“วิษณุ” เผย “ในหลวง” ไม่มีกระแสพระราชดำรัสพิเศษแก่ “ครม.ประยุทธ์”

รองนายกฯ เผย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ได้ทรงมีกระแสพระราชดำรัสใดเป็นพิเศษ หลัง “ประยุทธ์” นำ ครม. เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณที่ศิริราช เผยประชุม ครม. ทุกวันอังคาร โยนกองทัพพิจารณายกเลิกอัยการศึก อีกด้านมีรายงาน นายกฯ ทำงานที่ บก.ทบ. จนกว่าจะเกษียณ ก่อนเข้าทำเนียบฯ เต็มเวลา ใช้กรอบบริหารประเทศ คสช. ไปพลางจนกว่าแถลงนโยบายเสร็จ

วันนี้ (4 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้นำคณะรัฐมนตรี (ครม.) เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณ ก่อนเข้ารับตำแหน่ง ณ โรงพยาบาลศิริราช ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ได้ทรงมีกระแสพระราชดำรัสใดเป็นพิเศษ

ส่วนการแถลงนโยบายต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ของรัฐบาลก่อนเข้าบริหารราชการแผ่นดินนั้น นายวิษณุ เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้นัดประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 9 ก.ย. เพื่อจะพูดคุยเรื่องการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งในวันดังกล่าวคงตกลงกันว่า ใครที่รับผิดชอบเรื่องร่างนโยบายได้ทำไปถึงไหนแล้ว และรัฐมนตรีคนใดมีส่วนที่จะเพิ่มเติมในส่วนงานของตนเองหรือไม่ โดยจะหารือกันว่า จะใช้เวลาพิมพ์เท่าไร และจะส่งให้ สนช. ล่วงหน้ากี่วัน จากนั้นจึงจะกำหนดได้ว่า จะแถลงนโยบายต่อ สนช. เมื่อใด แต่ยืนยันว่า จะแถลงนโยบายต่อ สนช. แน่ ไม่ต้องตกใจว่า จะไม่แถลง

นายวิษณุ กล่าวด้วยว่า สำหรับการประชุม ครม. ประจำสัปดาห์มีแนวโน้มที่จะประชุมทุกวันอังคาร เนื่องจาก สนช. ประชุมวันพฤหัสบดี และ วันศุกร์ จึงเหลือแค่วันจันทร์ อังคาร และ พุธ โดยวันอังคารนั้นเหมาะสม เพราะว่าถ้าประชุมวันพุธนั้นจะกระชั้นกับการประชุม สนช. ส่วนวันจันทร์รัฐมนตรีบางคนอาจยังไม่กลับจากต่างจังหวัด ด้วยเหตุนี้ที่ผ่านมาจึงมักกำหนดเป็นวันอังคาร

นายวิษณุ ยังได้กล่าวถึงการพิจารณากฎหมายต่างๆ หลังจากรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศว่า ในส่วนของร่าง พ.ร.บ. ชุมนุมสาธารณะฯ จะมีการหยิบยกมาพิจารณา ซึ่งขณะนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พิจารณาอยู่เป็นเดือนแล้ว ซึ่งคงจะต้องนำกลับมาให้รัฐบาลกลั่นกรองอีกครั้ง ส่วนการยกเลิกกฎอัยการศึกนั้นเป็นหน้าที่ของทางกองทัพที่จะพิจารณา ซึ่งหากยกเลิกคงจะเสนอเข้ามายังที่ประชุม ครม. ให้ความเห็นชอบต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้มีความประสงค์ที่จะเข้าทำงานที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) เป็นหลัก จนกว่าเกษียณอายุราชการในตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) วันที่ 30 ก.ย. นี้ หลังจากนั้น จึงจะเข้ามาจะมาใช้ห้องทำงานนายกรัฐมนตรีที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล แบบเต็มเวลา

ส่วนการแถลงนโยบายต่อ สนช. นั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวย้ำภายหลังจากที่ได้รับโปรดเกล้าเป็นนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีแล้วว่า จะต้องให้มีการแถลงนโยบายต่อ สนช. ให้เรียบร้อยก่อนจึงจะเริ่มบริหารประเทศในกรอบของรัฐบาล โดยระหว่างที่ยังไม่มีการแถลงนโยบายต่อ สนช. จะยังคงใช้กรอบการบริหารประเทศของ คสช. ไปพลางก่อน