xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” โต้ถูกใส่ร้ายมีเงินหมื่น ล. ย้อนถ้ารวยจริงจะใช้หนี้ให้คนไทย ลั่นฟันทุจริตทำตาม กม.อย่ากดดัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นายกรัฐมนตรี โต้โซเชียลเน็ตเวิร์กใส่ร้ายมีเงิน 2 หมื่นล้าน ย้อนถ้ารวยขนาดนั้นจะเอาเงินมาใช้หนี้ให้คนไทย - สร้างประโยชน์ให้แผ่นดิน ยันปราบทุจริตเป็นเรื่องเร่งด่วน แต่ต้องตรวจสอบระมัดระวัง ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ลั่นใช้กฎหมายเป็นตัวตัดสินอย่าใช้อารมณ์ วอนอย่ากดดัน ไม่เช่นนั้นคนทำงานจะไม่เป็นอิสระ อาจตัดสินใจผิดพลาด



วันนี้ (12 ก.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ครั้งที่ 13 ตอนหนึ่งว่า วันนี้ น่ายินดีว่า เมื่อช่วงเช้ารัฐบาลได้แถลงนโยบายให้กับสภานิติบัญญัติแห่งชาติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็หมายความว่า รัฐบาล โดย ครม. รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้สมบูรณ์ ในเรื่องของทั้งการสั่งการ การลงนามเอกสาร การขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติ ตนในฐานะนายกรัฐมนตรี ก็มีความสบายใจที่ได้ปฏิบัติงานตามกฎระเบียบ และจารีตประเพณี จากนี้พวกเราคณะรัฐมนตรีและประชาชนจะได้ร่วมมือกันในการขับเคลื่อนประเทศชาติเพื่อความสุขของคนในชาติ

สำหรับนโยบายรัฐบาลฉบับนี้ร่างขึ้นมาโดยใช้เงื่อนไขสำคัญ ก็คือ การสานต่อการปฏิบัติงานของ คสช. ซึ่งได้ดำเนินงานมาในภาวะบ้านเมืองไม่ปกติ มีความเดือดร้อนของประชาชนมากมาย ซึ่งมีทั้งได้แก้ไขแล้ว และยังไม่ได้แก้ไข บางอย่างแก้ไขได้เป็นการเฉพาะหน้า ชั่วคราวยังไม่เกิดความยั่งยืน คงต้องอาศัยเวลาซักระยะหนึ่ง

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ช่วงต่อไปนี้เป็นระยะที่ 2 ของโรดแมป ซึ่งมีความสำคัญต่อประเทศชาติเป็นอย่างยิ่ง อันจะทำให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนตลอดไป รัฐบาลในวันนี้นั้นอยากจะเรียนอีกครั้งหนึ่งว่า ต่างจากรัฐบาลในอดีตก็คือมีหน้าที่ถึง 3 ประการด้วยกัน นอกจากการบริหารราชการแผ่นดินแล้ว ยังมีหน้าที่ในการปฏิรูป และสร้างสภาวะความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ด้วยการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ควบคู่ไปด้วย เรารู้ดีว่า เป็นงานที่ยาก มีทั้งวิกฤตและโอกาส แต่เราจะใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดในการที่จะถือเอาวิกฤตเหล่านั้น หรือปัญหาทุกอย่างเหล่านั้นให้เป็นโอกาส ซึ่งนับว่าเป็นความท้าทายของพวกเราทุกคนที่ต้องทำให้ได้ ด้วยระยะเวลาที่จำกัด

เราจะไม่เป็นรัฐบาลที่อยู่ไปวันๆ เพื่อรอการปฏิรูป หรือรอการเลือกตั้ง เราจะพยายามทำงานในลักษณะที่ทำก่อน ทำจริง ทำทันที ให้มีผลสัมฤทธิ์ และเพื่อให้เกิดความยั่งยืนต่อไปในอนาคต คำว่าอนาคตนั้นไม่ได้หมายความว่า แค่ปีต่อไปหรือรัฐบาลต่อไป แต่ต้องเป็นการปูรากฐานของประเทศให้เข้มแข็ง ไม่ล่มสลายลงอีกเป็นอันขาด รัฐบาล หรือ คสช. ทำฝ่ายเดียวไม่มีทางสำเร็จ อยากให้คนไทยทุกคนคิดถึงเรื่องนี้ให้มากแม้กระทั่งผู้ที่เห็นต่างก็ต้องมาดูว่าเราจะอยู่ร่วมกันอย่างไรต่อไปโดยไม่ขัดแย้งกัน ไม่ก่อความรุนแรง หรือจะเอาชนะกันต่อไปอีก ใครผิดถูกให้กฎหมาย - กระบวนการยุติธรรมทำหน้าที่

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้เริ่มมีการต่อต้านกัน ทั้งทางเปิดเผยและทางลับ ทั้งในประเทศและต่างประเทศมากขึ้นตามลำดับ มีการกล่าวให้ร้ายกันทางโซเชียลมีเดีย ตนอยากขอร้องให้ช่วยกันลืมตาให้กว้าง ไตร่ตรอง ใคร่ครวญ ว่าแต่ละคนมีหน้าที่อย่างไร ต้องทำอย่างไร เพื่อร่วมกันทำให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปให้ได้ หากทุกคนจะรออย่างเดียวว่าเมื่อไรจะยกเลิกกฎอัยการศึก เลิกกฎหมายพิเศษ เพื่อจะได้เคลื่อนไหวต่อไป ตนคิดว่าปฏิรูปไม่ได้แน่นอน

เราเข้าใจดีถึงปัญหา ซึ่งก็พยายามจะทำให้ดีที่สุด ถ้าท่านอยากให้เราดำเนินการต่อไปได้ด้วยดี ท่านก็ต้องหยุดการเคลื่อนไหวในลักษณะที่เป็นการต่อต้าน หรือเป็นการแสดงความคิดเห็นในลักษณะที่สร้างความขัดแย้ง ถ้าติเพื่อก่อ หรือว่าติดตาม ดูแล กำกับ เสนอแนะที่จำเป็น ที่สำคัญ ตนรับได้ทุกเรื่อง แต่อย่าทำให้เกิดข้อขัดแย้ง หรือเอาปัญหาเก่าๆ มาพูดกันใหม่อีก เรื่องเดิมๆ ก็ต้องแก้กันด้วยกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมไป

“ผมยกตัวอย่างง่ายๆ กรณีผมเองก็มีการถูกบิดเบือนในโซเชียลเน็ตเวิร์ก มีปลอมเอกสารหัวท้าย มีลายเซ็นผมเอง ข้อความภายใน ท่านก็คิดเอาเองว่าจริงหรือไม่จริง วันนี้ธนาคารมาชี้แจงแล้วว่าผมไม่เคยมีบัญชีเงินฝากเหล่านั้น มีการสั่งการให้ผมปกปิดเงินผม น้องชายผมสองหมื่นกว่าล้าน ผมคงไม่บ้าไปเป็นอย่างนั้น ทำอย่างนั้นคงไม่ใช่ ถ้าเรามีเงินขนาดนั้นจริงก็ดี ผมจะได้เอาเงินมาใช้หนี้ให้พ่อแม่พี่น้อง หรือสร้างอะไรให้มันเป็นประโยชน์เป็นประวัติศาสตร์ให้กับแผ่นดินนี้บ้าง ให้สมกับที่เราเกิดมาบนแผ่นดินนี้ ใครรวยก็ต้องทำแบบนั้น เผอิญผมยังไม่รวยขนาดนั้น” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่ออีกว่า การเขียนข้อความเท็จโจมตี คสช. และตน หรือเจ้าหน้าที่อะไรก็ตาม วันก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมไว้ได้ ก็สอบถามว่า ทำไมถึงโพสต์ข้อความอย่างนั้น เขาตอบว่าสนุกดี ทำแล้วสนุก ตนก็สงสัยว่าทำไมประเทศมีคนเหล่านี้อยู่เป็นจำนวนมาก โพสต์ข้อความอะไรออกมาแล้วรู้สึกว่าเป็นพระเอกเป็นฮีโร่ เข้าใจว่าอาจจะป่วยทางจิต เพราะฉะนั้นอย่าไปช่วยกันโพสต์ต่อ ถ้าสงสัยอะไรก็สอบถามมาที่ คสช. หรือรัฐบาล แม้กระทั่งส่งข้อความมาถามตนก็ได้ พอถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการทางกฎหมายก็อ้างว่า ถูกทำร้าย อย่างบางคนก็ไปเคลื่อนไหวที่ต่างประเทศ จะไปร้องเรียนที่โน้นที่นี่ก็ถ้าหากท่านคิดว่าท่านถูกไม่ได้ผิดอะไร กลับมาสิ แล้วจะส่งใครก็ได้ที่ท่านไว้วางใจไปดูแล แล้วก็ต่อสู้กันในศาล ให้กระบวนการยุติธรรมตัดสิน น่าจะดีกว่า อย่าไปพูดกันในทางลับ ในต่างประเทศ หรือประชุม สร้างความวุ่นวายอะไรต่างๆ อย่าเอาอะไรที่มันไม่ถูกต้องไปเล่าให้ต่างชาติฟัง น่าอับอายเขานะ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาได้ไปร่วมงานขององค์กรเอกชนในการป้องกนและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติ หลายคนบอกว่า มันจะเป็นได้ไหม ที่ผ่านมาทุกรัฐบาลก็เป็นอย่างนี้ อย่างนั้น ตนว่าถ้าเราช่วยกันมันทำได้ รัฐบาลยังถือว่าการปราบทุจริตเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องแก้ไขให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว ทั้งเร่งด่วนระยะสั้น ระยะกลาง และยั่งยืน แต่ทั้งนี้ ต้องใช้ความระมัดระวังในการตรวจสอบ ต้องมีการใช้กฎหมายที่ถูกต้อง ให้ความเป็นธรรม เสมอภาค อย่าใช้อารมณ์ หรือความเกลียดชัง มาเป็นตัวตัดสิน ถ้าใช้อารมณ์ ใช้ความเกลียดชังมาตัดสินไว้ก่อน กฎหมายมันเดินตามไม่ได้ เราต้องทำเรื่องกฎหมายให้ทั่วถึง ทุกกลุ่มทุกฝ่ายต้องให้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมให้ได้ ทุกระบบ เรื่องใดที่เกิดแล้ว ก็ต้องให้รอบคอบ เรื่องใดที่ยังไม่เกิดก็ต้องป้องปราม ป้องกันไว้ก่อน อย่าไปตัดสินกันเอง ถ้าอย่างนั้นก็เหมือนเดิม ไม่ต้องมีกฎหมายหรอก

“จำคำผมไว้ให้ดี อย่าตำหนิติเตียนกันมากนักเลย การกดดันมากๆ นั้นมันทำให้คนทำงานไม่เป็นอิสระ ภายใต้ความกดดัน ผมเองก็ยังกดดันตัวเองเลย ฉะนั้นจะทำให้การตัดสินใจมันผิดพลาด เราต้องพยายามตั้งสติ และอดทน อดกลั้น ถ้าต่างฝ่ายต่างช่วยกัน ไม่ดีกว่าหรือ” นายกรัฐมนตรี ระบุ

คำต่อคำ : รายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” วันที่ 12 ก.ย. 2557

สวัสดีพ่อแม่พี่น้องประชาชนคนไทยที่เคารพรักทุกท่านครับ พบกันอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 13 ผมอาจจะพบกับท่านในหลายบทบาทด้วยกัน ด้วยวันนี้ก็เป็นที่น่ายินดีว่า เมื่อช่วงเช้ารัฐบาลได้แถลงนโยบายให้กับสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้รับทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็หมายความว่า รัฐบาล โดย ครม. รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้สมบูรณ์ ในเรื่องของทั้งการสั่งการ การลงนามเอกสาร การขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติ ผมในฐานะนายกรัฐมนตรี ก็มีความสบายใจที่ได้ปฏิบัติงานตามกฎระเบียบ และจารีตประเพณี คือการแถลงนโยบายรัฐบาลให้กับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และประชาชนทราบ หมายความว่า จากนี้พวกเรา คณะรัฐมนตรี และประชาชน จะได้ร่วมมือกันในการขับเคลื่อนประเทศชาติไปด้วยกัน เพื่อความสุขของคนในชาติ ทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ตลอดจนการสร้างความเชื่อมั่นให้กับต่างประเทศได้ในทุกมิติ

สำหรับนโยบายรัฐบาลฉบับนี้ ร่างขึ้นมาโดยใช้เงื่อนไขสำคัญก็คือ การสานต่อการปฏิบัติงานของ คสช. ซึ่งได้ดำเนินงานมาในภาวะบ้านเมืองไม่ปกติ มีความเดือดร้อนของประชาชนมากมาย ซึ่งมีทั้งได้แก้ไขแล้ว และยังไม่ได้แก้ไข บางอย่างแก้ไขได้เป็นการเฉพาะหน้า ชั่วคราวยังไม่เกิดความยั่งยืน คงต้องอาศัยเวลาซักระยะหนึ่งนะครับ

ช่วงต่อไปนี้เป็นระยะที่ 2 ของโรดแมป ซึ่งมีความสำคัญต่อประเทศชาติเป็นอย่างยิ่ง อันจะทำให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนตลอดไป รัฐบาลในวันนี้นั้นอยากจะเรียนอีกครั้งหนึ่งว่า ต่างจากรัฐบาลในอดีตก็คือมีหน้าที่ถึง 3 ประการด้วยกัน นอกจากการบริหารราชการแผ่นดินแล้ว ยังมีหน้าที่ในการปฏิรูป และการสร้างสภาวะความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ด้วยการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ควบคู่ไปด้วย เรารู้ดีว่า เป็นงานที่ยากมีทั้งวิกฤตและโอกาส แต่เราจะใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดในการที่จะถือเอาวิกฤตเหล่านั้น หรือปัญหาทุกอย่างเหล่านั้นให้เป็นโอกาส ซึ่งนับว่าเป็นความท้าทายของพวกเราทุกคนที่ต้องทำให้ได้ ด้วยระยะเวลาที่จำกัด เราจะไม่เป็นรัฐบาลที่อยู่ไปวันๆ เพื่อรอการปฏิรูป หรือรอการเลือกตั้ง เราจะพยายามทำงานในลักษณะที่ทำก่อน ทำจริง ทำทันที ให้มีผลสัมฤทธิ์ และเพื่อให้เกิดความยั่งยืนต่อไปในอนาคต

คำว่าอนาคตนั้นไม่ได้หมายความว่า แค่ปีต่อไปหรือรัฐบาลต่อไปแต่ต้องเป็นการปูรากฐานของประเทศให้เข้มแข็ง ของการเป็นประชาธิปไตยอย่างที่ได้กล่าวไว้ ช่วยกันเติมอิฐ หิน ปูน ทราย จัดทำโครงสร้างให้เข้มแข็ง ไม่ล่มสลายลงอีกเป็นอันขาด พวกเราทุกคน คนไทยทุกคนต้องช่วยกันเป็นสถาปนิกนะครับ และช่วยกันก่อสร้างประเทศชาติกันใหม่ให้ถาวรและยั่งยืนตลอดไปทุกคนมีความสุขนะครับ

หากพวกเราหรือรัฐบาล หรือ คสช. ทำฝ่ายเดียว ผมว่าไม่มีทางสำเร็จนะครับอย่างแน่นอน อยากให้คนไทยทุกคนคิดถึงเรื่องนี้ให้มากแม้กระทั่งผู้ที่เห็นต่างก็ต้องมาดูว่าเราจะอยู่ร่วมกันอย่างไรต่อไปโดยไม่ขัดแย้งกัน ไม่ก่อความรุนแรง หรือจะเอาชนะกันต่อไปอีก ด้วยข้อกฎหมาย ด้วยช่องว่างต่างๆ ที่มีอยู่ ใครจะผิดจะถูก ผมว่าให้กฎหมาย กระบวนการยุติธรรมทำหน้าที่ แล้วก็ต้องเข้มแข็ง เป็นธรรม เจ้าหน้าที่ไม่เลือกปฏิบัติ เรามีเวลาน้อยนะครับ

ขณะนี้ก็มีข่าวในเรื่องของการเริ่มมีการต่อต้านกัน ทั้งทางเปิดเผยบ้าง ลับบ้าง ทั้งในประเทศและต่างประเทศมากขึ้นตามลำดับ มีการกล่าวให้ร้ายกันทางโซเชียลมีเดียกันมากพอสมควร ผมอยากจะขอร้องนะครับ ช่วยกันลืมตาให้กว้าง ไตร่ตรอง ใคร่ครวญ ว่าเราแต่ละคนมีหน้าที่อย่างไร ต้องทำอย่างไร เพื่อร่วมกันทำให้ประเทศชาติไทยของเรานั้นเดินหน้าต่อไปให้ได้ หากทุกคนจะรออย่างเดียวว่าเมื่อไรเราจะยกเลิกกฎอัยการศึก ยกเลิกกฎหมายพิเศษ เพื่อจะได้มีการเคลื่อนไหวต่อไป ผมคิดว่าเราปฏิรูปไม่ได้แน่นอนนะครับ มันเป็นหน้าที่ของผม ของคณะรัฐบาล ที่จะพิจารณากันอีกครั้งหนึ่ง เราเข้าใจดีถึงปัญหาในเรื่องนี้ เราก็พยายามจะทำให้ดีที่สุดนะครับ ถ้าท่านคิดว่าอยากให้เราดำเนินการต่อไปได้ด้วยดี ท่านก็ต้องหยุดการเคลื่อนไหวในลักษณะที่เป็นการต่อต้าน หรือเป็นการแสดงความคิดเห็นในลักษณะที่สร้างความขัดแย้ง ถ้าท่านติเพื่อก่อ หรือว่าติดตาม ดูแล กำกับ เสนอข้อเสนอแนะที่จำเป็น ที่สำคัญ ผมรับได้ทุกเรื่องนะครับ แต่อย่าทำให้เกิดข้อขัดแย้ง หรือเอาปัญหาเก่าๆ มาพูดกันใหม่อีก เรื่องเดิมๆ ก็ต้องแก้กันด้วยกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมไป เพราะฉะนั้นถ้าเราเอาเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หรือเรื่องเก่าทั้งหมดมาจับผิดจับถูกในวันนี้ ยังมาพูดให้ร้ายซึ่งกันและกันโดยไม่ปล่อยให้กระบวนการทางกฎหมายเขาทำ เราทำงานไม่ได้ หรือทำได้ก็ไม่มีประสิทธิภาพ ทุกคนก็จะออกมาต่อสู้กันอีก มีความขัดแย้งกันอีก และประเทศช่าติจะสงบได้อย่างไร สถานการณ์ในปัจจุบันตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคมเป็นต้นมา วันนี้บ้านเมืองก็ดูมีความสุขดี เราจะกลับไปเวลานั้นอีกหรือไง

ผมยกตัวอย่างง่ายๆ กรณีผมเองก็มีการถูกบิดเบือนในโซเชียลเน็ตเวิร์ก มีปลอมเอกสารหัวท้าย มีรายเซ็นผมเอง ข้อความภายใน ท่านก็คิดเอาเองว่าจริงหรือไม่จริง วันนี้ธนาคารมาชี้แจงแล้วว่าผมไม่เคยมีบัญชีเงินฝากเหล่านั้น มีการสั่งการให้ผมปกปิดเงินผม น้องชายผมสองหมื่นกว่าล้าน ผมคงไม่บ้าไปเป็นอย่างนั้น ทำอย่างนั้นคงไม่ใช่ ถ้าเรามีเงินขนาดนั้นจริงก็ดี ผมจะได้เอาเงินมาใช้หนี้ให้พ่อแม่พี่น้อง หรือสร้างอะไรให้มันเป็นประโยชน์เป็นประวัติศาสตร์ให้กับแผ่นดินนี้บ้าง ให้สมกับที่เราเกิดมาบนแผ่นดินนี้ ใครรวยก็ต้องทำแบบนั้น เผอิญผมยังไม่รวยขนาดนั้น ทราบว่าตอนนี้ธนาคารก็ออกมาชี้แจงแล้ว ช่วยกันดูด้วยนะครับว่า เรื่องต่างๆ มันพูดจริงบ้างเท็จบ้างอะไรต่างๆ ผมคิดว่าบางคนผมเกรงว่าบางคนก็จะเชื่อ ถ้าผมไม่พูดเลยก็เป็นอย่างนี้ไปตลอด

ในเรื่องของการทำงานนั้น เราเป็นทหาร เราเป็นผู้บัญชาการระดับสูงในกองทัพ เราก็ต้องประพฤติปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างให้ทำอย่างไรให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเคารพนับถือ ไม่อย่างนั้นปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาที่ถืออาวุธเป็นจำนวนมากไม่ได้จนถึงวันนี้หรอกครับ เพราะฉะนั้นผมเคยบอกแล้วว่า เราจะต้องเอาชนะความช่วยด้วยความดี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมคุ้มครองนะครับ ย่อมเป็นบุคคลอันเป็นที่รักของทุกๆ คนในกองทัพ

อีกเรื่องๆ การเขียนข้อความเท็จโจมตี คสช. โจมตีผม หรือเจ้าหน้าที่อะไรก็ตาม วันก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมไว้ได้ ก็สอบถามว่า ทำไมถึงโพสต์ข้อความอย่างนั้นให้ร้ายคน สร้างความรุนแรง และหยาบคายบ้างอะไรบ้าง เขาตอบว่าสนุกดี ทำแล้วสนุก ผมก็สงสัยว่า ทำไมประเทศเรามีคนเหล่านี้อยู่เป็นจำนวนมาก มีมากพอสมควร เขียนและโพสต์ข้อความข้อความอะไรออกมา และรู้สึกว่า เป็นพระเอกเป็นฮีโร่ ผมเข้าใจว่าอาจจะป่วยทางจิตนะคนเหล่านี้ เขียนให้คนทะเลาะเบาะแว้งกัน เขียนโดยไม่มีข้อเท็จจริง เขียนโดยที่เอาจับต้นชนปลายเอามาแล้วมาต่อกัน ทำนองนี้บ้านเมืองไม่น่าจะดีนะ เพราะฉะนั้นก็อย่าไปช่วยกันโพสต์ต่อไปเลย ท่านอ่านดูท่านน่าจะรู้ว่า ข้อความเหล่านี้มันเป็นไปได้หรือมันเชื่อได้หรือเปล่า ถ้าสงสัยอะไรก็สอบถามมาได้ที่ คสช. หรือที่รัฐบาล แม้กระทั่งที่ผมเองก็ส่งข้อความอะไรถามมาก็ได้ พอถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเขาดำเนินการทางกฎหมายก็อ้างว่า ถูกทำร้าย อย่างบางคนก็ไปเคลื่อนไหวที่ต่างประเทศ จะไปร้องเรียนที่โน้นที่นี่ก็ถ้าหากท่านคิดว่า ท่านถูกท่านไม่ได้ผิดอะไร ท่านกลับมาสิครับ แล้วท่านจะให้ผมส่งหรือให้เจ้าหน้าที่อะไรที่ท่านไว้วางใจไปดูแลท่าน แล้วก็ต่อสู้กันในศาล ให้กระบวนการยุติธรรมตัดสิน น่าจะดีกว่านะครับ ถ้าท่านไม่ไว้ใจเรา ไม่ไว้ใจทหารก็ ผมให้โอกาสทุกท่านเลย อย่าไปพูดกันในทางลับ ในต่างประเทศ หรือประชุม สร้างความวุ่นวายอะไรต่างๆ เหล่านี้นะครับ ผมเห็นว่ายังมีการเคลื่อนไหวทางนี้อยู่นะครับ เพราะฉะนั้นท่านต้องเข้าใจ เห็นใจพวกเราด้วย ในการที่จะปฏิรูปประเทศ เพราะฉะนั้นอย่าทำอะไรให้ประเทศเสียหาย อย่าเอาอะไรที่มันไม่ถูกต้อง ไม่ดี ไม่จริง ไปเล่าให้ชาวต่างประเทศเขาฟัง น่าอับอายเขานะครับ วันนี้เราไม่ได้ทำอะไรอย่างนั้นเลย อยากให้คนไทยทั้งประเทศ อย่าไปร่วมมือ แล้วก็ร่วมกันต่อต้านเขาด้วย อันที่จริงแล้วก็อยากจะให้ไม่สนใจดีกว่านะครับ อย่าไปสนใจคนเหล่านี้เลย ถ้าเราสนใจ เราโพสต์กันต่อ มันก็เป็นเรื่องเป็นราว แล้วสื่อก็ต้องมาแพร่กันอีก พอแพร่กันไปแพร่กันมา ก็ทะเลาะกันอีก เพราะฉะนั้นการที่ประเทศชาติจะสงบ ประชาชนจะมีความสุข เศรษฐกิจเดินไปข้างหน้าได้ มันก็จะกลับไปอย่างเดิมอีก แล้วเราจะได้นำพาการปฏิรูปไปสู่การเลือกตั้งให้ได้โดยเร็วนะครับ ถ้าเรายังเป็นอย่างนี้กันอยู่ ไม่ร่วมมือกัน แล้วเราจะก้าวไปสู่จุดนั้นได้อย่างไร

สำหรับข้อมูลหลายประการที่เกี่ยวข้องกับการใช้อาวุธสงคราม พฤติกรรมทั้งการยิง M79 การยิง M16 ขว้างระเบิด ทั้งในปี 53 และ 56-57 นั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการจับกุมได้หลายคน จากการสืบสวนสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบสวน มีความก้าวหน้ามากมาย ถ้าผมกล่าวว่า เอ๊ะ มีใครบ้างที่สนับสนุนทั้งอาวุธ เงินทอง ทุกท่านอาจจะตกใจก็ได้นะครับ วันนี้ผมยังไม่พูดนะครับ ให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม สอบสวนสืบสวนให้ชัดเจน ให้ความชอบธรรม และความเป็นธรรม เราคงไม่ไปยัดข้อหาให้ หรือไปสร้างพยานเท็จ พยานเทียมอะไร เพราะฉะนั้นหลายคนเกี่ยวข้องก็หนีไปต่างประเทศหมดที่มีรายชื่ออยู่ ฉะนั้นถ้าท่านคิดว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง ก็กลับมา เพราะมันจะมีการโยงใยไปถึงหลายๆส่วนด้วยกัน ทั้งบุคคล ทั้งกลุ่ม ทั้งผู้ให้การสนับสนุน เตรียมตัวไว้นะครับ ถ้าใครคิดว่า ไม่ผิด และเมื่อมีพยานหลักฐานพร้อม ท่านสู้คดีไม่ได้ ท่านต้องถูกดำเนินคดีแน่นอน มอบตัวเถอะครับ เผื่อจะได้รับความกรุณาจากศาลบ้าง

ในเรื่องของนโยบายรัฐบาล หลักการสำคัญก็คือเราได้ใช้ยุทธศาสตร์พระราชทานเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา เข้าใจทั้งคน เข้าใจทั้งพื้นที่ เข้าใจถึงปัญหา มันถึงจะหาทางแก้ปัญหาได้ และอีกอันคือ ใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เป็นแนวทาง โดยนำสิ่งที่เป็นปัญหาทั้งหมด ความล้าสมัย ไม่เป็นสากล หรือการทำให้ประชาชนมีความยากลำบาก ไม่เท่าเทียม เหลื่อมล้ำ มาเป็นเวลานานนั้นมาพิจารณาดำเนินการให้เกิดผลสัมฤทธิ์นะครับ โดยอะไรที่เร่งด่วนมากๆ เราก็ทำทันที อะไรที่ต้องใช้เวลา แก้ไข อะไรเกี่ยวข้องเยอะแยะ ก็ไปปานกลาง 1 ปี ยั่งยืน ก็เป็นเรื่องของรัฐบาลต่อๆไปที่ต้องทำงานอย่างยั่งยืน

ทั้งหมดนั้นเราพยายามจะทำให้มีการต่อเนื่อง หลายคนก็เป็นห่วงว่า จะทำจบเหรอ เรื่องเป็นร้อยๆเรื่อง ก็ทำอย่างนี แบ่งทุกกลุ่มปัญหา มาเป็นระยะเร่งด่วน และปานกลาง ระยะยาว ยั่งยืน ฉะนั้นแผนต่างๆนั้นที่เรานำมาใช้ในการจัดทำนโยบายครั้งนี้ ก็ประกอบไปด้วยแผนทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคมวิทยา ต่างประเทศ กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม และอื่นๆ อีก ปัญหาที่ผ่านมาผมเรียนว่า นโยบายรัฐบาลมักจะเป็นนามธรรมมากกว่ารูปธรรมคืออ่านดูก็เพลิดเพลินเข้าใจ แล้วก็ถึงเวลาปฏิบัติมันปฏิบัติไม่ได้ ขับเคลื่อนไม่ได้ เพราะอะไร เพราะไม่ชัดเจนและก็ไม่ได้นำมาใช้ ทำให้เกิดความไม่เป็นประสิทธิภาพ ไม่มีผลสัมฤทธิ์เท่าที่ควรก็มีอยู่บาง สิ่งที่ผมดูว่าเป็นปัญหาหลักคือขาดความมีเอกภาพของหน่วยงาน การประสานและการบูรณาการ 2 อันนี้มันคนละคำกัน ทำให้ไม่เกิดผลผลิตในระยะยาว ไม่ต่อเนื่องและเราไม่รู้อนาคตของเรา หรือของประชาชนของประเทศชาติ ไม่รู้อนาคตนะครับ

วันนี้เราได้พยายามกำหนดนโยบายและแบ่งมอบงานให้ทุกกระทรวงขับเคลื่อนชัดเจน อะไรที่เป็นงบฟังก์ชั่น งบบูรณาการ งบลงทุน งบบุคลากร งบบริหารจัดการ ใครจะรับผิดชอบ หลัก รอง หรือเสริมในงานกลุ่มเดียวกัน ซึ่งน่าจะทำให้การใช้จ่ายงบประมาณเป็นไปอย่างคุ้มค่า มีมาตรการตรวจสอบความโปร่งใสทั้งในระดับนโยบาย ระดับนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติและผู้ปฏิบัติต้องสอดคล้องกันทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น รวมทั้งมุ่งเน้นให้ประชาชนทราบได้ว่าใน 5 ปี 10 ปีข้างหน้าของเรา ท้องถิ่นของเรา บ้านเมืองของเราจะเกิดอะไรขึ้นมาบาง จะพัฒนากันไปอย่างไร

ทั้งนี้ เพื่อลดความขัดแย้ง ลดการต่อต้าน ลดความเหลื่อมล้ำ ประชาชนทุกคนต้องรู้อนาคตของชาติบ้านเมือง สนใจ เอาใจใส่ อย่ามองเฉพาะเรื่องครอบครัวของตัวเองอย่างเดียวต้องมองว่าบ้านเมืองจะไปอย่างไร และเราจะได้ปรับตัวได้ถูก บางคนอาจต้องเสียสละบาง บางคนอาจต้องได้ คนได้คือคนที่ยากจน คนที่เสียสละคือคนรวย อาจต้องเสียสละผลประโยชน์บ้าง เพื่อให้ประเทศชาติมันเดินหน้าไปได้ ลดความเหลื่อมล้ำ

การบริหารราชการจะเป็นไปตามนโยบายนี้เป็นหลักนะครับ ผมได้กำหนดให้ทุกภาคส่วน ทุกส่วนราชการ รายงานผลการดำเนินงานด้านงบประมาณในทุกไตรมาส ทั้งนี้ จะต้องมีผลเป็นรูปธรรม จับต้องได้ งานใดทำก่อน ทำเลย ต้องจัดลำดับความเร่งด่วน ด้วยการวางแผนที่ดี ประชาชนได้รับประโยชน์เร็ว ไม่ต้องรอใกล้สิ้นปีงบประมาณ จึงจะมาเร่งกันทำ

วันนี้รัฐบาลเราไม่ได้มาจากพรรคการเมือง ไม่ต้องหาเสียง ไม่ต้องมีเสียงข้างมาก ไม่ต้องรักษาฐานเสียง ไม่ต้องการคะแนนนิยม เพียงแต่ต้องการแก้ปัญหา และปฏิรูปอย่างยั่งยืน ซึ่งไม่ใช่ของง่ายนะครับ เราไม่ใช่พรรคการเมือง เพราะฉะนั้นเราก็คงไม่ต้องไปทำโครงการประชานิยม ทำอย่างไรให้คนรักเรามากๆ ไม่ใช่ เราจะแก้ปัญหาให้เขานะครับ ปัญหาเกิดมามากกว่า 10 ปี ไม่ได้เกิดมาหลังการควบคุมอำนาจ 22 พฤษภาฯ ดังนั้น ต้องร่วมกันคิด ร่วมมือ ช่วยกันทำนะครับ แม้กระทั่งใครขัดแย้งกันมาตลอดก็ต้องช่วยกัน ถ้าไม่ช่วย ผมถือว่าท่านก็ไม่ได้รักคนไทยจริงๆ นะ ถ้ารักคนไทยจริงต้องช่วยเราตอนนี้นะครับ เรื่องอื่นๆ ท่านก็ไปต่อสู้กันทางกระบวนการยุติธรรมก็แล้วกัน

ผมเห็นใจคนมีรายได้น้อยจริงๆ นะครับ ก็มีลักษณะการถูกเอารัดเอาเปรียบ ทำจนท่านก็เครียด รายได้ไม่พอเลี้ยงลูกเมีย ครอบครัว ทนไม่ได้ พอมีคนมายุแหย่ปลุกปั่น ท่านก็หยุดตัวเองไม่ได้ ก็คล้อยตามเขาไป แล้วก็ทำให้เกิดปัญหา ท่านต้องสติใหม่นะครับ หารือพูดคุย อดทน ถ้าใครเขามาบอกอะไร เชื่อ หรือไม่เชื่อ ท่านหาข้อมูลก่อน อย่าไปเชื่อใครคนอื่นๆ พูด แล้วเสร็จแล้วมันก็วุ่นวาย ท่านก็รวมกลุ่มขึ้นมา ท่านก็มาเดินขบวน ท่านก็มาต่อต้าน ซึ่งผมว่ามันมีสาเหตุทั้งสิ้น และตอบได้ โดยเฉพาะช่วงนี้เราตอบท่านได้ทุกเรื่อง แต่ขอให้ท่านพยายามอดทนฟังข้อเท็จจริงก่อน แต่ท่านจะให้เราช่วยอะไรก็ว่ามาอีกที ถ้าท่านไม่ฟัง ท่านจะเอาแต่ที่ท่านเรียกร้อง มันก็ยากนะครับ ที่เราจะสามารทำตามใจท่านได้ เพราะว่างบประมาณเราก็มีจำกัด อย่างที่เคยเรียนไปหลายครั้งแล้ว เพราะฉะนั้น ผมไม่อยากให้พวกเราต้องบังคับใช้กฎหมายกับท่านตลอดเวลา เราก็เข้าใจดีถึงสิทธิมนุษยชน เข้าใจถึงโลกสากล เห็นใจเราบ้างเถอะครับ ในฐานะที่เราจะต้องเป็นรัฐบาล และทำงานเพื่อจะขับเคลื่อนประเทศ

เพราะฉะนั้นถ้ามีการทะเลาะเบาะแว้งกัน มีการต่อต้าน มีการ ... ที่มันไม่ถูกต้อง ผมใช้คำว่าไม่ถูกต้องดีกว่า ท่านต้องคิดว่าท่านถูก แต่มันไม่ถูกในทำนองคลองธรรม ไม่ถูกในกฎหมาย ระเบียบของสังคม อย่าทำลายพวกเราเลยนะครับ อย่าทำลายความตั้งใจของพวกเราเลย เราไม่ได้ต้องการอำนาจ ไม่ต้องการผลประโยชน์ ท่านก็ทราบดีว่าการทำงานนั้นมีหลายระดับ หลายหน่วยงาน โอกาสที่คนเลวๆ ก็ยังมีอยู่ ที่จะแอบซ่อน ปิดบัง ก็ต้องใช้เวลานะครับ แล้วก็ร่วมกันตรวจสอบด้วยกฎหมาย พร้อมกับการเดินหน้าประเทศไปด้วย อย่าให้ประเทศต้องหยุดเลยนะครับ ถ้าเราต่อสู้กันเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง ประเทศหยุดไปด้วย ทุกอย่างก็เดือดร้อนไปหมด ประชาชนเดือดร้อน บ้านเมืองเสียหาย เพราะฉะนั้นถ้าเราไปดำเนินการเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง หรือไม่กี่คน มันจะทำให้เกิดปัญหากับประเทศชาติอย่างที่เคยเกิดมาแล้ว จะผิดจะถูกไปว่ากันมาอีกทีนะครับ ส่วนใหญ่มักจะอ้างว่าไม่ชอบธรรม ให้เวลาเขาทำงาน ฝ่ายกฎหมายเขาก็ต้องทำงาน เขาต้องรัดกุม มีหลักฐาน อะไรต่างๆ ให้เรียบร้อย ทั้งเอกสาร ทั้งพยาน ทั้งการตรวจสอบหลายคณะ ถ้าทำชัดเจนแล้วก็จะได้บิดพลิ้วกันไม่ได้ เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งตำหนิกันไปมาเลย ให้เวลา ให้กำลังใจกัน ท่านจะรู้เองว่าถ้าท่านต้องมาทำตรงนี้ ท่านจะรู้ว่าไม่ง่ายหรอกนะครับ ที่จะทำให้ถูกใจคนทุกคนไม่ได้ ทั้งฝ่ายบริหาร ฝ่ายกฎหมาย ทำนองนี้นะ ไม่สามารถจะทำให้ถูกใจทุกคนได้หรอกครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมาย มันมีไว้สำหรับตัดสินคนถูกผิด เพราะฉะนั้นให้เวลาเขาในการทำงานให้เกิดความยุติธรรม ไม่ให้เกิดปัญหาอีกต่อไปในอนาคต ถ้าใครผิดมันก็ต้องผิดอยู่ดี ถ้าพยายามพบ หลักฐานมันพบก็ต้องผิด หนีไปไหนก็ไม่ได้ไม่มีความสุขต้องถูกดำเนินคดี และหาความสุขไม่ได้หรอกนะครับ ร้อนรน และเราทำไมจะต้องไปเจ็บร้อนแทนคนอื่นเขาด้วย ถ้าเขาไม่ผิดก็ดีใจกับเขา ถ้าเขาผิดก็ต้องถูกลงโทษ ให้กระบวนการยุติธรรม กฎหมายดำเนินการ ให้รอบคอบจะดีกว่า อย่าเพิ่งเคลื่อนไหวกันเวลานี้เลย ผมคิดว่าวันนี้น่าจะมีคนที่กล้าทำผิดน้อยลง เขาคงไม่เสี่ยง เพราะเราได้ประกาศนโยบายของรัฐบาลของ คสช. ไปแล้ว เราจะไม่ช่วยเหลือคนผิด

เพราะฉะนั้นหากประชาชนไม่กดดัน มันก็จะไม่เกิดปัญหาในการทำงาน อย่าเร่งรีบจนเกินไป เพราะฉะนั้นประชาชนส่วนใหญ่มักจะเป็นเหยื่อ ส่วนใหญ่จะถูกดำเนินคดี เห็นมีคดีมากมาย บางทีก็เป็นคดีการเมือง แต่บางอย่างก็เป็นคดีอาญา เพราะฉะนั้นคนจนเท่านั้นแหละจะไม่มีกำลังสติปัญญาพอที่จะไปต่อสู้กับกฎหมายได้ เพราะฉะนั้นอย่าเป็นเครื่องมือของคนอื่นเขาเลย เราจะดูแลให้ดีที่สุด มันไม่มีคดีก็ดีอยู่แล้ว หาเงินหาทองก็ยังไม่พอใช้อยู่แล้ว วันนี้ทุกคนก็หาเงินตัวเป็นเกลียว และถ้าหากมีคดีขึ้นมาถูกจับกุมผิดกฎอัยการศึกบ้างอะไรบ้าง ลูกเมียก็เดือดร้อน และทำอย่างไร ใครจะเลี้ยงดูเขา คิดถึงเขาบ้าง อย่าคิดว่าทำอย่างนี้แล้วมันถูกต้อง มันไม่ใช่ทั้งนั้น บางอย่างก็ใช่ บางอย่างก็ไม่ใช่ บางอย่างก็เป็นมีการปลุกระดมทำนองนี้ เพราะฉะนั้นผมอยากให้ทุกคนคิดมีสติให้กับครอบครัวที่เป็นที่รักของท่านทุกคน วันนี้ประเทศเราข้าราชการ ตำรวจ ทหารนั้น มีความเข้มแข็งขึ้นมากแล้ว มีผลงานมากมาย ไม่งั้นเราคงขับเคลื่อนประเทศมาไม่ได้ถึง 4 เดือน ทั้งข้าราชการ พลเรือน ทหาร ขอให้ไปทบทวนดูสิว่า เกิดอะไรขึ้นมาบ้างใน 4 เดือน

สัปดาห์ที่ผ่านมาได้ไปร่วมงานขององค์กรเอกชนในการป้องกนและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติ หลายคนบอกว่า มันจะเป็นได้ไหม ที่ผ่านมาทุกรัฐบาลก็เป็นอย่างนี้ อย่างนั้น ผมว่า ถ้าเราช่วยกันมันได้นะครับ น่าชื่นใจในการรวมตัวของประชาชน ที่ผ่านมาในการต้านทุจริตคอร์รัปชัน ทุกคนทราบดีว่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง เกิดความแตกแยกของคนในชาติ ทำให้ขาดความเชื่อมั่นของต่างประเทศ รัฐบาลยังถือว่าเร่งด่วนที่ต้องแก้ไขให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว ทั้งเร่งด่วนระยะสั้น ระยะกลาง ยั่งยืน แต่ทั้งนี้ต้องใช้ความระมัดระวังในการตรวจสอบ ต้องมีการใช้กฎหมายที่ถูกต้อง ให้ความเป็นธรรม เสมอภาค อย่าใช้อารมณ์ หรือความเกลียดชัง มาเป็นตัวตัดสินไว้ก่อน ถ้าท่านใช้อารมณ์ ใช้ความเกลียดชังมาตัดสินไว้ก่อน กฎหมายมันเดินตามไม่ได้นะครับ เดินตามมามันก็เข้าทางนี้ ใครผิดใครถูกก็เข้าอีกข้าง ลำบากนะครับ ให้กฎหมายเขาว่าดีกว่า อะไรที่ไม่ใช่เรื่อง เราก็นำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เสร็จแล้วก็จบ ก็คอยดูว่าเขาจะทำอะไรต่อไป ก็ตรวจสอบเขาได้นะครับ

ฉะนั้น เราต้องทำเรื่องกฎหมายให้ทั่วถึง ทุกกลุ่มทุฝ่ายต้องให้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมให้ได้ ทุกระบบ เรื่องใดที่เกิดแล้ว ก็ต้องให้รอบคอบ เรื่องใดที่ยังไม่เกิดก็ต้องป้องปราม ป้องกันไว้ก่อน อย่าไปตัดสินกันเอง ถ้าอย่างนั้นก็เหมือนเดิม ไม่ต้องมีกฎหมายหรอก กลับไปสู่อดีต หลายร้อยปีมาแล้ว ใช้อาวุธ ตั้งกลุ่ม ตั้งแก๊งกัน ต่อสู้ฆ่าฟันกันมา

ฉะนั้น สถานการณ์เหล่านี้ อย่าให้เกิดขึ้นอีกนะครับในประเทศไทยของเรา ต่างชาติมีให้เห็นอยู่แล้วทุกคืน ท่านกรุณาไปดูข่าวต่างชาติท่านจะเห็นว่าบ้านเมืองหลายๆ ประเทศ ซึ่งเคยเจริญ สวยงาม ก้าวหน้า ต้องพังทลายลงมาเพราะการต่อสู้ของคนในชาติ เราอย่าไปทำเลยนะครับ เราไม่มีอะไรที่มันถึงขนาดนั้นนะครับ ฉะนั้นจำคำผมไว้ให้ดี อย่าตำหนิติเตียนกันมากนักเลย การกดดันมากๆนั้นมันทำให้คนทำงานไม่เป็นอิสระ ภายใต้ความกดดัน ผมเองก็ยังกดดันตัวเองเลย ฉะนั้นจะทำให้การตัดสินใจมันผิดพลาดนะครับ เราต้องพยายามตั้งสติ และอดทน อดกลั้น ถ้าต่างฝ่ายต่างช่วยกัน ไม่ดีกว่าเหรอครับ

ในเรื่องของภาพรวมเศรษฐกิจ ปัญหารายได้ ปากท้อง ของประชาชน รัฐบาลได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ในช่วง คสช. ด้วย ได้มีการแก้ปัญหามากมายในช่วงที่ผ่านมาตามลำดับ

วันพุธที่ผ่านมานั้น ก็ได้เชิญหน่วยงานทางด้านเศรษฐกิจ ประกอบไปด้วยสภาพัฒน์ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงบประมาณ กระทรวงพาณิชย์ และผู้แทนกระทรวงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ นักวิชาการ มาร่วมกันหารือ เกี่ยวกับสถานการณ์ของเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน และแนวโน้มของภาวะเศรษฐกิจไทยในอนาคต ซึ่งเป็นการหารือ ลงลึกในรายละเอียดของตัวเลขต่างๆในด้านเศรษฐกิจ ก็ยังพบว่า ภาพรวมของความเชื่อมั่นนักลงทุนและผู้บริโภค มีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยยังคงมีความอ่อนไหวต่อปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ เช่น ขีดความสามารถในการแข่งขัน สถานการณ์การสู้รบของต่างประเทศในภูมิภาคต่างๆ เป็นต้น การพัฒนาระบบเศรษฐกิจไทยเพื่อให้แข่งขันได้ก็ได้แก่การส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัย การผลิตสินค้าที่เป็นความต้องการของตลาด การพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่ง การปรับปรุงมาตรการอำนวยความสะดวกผู้ประกอบการและนักลงทุน การปรับกฎหมาย ระเบียบ วิธีการขั้นตอนให้เอื้อต่อการค้าการลงทุน การบริหารจัดการเกษตรที่ทันสมัย ทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาในการดำเนินการทั้งสิ้น

อีกทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะช่วงต้นนี้อาจส่งผลดีต่อประชาชนผู้ประกอบการเพียงบางกลุ่ม ยังมีประชาชนที่มีรายได้น้อยอีกจำนวนมากในท้องถิ่น ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศที่ยังมีปัญหาอยู่ ที่ทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังไม่ส่งผลต่อเขาเหล่านั้นมากนัก ผมจึงมีความห่วงใยประชาชนกลุ่มดังกล่าว ทุกคนต้องช่วยกันหามาตรการเร่งรัดให้มีการใช้จ่ายงบประมาณตั้งแต่ไตรมาส 1 ตั้งแต่เดือนตุลาคม เพื่อให้เม็ดเงินกระจายเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจให้ถึงประชาชนโดยเร็วที่สุด ก็ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ กระทรวงมหาดไทย กรมบัญชีกลางได้ช่วยกันทำมาตรการดูแลประชาชนในท้องถิ่นหรือในภูมิภาคเหล่านั้น โดยให้พิจารณานำเงินงบประมาณที่ตากค้างต่างๆ เช่น งบ 1 ปี งบ อปท. งบไทยเข้มแข็งมาจัดทำโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ชุมชน เพื่อให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ ตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของประชาชนทุกกลุ่ม ทุกภูมิภาคอย่างเท่าเทียมทั่วถึงโดยเร็วที่สุด

สำหรับการดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรมและกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งร่วมกันทำมาโดยตลอดขอขอบคุณและชื่นชมทั้งในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด ข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร ภาคประชาชนเป็นอย่างมากที่ได้ร่วมมือกัน จนผลการดำเนินงานที่ผ่านมาได้อำนวยความสะดวก บริการประชาชนมีผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมในหลายพื้นที่ ทั้งการรวบรวมปัญหาความเดือดร้อน ความต้องการของประชาชน รับเรื่องร้องเรียน แก้ไขปัญหาช่วยเหลือลดขั้นตอนให้ความรู้ เช่น เกษตรกรอำเภอบางปลาม้ายังไม่ได้รับเงินจากการขายข้าวกว่า 10 ล้านบาท ก็ได้ประสานเชิญเอกชน ผู้ประกอบการมาหารือแนวทางในการแก้ไข ซึ่งผลการดำเนินการเกษตรกรได้รับเงินทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

กรณีประชาชน ต.หนองสาหร่าย อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี มีความเดือดร้อน ไฟฟ้าไม่เพียงพอ ยังไม่ได้ติดตั้งก็ได้เร่งประสานการไฟฟ้า อ.ดอนเจดีย์ ผลจากการดำเนินการการไฟฟ้าจัดสรรงบประมาณขยายเขตไฟฟ้าเรียบร้อยครับ คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายเดือนกันยายนนี้ กรณีปัญหาแย่งชิงน้ำทางการเกษตรในพื้นที่ ต.ห้วยชัน อ.อินทร์บุรี การเปิดปิดประตูน้ำไม่เป็นเวลา มีกลุ่มนายทุนครอบครองกุญแจ ผลการดำเนินการหน่วยงานราชการได้เข้าไปเคลียร์ตัดสินจัดสรรแหล่งน้ำได้เท่าเทียมกันเป็นที่เรียบร้อย ประชาชนในพื้นที่มีความพึงพอใจ กรณีการสร้างสะพานอุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ที่มีความล่าช้า ผลจากการดำเนินการตอนนี้ข้าราชการ และประชาชน รวมทั้งทหารช่างได้เข้าไปแก้ไขแล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้

4 เดือนที่ผ่านมานั้น กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ได้รับทราบปัญหาความเดือดร้อน และความต้องการของประชาชนทั้งประเทศ 8,880 ปัญหา นี่คนละส่วนกันที่ปลัดสำนักนายกฯ รวบรวมมา ได้แก้ไขในพื้นที่ไปแล้ว 7,420 ปัญหา และส่งต่อให้ศูนย์ดำรงธรรม 1,460 ปัญหา ก็ถือว่าเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ไม่ต้องเดินทางเข้ามาร้องเรียนร้องทุกข์ที่ทำเนียบรัฐบาล หรือที่อื่นๆ ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ ผมทราบว่าในบางอำเภอ บางจังหวัด เอกชนได้ให้การสนับสนุนได้ให้ความอนุเคราะห์พื้นที่ในศูนย์การค้า จัดตั้งศูนย์ดำรงธรรม เช่น โลตัส จ.กาญจนบุรี ขอขอบคุณนะครับ หากเป็นไปได้ พื้นที่หรืออาคารของศูนย์ดำรงธรรม ศูนย์อะไรต่างๆ ที่อำนวยความสะดวกเหล่านี้ ควรตั้งอยู่ในที่ๆ มีความสะดวกสบายต่อประชาชนเข้าถึงได้ง่าย

เรื่องการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ วันนี้ล่าสุดได้ให้เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เดินทางไปประเทศมาเลเซีย ได้หารือกับเลขาฯ สมช.มาเลเซีย เพื่อยืนยันเป็นทางการว่า ไทยจะเดินหน้าเพื่อสันติสุขต่อไป โดยให้มาเลเซียนั้นเป็นผู้อำนวยความสะดวกเช่นเดิม รัฐบาลกับ คสช.ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ แต่คงต้องด้วยความระมัดระวัง

สำหรับการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในช่วงนี้ด้วยความห่วงใย ผมได้สั่งการให้แม่ทัพภาคต่างๆ ประสานงานร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฝ่ายพลเรือน และเจ้าหน้าที่ส่วนงานต่างๆ ช่วยกันลงพื้นที่ ดูแลประชาชนให้ทันต่อสถานการณ์ รวมทั้งการเตรียมการรับมือสถานการณ์น้ำที่จะเกิดขึ้นต่อไป และเป็นระยะๆ

อย่างไรก็ตามในสิ้นเดือนกันยายนนี้ คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำก็กำลังที่จะเสนอแผนงานโครงการ งบประมาณในการดำเนินการไปแล้วที่ 1 ให้ได้โดยเร็ว ทั้งการแก้ไขปัญหาการระบายน้ำ การกระจายน้ำ การเก็บกักน้ำ เพื่อไม่ให้เกิดน้ำท่วม และน้ำแล้งอย่างยั่งยืน ตอนนี้กำลังจัดทำแผนอยู่นะครับ คิดว่าสิ้นเดือนนี้น่าจะเสร็จ เพื่อจะนำเข้า ครม. ได้ เพื่อจะแก้ปัญหาให้ได้ด้วยความประชาชนและอย่างยั่งยืน

เรื่องการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ยอดรวม 7,362 คน โดยประมาณขณะนี้กรุงเทพมหานครเสนอชื่อมากที่สุด 133 คน สำหรับการปฏิรูปด้านต่างๆ มีสมัครด้านการศึกษามากที่สุดถึง 777 คน น้อยที่สุดก็คือด้านสื่อสารมวลชน 194 คน หลังจากนี้จะเป็นขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติ และอยู่ในขั้นตอนการคัดสรร ขอให้รอฟังการคัดสรรอีกครั้งหนึ่ง ที่เหลือก็ช่วยกันเป็นกลุ่มเป็นพวกในการที่จะให้ข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติม ผมคิดว่าทุกคนเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ ขอบคุณทุกคนนะครับที่มาสมัครทั้ง 7-8 พันคน อย่างไรก็ตามเราจะดูแลให้เกิดความเป็นธรรมให้มากที่สุดด้วยความรอบคอบให้ผู้ที่มีความชำนาญมีความรู้ความสามารถเฉพาะด้าน และผู้อื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบด้วย ที่เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในแต่ละกลุ่ม และทุกภาค พยายามจะให้ครบ ให้การปฏิรูปเดินหน้าต่อไปได้ เกิดประโยชน์ ได้รับการยอมรับอย่างแท้จริง

สุดท้ายนั้นพวกเราทุกคนก็คงต้องกล่าวคำว่าคิดถึงนะครับ และห่วงใยประชาชนทุกคนเหมือนเดิม เพราะปัญหาทุกอย่างมันยังแก้ไขไม่ได้ทั้งหมด บางอย่างแค่ทุเลา บางอย่างอยู่ในขั้นตอน ผมคิดว่าในสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป บรรดารัฐมนตรีทุกคน คณะรัฐมนตรีก็จะเริ่มทำงานอย่างเต็มรูปแบบ ก็จะนำแผนงาน โครงการต่างๆ ที่เริ่มต้นไว้แล้ว อะไรที่ดีของ คสช. ก็จะทำต่อเนื่อง อะไรที่จะต้องปรับปรุง ก็มาปรับปรุงหารือกันใน ครม. นะครับ แล้วก็หาทางจัดสรร ปรับเปลี่ยนงบประมาณต่างๆ ให้มันเหมาะสม เป็นการคิดร่วมกันของรัฐมนตรี ของคณะรัฐมนตรีทั้งหมด แต่ทั้งหมดนั้นผมเรียนเลยว่า เอามาจากพี่น้องทั้งสิ้นนะครับ เอามาจากปัญหา เอาจากสิ่งที่มันทำให้ประชาชนนั้นยังมีความเดือดร้อน ยังไม่มีความสุข ยังมีช่องว่างของคุณภาพชีวิตอยู่มากมาย เราจะพยายามค่อยๆ ทำให้ได้ อย่าคิดว่าเรามาแล้วไม่ทำอะไร หรือทำอะไรไม่ได้ ทุกอย่างที่ผ่านมาในห้วง 4 เดือน บริหารราชการปกติมาตลอดนะครับ โดย คสช. นี่ล่ะครับ ก็ทำงานโดยข้าราชการ ทหาร ฟังความคิดเห็นจากประชาชน บางอย่างก็เป็นคำแนะนำมาจากที่ปรึกษา มาจากภายใน ภายนอก ฟังทุกวัน มันถึงจะมาได้วันนี้ เราก็จะส่งที่เราทำวันนั้น ส่งไปให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการต่อไป ขอให้ทุกคนได้ร่วมกับพวกเราในการคาดหวังที่จะเดินหน้าประเทศไทยไปสู่อนาคตนะครับ อย่างยั่งยืน ขอบพระคุณนะครับ ขอเวลาให้พวกเราหน่อยนะครับ ขอบพระคุณครับ สวัสดีครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น