต่ก็หนักหนาสาหัสไม่น้อย
คงทำได้ แต่รอดูว่า คสช.จะมีวิธีการคัดเลือกอย่างไร จะเลือกกันแบบค้านสายตาคนดูหรือไม่
