เกาะกระแส
00 วันอังคารที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาถือว่ารัฐบาล"ประยุทธ์"ได้ประชุม ครม.อย่างเป็นทางการครั้งแรกที่ทำเนียบฯโดยใช้ตึกสันติไมตรี เป็นที่ประชุม แทนที่จะเป็นตึกบัญชาการชั้น 5 ที่จัดเตรียมเอาไว้ เนื่องจากต้องรอตรวจสอบ "ไมโครโฟน"และอุปกรณ์อื่นๆว่ามีราคาแพงเกินจริงหรือไม่ให้แล้วเสร็จเสียก่อน ก็ถือวิสาสะทำนายเอาไว้ล่วงหน้าไว้เลยว่า "ไม่มีปัญหา"ย่อมต้องมีเหตุผลอธิบายรองรับได้อยู่แล้ว ที่สำคัญมีการลดราคาต่ำกว่าท้องตลาด "ประหยัดงบ"ได้อีกนับสิบล้านบาท ส่วนจะสมเหตุสมผลเรื่องความพอเพียงตามที่ประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่นั่นมันอีกเรื่องหนึ่ง อีกทั้งอุปกรณ์ที่เคยใช้อยู่เดิมมันเสียหรือมันตกรุ่นอย่างไรก็คงไม่มีการพูดถึงกันอีกต่อไป
00 ล่าสุด มณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ที่รับหน้าเป็นแม่งานปรับปรุงทำเนียบฯและอุปกรณ์ภายใน ประกาศลั่นว่าหากผลการสอบสวนของคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ(คตร.) ออกมาว่าไม่โปร่งใสก็จะลาออกทันทีไม่อยู่ให้คนด่า ซึ่งถ้าเป็นนี้ก็เชื่อได้เลยว่าผลจะออกมา"โปร่งใส" ส่วนจะจำเป็นแค่ไหนกับการต้องเปลี่ยนใหม่ เปลี่ยนไมโครโฟนตัวละแสนกว่า เปลี่ยนจอทีวีตัวละเป็นแสนหรือไม่ ไม่ต้องมาถามเพราะ"สั่งเปลี่ยนไปแล้ว" ดังนั้นก็อีกไม่นานทุกอย่างก็จะเงียบเสียงลงไปหายไปกับสายลม แล้วรอดูว่าเมื่อเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ในคราวหน้าจะมีการเปลี่ยนอุปกรณ์ โต๊ะเก้าอี้อีกหรือเปล่า ล่าสุดก็มีคำสั่งให้รื้อ"โคตรไมค์"ตัวละแสนกว่าออกไปแล้วด้วยเหตุผลแบบตัดตอนว่า"กลัวครหาทุจริต" อ้าวแล้วไงต่อละทีนี้ !!
00 น่าสนใจก็คือคำพูดของ อธิบดีกรมโยธาฯที่หลุดออกมาว่า "เมื่อรับคำสั่งให้ทำผมก็ทำเต็มที่จนได้รับคำชมว่าออกมาดี ทำได้เร็ว"ความหมายก็คือ"ใครสั่ง" แล้วตอนนี้"คนสั่งมันหายหัวไปไหน"ทำไมต้องให้อธิบดีกรมโยธาฯต้องรับกรรมคนเดียว ก่อนหน้านี้เห็นมีหลายคนออกมาเดินตรวจตรากันหน้าสลอน วันนั้นยังจำได้อธิบดีกรมโยธาฯนัดสื่อทำเนียบฯจะเข้าไปตรวจตราดูความคืบหน้าแต่ถูก"บางคน"เบรกเอาไว้ เพื่อที่จะนำตรวจเอง ส่วนจะเป็นเจ้าของคำพูดด้วยความภูมิใจว่า"ใช้ระบบป้องกันแบบทำเนียบขาว"หรือเปล่า อย่างที่ มล.ปนัดดา ดิสกุล รมต.สำนักนายกฯเคยพูดหรือเปล่า หรือว่า คนที่รับผิดชอบเป็นแม่งานปรับปรุงสูงสุดตั้งแต่เป็นรองหัวหน้า คสช.ฝ่ายกิจการพิเศษ ดูแลทำเนียบฯอย่าง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่เวลานี้เป็นรมต.พม.ต้องร่วมรับผิดชอบหรือเปล่า มันก็น่าคิดนะ เพราะอธิบดีกรมโยธาฯย้ำมาแล้วว่า"ทำตามคำสั่ง"แต่ปัญหาก็คือ"ใครสั่ง"ละ !!
00 ดิ้นเป็นใส้เดือนถูกขี้เถ้าหลังจากมีการจับกุม"ชายชุดดำ"และกำลังทำท่าขยายผลออกไปอีก และล่าสุดก็ให้จับตาชื่อของ "พล.ท.มนัส เปาริก"อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 3 เพื่อนร่วมรุ่น ตท.10 ของ "นายใหญ่"ทักษิณ ชินวัตร เอาไว้ให้ดีหลังจากก่อนหน้านี้ถูกดำเนินคดีในข้อหาครอบครองอาวุธที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ โดยถูกศาลทหารออกหมายจับไปเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตอนนี้อยู่ระหว่างดำเนินคดี และคนนี้แหละน่าจะเป็น"จิ๊กซอร์"สำคัญ และมองตามรูปการณ์แล้วเชื่อว่าฝ่ายความมั่นคงของ รัฐบาลและ คสช.คงมีข้อมูลอยู่ในมือ เพียงแต่ว่าจะ"แบออกมาแบบไหน"เท่านั้น
00 สำหรับ ทักษิณ ชินวัตร นี่ก็เริ่มเคลื่อนไหวให้คนเสื้อแดงได้ติดตามอีกแล้ว ทำนองว่ายังอยู่ไม่ได้หายไปไหน ประเภทที่ว่า"ถ้าคิดถึงให้ดูภาพถ่ายไปก่อน"ล่าสุดไปโผล่ที่ปักกิ่งประเทศจีน โชว์ตีกอล์ฟเดินห้างกับลูกสาวคนเล็กสบายใจเฉิบ อย่างน้อยช่วงนี้เป็นช่วง"ปรองดอง"กับ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คงไม่มีใครล้ำเส้นมากไปกว่านี้ เท่ากับว่าให้ "รอดูไปก่อน" แต่ได้จังหวะค่อยออกมาตอดเล็กตอดน้อยตามจังหวะ !!
