รมต.สำนักนายกฯ พร้อมอธิบดีกรมโยธาฯ นำสื่อตรวจทำเนียบ เผยภูมิใจ กรมศิลปากรดูแล ทำตามกรอบ กม.โบราณสถาน ยกไทยคู่ฟ้าสวยเหมาะรับแขก ยันเสร็จทัน ครม.ประชุม วางเครื่องเสียงใหม่ยกชุด ใช้ระบบกันแฮกเกอร์แบบเดียวกับ “โอบามา” ติดวงจรปิด ห้องนายกฯ จัดวางใหม่หมด คงโต๊ะทำงานเดิม เชื่อ “อดุลย์” ตรวจงานครั้งสุดท้ายจะพอใจ
วันนี้ (4 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกฯ พร้อมด้วยนายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง พาคณะสื่อมวลชนเดินตรวจเยี่ยมการดำเนินการปรับปรุงตึกบัญชาการ 1-2 โดย ม.ล.ปนัดดาให้สัมภาษณว่า เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจว่าอาคารทั้งหมดในพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่ตึกสันติไมตรีทั้งหลังในและหลังนอก ตึกไทยคู่ฟ้าครอบคลุมถึงตึกนารีสโมสรซึ่งเป็นโบราณสถาน โดยกรมศิลปากรเป็นหน่วยงานควบคุมดูแล ที่ไม่ใช่เป็นการซ่อมแซมตามอำเภอใจ แต่ดำเนินการอยู่ในกรอบของกฎหมายโบราณสถาน
ทั้งนี้ ตนเข้าไปตรวจดูตึกไทยคู่ฟ้าซึ่งเกิดความเรียบร้อยงดงามมีความเหมาะสมที่จะเป็นสถานที่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง และเป็นที่ทำงานของหัวหน้ารัฐบาล รวมถึงเป็นมรดกเเผ่นดินสืบไปให้แก่ลูกหลานไทย ขณะที่ตึกบัญชาการ 1-2 นั้น อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง และบุคลากได้ทุ่มเทความสามารถเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยบริบูรณ์ พร้อมรองรับการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 9 ก.ย.ซึ่งตนยืนยันว่าห้องประชุมมีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ โดยขณะนี้เหลือเพียงขั้นตอนการเก็บงาน ทำความสะอาดเรียบร้อย และกำจัดกลิ่นจากการทาสีอาคาร ทั้งนี้ ในส่วนของตึกบัญชาการ 2 ต้องใช้ระยะเวลาในการปรับปรุงนาน เนื่องจากมีความเก่าผุพัง ปลวกแทะและเสียหายมาก คาดว่าจะเสร็จหลังสุดประมาณกลางเดือน ก.ย.
โดยห้องประชุมคณะรัฐมนตรี ชั้น 5 ที่มีการวางระบบเครื่องเสียงใหม่ทั้งระบบ มีการติดตั้งจอแอลซีดี 12 ตัว ระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ รวมถึงไมค์ยี่ห้อ “BOSCH” ที่มีจอแอลซีดีขนาดเล็กติดตั้งอยู่ด้วย ราคาตัวละ 145,000 บาท ติดตั้งทั้งหมด 89 ตัว นอกจากนี้ยังมีระบบป้องกันระบบการแฮกเกอร์ซึ่งเป็นระบบเดียวกับที่นายบารัค โอบามา ประธานธิบดีสหรัฐอเมริกาใช้ประชุมในทำเนียบขาว และยังมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในห้องอีก 2 จุดด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับห้องประชุม ครม.นี้ได้ล้อมรอบไปด้วยกระจกที่สามารถมองเห็นบริเวณโดยรอบ โดยเฉพาะตึกไทยคู่ฟ้า ขณะที่ห้องประชุมย่อยอีก 2 ห้องคือ ห้องประชุม 301 และ 302 ขณะนี้มีความพร้อมแล้วเช่นกัน รวมงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมทั้ง 3 ห้องในครั้งนี้ใช้ไปทั้งสิ้นจำนวน 69 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับห้องของนายกรัฐมนตรีที่ตึกไทยคู่ฟ้าพบว่า ยังใช้โต๊ะตัวเดิมที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเคยใช้ แต่ได้มีการเปลี่ยนเก้าอี้ตัวใหม่ แต่ยังคงใช้แบบเดิม ขณะที่ภายในห้องได้มีการจัดวางโต๊ะนายกฯ ใหม่จากเดิมที่สมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ตั้งโต๊ะทำงานไว้ติดผนังห้อง แต่ครั้งนี้ได้มีการขยืบออกมาบริเวณกลางห้อง รวมทั้งจากเดิมที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้หันหน้าไปทางทิศเหนือ แต่ได้เปลี่ยนมาหันหน้าไปทางทิศตะวันออกแทน ที่มุมขวาห้องจะมีโต๊ะหมู่บูชา โดยล่าสุดได้มีการขนย้ายโต๊ะหมู่บูชาเข้ามาภายในห้องอีกชุดหนึ่งด้วย
เมื่อถามว่า การติดตามเก็บงานจะเรียบร้อยหรือไม่ ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า เรื่องนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ ในฐานะรองหัวหน้าคสช.ฝ่ายกิจการพิเศษ ได้ตั้งทีมงานคอยติดตามดูทุกกระบวนทัศน์ว่าการทำงานในแต่ละส่วนมีความประณีตเรียบร้อยเพียงใด เนื่องจากเป็นเงินจากภาษีอากรประชาชน และเป็นโบราณสถาน การซ่อมแซมบำรุงรักษาจึงจำเป็นต้องอนุรักษ์ไว้ โดยตนเชื่อมั่นว่าผู้บริหารทุกท่านโดยเฉพาะ พล.ต.อ.อดุลย์ เมื่อมาตรวจงานครั้งสุดท้ายจะพึงพอใจ