"ประยุทธ์" นำครม.ชุดใหม่เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้ารับตำแหน่ง เผยฤกษ์เข้าทำงานที่ทำเนียบฯ 9 ก.ย. "วิษณุ" เผยประชุมครม.นัดแรก 9 ก.ย. หารือเรื่องการแถลงนโยบายต่อสนช. ส่วนเรื่องยกเลิกใช้กฎอัยการศึกอยู่ระหว่างการพิจารณาของฝ่ายความมั่นคง ขณะที่ห้องประชุมครม.ได้รับการปรับปรุงใหม่ สุดไฮเทค พร้อมใช้งาน
เมื่อวานนี้ (4ก.ย.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชวโรกาส ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี(ครม.) ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายสัตย์ปฏิญาณตน ก่อนเข้ารับหน้าที่ ซึ่งเป็นครม.ชุดที่ 61
เวลา16.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินทางถึงทำเนียบรัฐบาลด้วยชุดขาวเป็นคนแรก โดยมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมกับทักทายสื่อมวลชน โดยพล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมาถ่ายรูปติดบัตรประจำตัว ที่ตึกสันติไมตรี หลังนอก พร้อมด้วย พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และรัฐมนตรีคนอื่นๆ ทยอยเดินทางมาเข้ามาถ่ายรูปอย่างต่อเนื่องขณะที่บรรยากาศบริเวณโดยรอบ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล และทหาร กระจายกำลังรักษาความปลอดภัยอยู่เต็มพื้นที่
ต่อมาเวลา17.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ ได้นำคณะรัฐมนตรี เดินทางไปยังโรงพยาบาลศิริราช เพื่อเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้ารับตำแหน่ง
ต่อมา 18.40 น. ภายหลังเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณตน พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะรัฐมนตรี ได้เดินทางกลับมายังทำเนียบรัฐบาล และได้ร่วมถ่ายภาพหมู่ที่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ซึ่งขาดเพียง ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียว ซึ่งเดินทางกลับมาไม่ทัน
**ถือฏกษ์ 9 ก.ย.เริ่มต้นทำงาน
หลังถ่ายภาพรวมแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ได้ลุกขึ้นยกมือไหว้ขอบคุณคณะรัฐมนตรีทุกคน พร้อมกล่าวว่า ขอให้ประสบความสำเร็จ จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินออกจากแถว เพื่อขึ้นรถประจำตำแหน่ง และเดินทางกลับทันที โดยระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวถามว่า จะแถลงนโยบายต่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันที่ 9 ก.ย.
เมื่อถามว่าวันเดียวกับที่จะประชุม ครม.เลยหรือ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบ เพียงหันมาพยักหน้า ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า จะเข้าทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลวันใด พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันที่ 9 ก.ย. จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ และรมต.คนอื่นๆ แยกย้ายเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล
ขณะที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ไม่ได้ทรงมีพระแสพระราชดำรัสใดเป็นพิเศษ
ส่วนการแถลงนโยบายต่อสนช. ของรัฐบาลก่อนเข้าบริหารราชการแผ่นดินนั้น นายวิษณุ เปิดเผยว่าพล.อ.ประยุทธ์ ได้นัดประชุมครม.ในวันที่ 9 ก.ย. เพื่อจะพูดคุยเรื่องการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งในวันดังกล่าว คงตกลงกันว่าใครที่รับผิดชอบเรื่องร่างนโยบาย ได้ทำไปถึงไหนแล้ว และรัฐมนตรีคนใด มีส่วนที่จะเพิ่มเติมในส่วนงานของตนเองหรือไม่ โดยจะหารือกันว่าจะใช้เวลาพิมพ์เท่าไร และจะส่งให้สนช.ล่วงหน้ากี่วัน จากนั้นจึงจะกำหนดได้ว่า จะแถลงนโยบายต่อสนช.เมื่อใด แต่ยืนยันว่า จะแถลงนโยบายต่อสนช.แน่
สำหรับการประชุม ครม.ประจำสัปดาห์ มีแนวโน้มที่จะประชุมทุกวันอังคาร เนื่องจากสนช.ประชุมวันพฤหัสบดี และวันศุกร์ จึงเหลือแค่ วันจันทร์ อังคาร และพุธ โดยวันอังคารนั้นเหมาะสม เพราะว่า ถ้าประชุมวันพุธ จะกระชั้นกับการประชุมสนช. ส่วนวันจันทร์ รัฐมนตรีบางคนอาจยังไม่กลับจากต่างจังหวัด ด้วยเหตุนี้ ที่ผ่านมาจึงมักกำหนดเป็นวันอังคาร
นายวิษณุ ยังกล่าวได้ถึงการพิจารณากฎหมายต่างๆ หลังจากรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ ว่า ในส่วนของ ร่าง พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ จะมีการหยิบยกมาพิจารณา ซึ่งขณะนี้ ได้มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พิจารณาอยู่เป็นเดือนแล้ว คงจะต้องนำกลับมาให้รัฐบาลกลั่นกรองอีกครั้ง ส่วนการยกเลิกกฎอัยการศึก เป็นหน้าที่ของทางกองทัพที่จะพิจารณา ซึ่งหากยกเลิก คงจะเสนอเข้ามายังที่ประชุมครม.ให้ความเห็นชอบต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้มีความประสงค์ที่จะเข้าทำงานที่ บก.ทบ. เป็นหลัก จนกว่าเกษียณอายุราชการในตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) วันที่ 30 ก.ย.นี้ หลังจากนั้นจึงจะเข้ามาใช้ห้องทำงาน นายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลแบบเต็มเวลา ส่วนการแถลงนโยบายต่อ สนช.นั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวย้ำภายหลังจากที่ได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีแล้วว่า จะต้องให้มีการแถลงนโยบายต่อ สนช.ให้เรียบร้อยก่อน จึงจะเริ่มบริหารประเทศในกรอบของรัฐบาล โดยระหว่างที่ยังไม่มีการแถลงนโยบายต่อ สนช.จะยังคงใช้กรอบการบริหารประเทศของคสช.ไปพลางก่อน
**ห้องประชุมครม.สุดไฮเทค
เมื่อเวลา 15.00 น.วานนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาและผังเมือง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสถานที่ทำเนียบฯ ตรวจความเรียบร้อย การดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซม ตึกบัญชาการ 1 โดยเฉพาะห้องประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชั้น 5 ที่มีการวางระบบเครื่องเสียงใหม่ทั้งระบบ มีการติดตั้งจอแอลซีดี 12 ตัว ระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ รวมถึงไมค์ยี่ห้อ “BOSCH”ที่มีจอแอลซีดีขนาดเล็ก ติดตั้งอยู่ด้วย ราคาตัวละ 145,000 บาท ติดตั้งทั้งหมด 89 ตัว นอกจากนี้ ยังมีระบบป้องกันระบบการแฮกเกอร์ ซึ่งเป็นระบบเดียวกับที่ นายบารัก โอบามา ประธานธิบดีสหรัฐอเมริกา ใช้ประชุมในทำเนียบขาว และยังมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในห้องอีก 2 จุด ด้วย
ทั้งนี้ ห้องประชุมครม.ที่มีการปรับปรุงครั้งนี้ ได้ใช้กระจกล้อมรอบ สามารถมองเห็นบริเวณโดยรอบ โดยเฉพาะตึกไทยคู่ฟ้า ขณะที่ห้องประชุมย่อยอีก 2 ห้อง คือ ห้องประชุม 301 และ 302 ก็มีความพร้อมแล้วเช่นกัน รวมงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมทั้ง 3 ห้องในครั้งนี้ใช้ ไปทั้งสิ้นจำนวน 69 ล้านบาท โดย ม.ล.ปนัดดา กล่าวยืนยันว่า ห้องประชุมครม. พร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ ที่จะใช้ประชุมครม. ในวันอังคารที่ 9 ก.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับห้องของนายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า พบว่ายังใช้โต๊ะตัวเดิม ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเคยใช้ เพียงแต่มีการเปลี่ยนเก้าอี้ตัวใหม่ ซึ่งยังคงใช้แบบเดิม ขณะที่ภายในห้อง ได้มีการจัดวางโต๊ะนายกฯใหม่ จากเดิมที่สมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ตั้งโต๊ะทำงานไว้ติดผนังห้อง แต่ครั้งนี้ได้มีการขยับออกมาบริเวณกลางห้อง รวมทั้งจากเดิมที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้หันหน้าไปทางทิศเหนือ แต่ได้เปลี่ยนมาหันหน้าไปทางทิศตะวันออกแทน ซึ่งที่มุมขวาของห้องจะมีโต๊ะหมู่บูชา
เมื่อวานนี้ (4ก.ย.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชวโรกาส ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี(ครม.) ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายสัตย์ปฏิญาณตน ก่อนเข้ารับหน้าที่ ซึ่งเป็นครม.ชุดที่ 61
เวลา16.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินทางถึงทำเนียบรัฐบาลด้วยชุดขาวเป็นคนแรก โดยมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมกับทักทายสื่อมวลชน โดยพล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมาถ่ายรูปติดบัตรประจำตัว ที่ตึกสันติไมตรี หลังนอก พร้อมด้วย พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และรัฐมนตรีคนอื่นๆ ทยอยเดินทางมาเข้ามาถ่ายรูปอย่างต่อเนื่องขณะที่บรรยากาศบริเวณโดยรอบ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล และทหาร กระจายกำลังรักษาความปลอดภัยอยู่เต็มพื้นที่
ต่อมาเวลา17.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ ได้นำคณะรัฐมนตรี เดินทางไปยังโรงพยาบาลศิริราช เพื่อเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้ารับตำแหน่ง
ต่อมา 18.40 น. ภายหลังเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณตน พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะรัฐมนตรี ได้เดินทางกลับมายังทำเนียบรัฐบาล และได้ร่วมถ่ายภาพหมู่ที่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ซึ่งขาดเพียง ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียว ซึ่งเดินทางกลับมาไม่ทัน
**ถือฏกษ์ 9 ก.ย.เริ่มต้นทำงาน
หลังถ่ายภาพรวมแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ได้ลุกขึ้นยกมือไหว้ขอบคุณคณะรัฐมนตรีทุกคน พร้อมกล่าวว่า ขอให้ประสบความสำเร็จ จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินออกจากแถว เพื่อขึ้นรถประจำตำแหน่ง และเดินทางกลับทันที โดยระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวถามว่า จะแถลงนโยบายต่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันที่ 9 ก.ย.
เมื่อถามว่าวันเดียวกับที่จะประชุม ครม.เลยหรือ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบ เพียงหันมาพยักหน้า ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า จะเข้าทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลวันใด พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันที่ 9 ก.ย. จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ และรมต.คนอื่นๆ แยกย้ายเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล
ขณะที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ไม่ได้ทรงมีพระแสพระราชดำรัสใดเป็นพิเศษ
ส่วนการแถลงนโยบายต่อสนช. ของรัฐบาลก่อนเข้าบริหารราชการแผ่นดินนั้น นายวิษณุ เปิดเผยว่าพล.อ.ประยุทธ์ ได้นัดประชุมครม.ในวันที่ 9 ก.ย. เพื่อจะพูดคุยเรื่องการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งในวันดังกล่าว คงตกลงกันว่าใครที่รับผิดชอบเรื่องร่างนโยบาย ได้ทำไปถึงไหนแล้ว และรัฐมนตรีคนใด มีส่วนที่จะเพิ่มเติมในส่วนงานของตนเองหรือไม่ โดยจะหารือกันว่าจะใช้เวลาพิมพ์เท่าไร และจะส่งให้สนช.ล่วงหน้ากี่วัน จากนั้นจึงจะกำหนดได้ว่า จะแถลงนโยบายต่อสนช.เมื่อใด แต่ยืนยันว่า จะแถลงนโยบายต่อสนช.แน่
สำหรับการประชุม ครม.ประจำสัปดาห์ มีแนวโน้มที่จะประชุมทุกวันอังคาร เนื่องจากสนช.ประชุมวันพฤหัสบดี และวันศุกร์ จึงเหลือแค่ วันจันทร์ อังคาร และพุธ โดยวันอังคารนั้นเหมาะสม เพราะว่า ถ้าประชุมวันพุธ จะกระชั้นกับการประชุมสนช. ส่วนวันจันทร์ รัฐมนตรีบางคนอาจยังไม่กลับจากต่างจังหวัด ด้วยเหตุนี้ ที่ผ่านมาจึงมักกำหนดเป็นวันอังคาร
นายวิษณุ ยังกล่าวได้ถึงการพิจารณากฎหมายต่างๆ หลังจากรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ ว่า ในส่วนของ ร่าง พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ จะมีการหยิบยกมาพิจารณา ซึ่งขณะนี้ ได้มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พิจารณาอยู่เป็นเดือนแล้ว คงจะต้องนำกลับมาให้รัฐบาลกลั่นกรองอีกครั้ง ส่วนการยกเลิกกฎอัยการศึก เป็นหน้าที่ของทางกองทัพที่จะพิจารณา ซึ่งหากยกเลิก คงจะเสนอเข้ามายังที่ประชุมครม.ให้ความเห็นชอบต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้มีความประสงค์ที่จะเข้าทำงานที่ บก.ทบ. เป็นหลัก จนกว่าเกษียณอายุราชการในตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) วันที่ 30 ก.ย.นี้ หลังจากนั้นจึงจะเข้ามาใช้ห้องทำงาน นายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลแบบเต็มเวลา ส่วนการแถลงนโยบายต่อ สนช.นั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวย้ำภายหลังจากที่ได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีแล้วว่า จะต้องให้มีการแถลงนโยบายต่อ สนช.ให้เรียบร้อยก่อน จึงจะเริ่มบริหารประเทศในกรอบของรัฐบาล โดยระหว่างที่ยังไม่มีการแถลงนโยบายต่อ สนช.จะยังคงใช้กรอบการบริหารประเทศของคสช.ไปพลางก่อน
**ห้องประชุมครม.สุดไฮเทค
เมื่อเวลา 15.00 น.วานนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาและผังเมือง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสถานที่ทำเนียบฯ ตรวจความเรียบร้อย การดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซม ตึกบัญชาการ 1 โดยเฉพาะห้องประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชั้น 5 ที่มีการวางระบบเครื่องเสียงใหม่ทั้งระบบ มีการติดตั้งจอแอลซีดี 12 ตัว ระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ รวมถึงไมค์ยี่ห้อ “BOSCH”ที่มีจอแอลซีดีขนาดเล็ก ติดตั้งอยู่ด้วย ราคาตัวละ 145,000 บาท ติดตั้งทั้งหมด 89 ตัว นอกจากนี้ ยังมีระบบป้องกันระบบการแฮกเกอร์ ซึ่งเป็นระบบเดียวกับที่ นายบารัก โอบามา ประธานธิบดีสหรัฐอเมริกา ใช้ประชุมในทำเนียบขาว และยังมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในห้องอีก 2 จุด ด้วย
ทั้งนี้ ห้องประชุมครม.ที่มีการปรับปรุงครั้งนี้ ได้ใช้กระจกล้อมรอบ สามารถมองเห็นบริเวณโดยรอบ โดยเฉพาะตึกไทยคู่ฟ้า ขณะที่ห้องประชุมย่อยอีก 2 ห้อง คือ ห้องประชุม 301 และ 302 ก็มีความพร้อมแล้วเช่นกัน รวมงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมทั้ง 3 ห้องในครั้งนี้ใช้ ไปทั้งสิ้นจำนวน 69 ล้านบาท โดย ม.ล.ปนัดดา กล่าวยืนยันว่า ห้องประชุมครม. พร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ ที่จะใช้ประชุมครม. ในวันอังคารที่ 9 ก.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับห้องของนายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า พบว่ายังใช้โต๊ะตัวเดิม ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเคยใช้ เพียงแต่มีการเปลี่ยนเก้าอี้ตัวใหม่ ซึ่งยังคงใช้แบบเดิม ขณะที่ภายในห้อง ได้มีการจัดวางโต๊ะนายกฯใหม่ จากเดิมที่สมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ตั้งโต๊ะทำงานไว้ติดผนังห้อง แต่ครั้งนี้ได้มีการขยับออกมาบริเวณกลางห้อง รวมทั้งจากเดิมที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้หันหน้าไปทางทิศเหนือ แต่ได้เปลี่ยนมาหันหน้าไปทางทิศตะวันออกแทน ซึ่งที่มุมขวาของห้องจะมีโต๊ะหมู่บูชา