เกาะกระแส
00 เกือบไปแล้วเชียวสำหรับบทบาทใหม่ในฐานะ นายกรัฐมนตรี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังจาก "พลาด" ด้วยคำพูดของตัวเองเรื่อง "บิกินี" นักท่องเที่ยว เรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว แม้จะรู้ว่าพูดด้วยความปราถนาดี ไม่ต้องการให้เกิดเรื่องเลวร้ายกับใคร เพราะจะกระทบกับบ้านเมืองของเรา ภาพลักษณ์ของประเทศเสียหายกระทบไปหมด แต่ก็อย่างว่าแหละมัน "ไม่ถูกจังหวะ" และเมื่อพิจารณาโดยรวมมันก็เหมือนกับการพูดด้วย"คะนองปาก" จริงๆ โดยเฉพาะคำพูดที่กล่าวพาดพิงถึงเรื่องความสวยหรือไม่สวย ที่ใส่ชุดในลักษณะล่อแหลม ฟังดูแล้วก็ต้องบอกตรงๆว่า "ไม่เหมาะ" ด้วยประการทั้งปวง เพราะสามารถมีวิธีพูดอย่างอื่นได้ และแน่นอนอยู่แล้ว สื่อต่างประเทศนำไปขยายผลโดยเฉพาะสื่อของอังกฤษ ประเทศที่นักท่องเที่ยวมาเสียชีวิตถูกฆาตรกรรมอย่างเหี้ยมโหดในบ้านเราถึงสองคน ยังดีที่ พล.อ.ประยุทธ์ รีบเอ่ยปากขอโทษทันควัน สมกับลูกผู้ชาย ทำให้เรื่องที่ทำท่าบานปลายหยุดอยู่กับที่อย่างรวดเร็ว
00 อย่างไรก็ดี นี่คือ"บทเรียน" อันใหญ่หลวง ที่ถือว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องมาตระหนักอย่างแน่นอน และคราวนี้มันเกี่ยวข้องกับต่างประเทศโดยตรงเป็นครั้งแรก นั่นคือ "ความรู้สึก" ที่สำคัญหากพูดกันตามตรง ถ้าเรื่องแบบนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับต่างประเทศตะวันตก เป็นเรื่องภายในล้วนๆ ขอโทษเถอะ เชื่อว่ายังต้อง "โดน" อีกหลายดอก ดังนั้นด้วยบุคลิกที่ดุๆ แบบทหารบางครั้งมันก็ต้องปรับใหม่กันบ้าง เพราะเมื่อเปลี่ยนสถานะใหม่เป็นนายกฯ ไม่ใช่ผู้นำกองทัพที่สั่งซ้ายหันขวาหันได้ทุกเรื่อง ไม่ใช่อะไร กลัวว่าจะ"สะดุดขา" ล้มเสียก่อนนะซี !!
00 นับจากนี้ไปรัฐบาล "ประยุทธ์1" เริ่มเข้าสู่โหมดความ "ขัดแย้ง" แบบเลี่ยงไม่ได้ และพิสูจน์ในเรื่อง "ความคาดหวัง" จากสังคมได้มากแค่ไหน เพราะนับจากนี้จะต้องเดินเครื่องเต็มตัว ไม่ว่าเรื่องปฏิรูปพลังงาน การปฏิรูประบบภาษี ที่มีรายละเอียดเรื่องภาษีมรดก การปรับภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยในปีหน้ากำหนดเอาไว้แล้วว่า จะเพิ่มจากร้อยละ 7 เป็น "ร้อยละ10" มันจะป่วน และทำได้หรือเปล่า แต่ตัวอย่างที่กล่าวมาแค่นี้ถือว่าเรื่องใหญ่ แต่ถ้าทำได้และผ่านไปได้ก็ต้องยกนิ้วว่า "เจ๋ง" จริง น่าจับตาก็คือ ผลงานของ รมว.คลัง ที่ชื่อ สมหมาย ภาษี แค่นามสกุลก็สะดุดหูเสียแล้วซี
00 ที่ต้องจับตาอีกเรื่องหนึ่งก็คือ การประกาศปรับราคาก๊าซแอลพีจี เอ็นจีวี ภาคขนส่ง รวมไปถึงน้ำมันดีเซล ของ รมว.พลังงานคนใหม่ ณรงค์ชัย อัครเศรณี รวมไปถึงการประกาศว่าจะมีการให้สัมปทานด้านพลังงานรอบใหม่ แต่ละเรื่องถือว่า "อ่อนไหว" ทั้งนั้น เอาแค่เรื่องแรก แค่ประกาศไม่นานบรรดาภาคขนส่ง ผู้ประกอบการรถ เรือโดยสาร ต่างขยับกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะการ "ขอขึ้นราคา" ชนิดที่เรียกว่า"พาเหรด" กันเข้ามาเลยละ แบบนี้แหละเรื่อง"ร้อน" และที่บอกว่าเป็นเรื่องร้อนเพราะว่ามันเชื่อมโยงกับเรื่องปากท้อง ถ้าแก้ไม่ได้หรือล้มเหลวให้เห็นอีกก็ต้องบอกว่า "จบเห่" ก็หวังว่ามากันถูกทางก็แล้วกัน
00 นาทีนี้คงต้องแปลกใจไม่น้อยว่า บรรดาสาวกเครือข่ายทักษิณ ชินวัตร ที่เขย่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้แรงที่สุดกลับเป็น กริชสุดา คุณะแสน "สหายสุดซอย" ไปเสียแล้ว แซงหน้าหัวหน้าขบวนการเสรีไทยฯ จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หรือแม้แต่ จักรภพ เพ็ญแข ขาประจำแบบไม่เห็นฝุ่น แรงชนิดที่เรียกว่า พล.อ.ประยุทธ์ เก็บอารมณ์ไม่อยู่จน "หลุด" ออกมา จนต้องขอโทษตามมาอีกราย อย่างนี้ไม่เรียกว่า "แรงปลาย" ไม่รู้ว่าจะเรียกอย่างไรแล้ว !!
00 เรื่องที่ต้องเกาะติดกันแบบไม่ให้คลาดสายตาว่าในที่สุดแล้วคดี "ชายชุดดำ" จะหยุดอยู่แค่ไหน หลังจากที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ว่าที่ ผบ.ตร. ว่าจะดำเนินคดีแค่ "ครอบครองอาวุธ" ไม่เกี่ยวกับคดีสังหาร พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม คำถามก็คือ มันไม่เกี่ยวกันอย่างไร ทำไมถึงไม่เกี่ยว หรือต้องรอฟัง ดีเอสไอ หน่วยงานที่รับรับผิดชอบคดีดังกล่าวอย่างเดียวหรือเปล่า และที่ต้องติดตามก็คือ การเคลื่อนไหวแบบ "นั่งไม่ติด" ของบรรดาแกนนำเสื้อแดง ทั้ง จตุพร พรหมพันธุ์ เหวง โตจิราการ และ ธิดา ถาวรเศรษฐ ที่บุกไปถาม พล.ต.อ.สมยศ ถึง สตช. ความหมายก็คือ เพื่อยืนยันว่า ตัวเองไม่เกี่ยวกับชายชุดดำ และที่สำคัญต้องการให้เห็นว่า "ชุมนุมโดยสงบ" เพราะถ้าไม่สงบมันก็จะโดนข้อหา"ก่อการร้าย" นะเซ่ โทษมันหนักนะ !!
