xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” วอนนักธุรกิจลดกำไรช่วยชาติพ้นวิกฤต ปราม “วีระ” อย่าวิจารณ์ “ฮุน เซน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ประยุทธ์” ชี้สถานการณ์โลกอ่อนไหว มีความเสี่ยงสูงที่จะกระทบเศรษฐกิจไทย วอนทุกกลุ่มธุรกิจยอมลดผลกำไรเพื่อช่วยชาติให้ผ่านพ้นวิกฤต ปราม “วีระ สมความคิด” อย่าวิจารณ์ “ฮุน เซน” ยันถูกปล่อยจากคุกเพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์ไทย - กัมพูชา ไม่มีข้อตกลงใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมขอความร่วมมือกำจัดเฮตสปีชทางโซเชียลมีเดีย

วันนี้ (15 ส.ค.) เมื่อเวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่า ครั้งที่แล้วตนกล่าวคำว่าคิดถึง ทุกคนก็สงสัยว่าส่งให้ใคร ขอเรียนว่าเป็นการกล่าวจากใจของตน และ คสช. ทุกคนที่คิดถึงพี่น้องประชาชนคนไทย ที่ยังคงมีความยากลำบากในการดำรงชีวิตอยู่

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ถึงเวลาที่คนไทยทุกคนทุกสาขาอาชีพ ทุกระดับรายได้ ต้องมาร่วมกันช่วยชาติ สถานการณ์เศรษฐกิจต่อจากนี้ไปมีความสำคัญยิ่ง สถานการณ์โลกที่มีแนวโน้มอ่อนไหว และมีความเสี่ยงสูง ทั้งจากปัญหาด้านการเมือง ความขัดแย้ง การสู้รบ ความยากจน ในทุกประเทศที่ยังอยู่ในขั้นการพัฒนาจะส่งผลกระทบทั้งสิ้น โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจทำให้ฝนไม่ตกตามฤดูกาล ปัญหาหลายๆอย่างจะทำให้เศรษฐกิจไทยมีความผันผวน อ่อนไหว และมีความเสี่ยงสูงในทุกมิติ จึงต้องเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ต่างๆ ลำพังรัฐ หรืองบประมาณของรัฐอย่างเดียวไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทั้งหมด คนไทยทุกคนจึงต้องช่วยกันเสียสละ ยอมลดผลกำไรให้พออยู่ได้ ถึงเวลาต้องช่วยชาติให้ผ่านพ้นวันเวลาวิกฤตไปให้ได้ ขอความร่วมบรรดาพ่อค้า นักธุรกิจทั้งหมดช่วยกันดูแลชาติ ช่วยกันระดมสติปัญญา และระดมน้ำใจ ช่วยกันว่าจะทำอย่างไรให้ประเทศชาติอยู่รอดในสถานการณ์ที่ไม่ปกติของโลก

“อยากให้ทุกกลุ่มธุรกิจได้ช่วยกันขึ้นทะเบียนที่ศูนย์ดำรงธรรมทุกจังหวัด หรือขึ้นป้ายไว้ว่าประสงค์จะช่วยชาติได้อย่างไร แล้วก็ส่งมาให้ คสช. รับทราบ พวกเรา คสช. และประชาชนที่มีรายได้น้อยทั้งหมด จะได้รู้ถึงน้ำใจท่านในวันนี้ จะได้เป็นข้อมูลให้เขาไปซื้อไปหา ไปขายได้ ในราคาที่เหมาะสม เราจะได้ร่วมมือกันในการรักษาชาติ ทำนุบำรุงชาติ และประชาชนต่อไปด้วยกัน ทั้งนี้ ก็เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมดังที่พระองค์ได้พระราชทานความห่วงใยกับชาติและประชาชนเสมอมา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

หัวหน้า คสช. กล่าวอีกว่า เรื่องการขับเคลื่อนประเทศของ คสช. ปัจจุบันอยู่ในระยะที่ 2 ซึ่งมี 3 มิติสำคัญที่ต้องเดินไปพร้อมๆ กัน ได้แก่ 1. การปรองดองและการปฏิรูป 2. การพร้อมรับสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจของโลกและของประเทศ 3. การยกระดับรายได้ สร้างอาชีพ สร้างงาน ลดความเหลื่อมล้ำ

ส่วนในเรื่องการจัดทำงบประมาณปี 58 ต้องพร้อมเบิกจ่ายโดยเร็วตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ ฉะนั้นงบที่คิดว่าจะสร้างงานได้มากๆ เช่น การซ่อมแซม - ก่อสร้างสถานที่ราชการ โรงพยาบาล ให้เร่งรัดทำในปี 58 ตั้งแต่ต้นปี นอกจากนี้ ยังมีโครงการจ้างงานบัณฑิตจบใหม่ให้ทั่วถึงหรือช่างวิชาชีพจบใหม่ให้มาก เพื่อลดการว่างงาน จะได้มีเงินสำหรับไปเรียนต่อ ส่วนทุนการศึกษาต่างๆ ขอให้กระจายไปถึงคนที่ลำบากจริงๆ ไม่ใช่คนรวยได้ไป มีบางคนบอกว่าตนจะลดเงินกู้ยืม ตนเพียงบอกว่าหาทางอย่างไรให้มันทั่วถึง และเป็นไปได้ไหมวันหน้าในอนาคตก็ไม่ต้องกู้ยืม มันเป็นปัญหาเพราะถ้าเราใช้เงินไปอีกทางมากเกินไป อีกทางจะไม่ได้ ถ้าทุกคนเอาทุกอย่างพร้อมๆ กัน ไม่มีทางได้ รัฐทำไม่ได้แน่นอน เพราะฉะนั้นต้องมากำหนดให้ชัดเจนว่าแต่ละอันต้องการอะไร

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงเรื่องของความมั่นคง ว่า การปรองดอง - ปฏิรูป ดำเนินการไปอยู่แล้วในวันนี้ เริ่มรับสมัครสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) วันที่ 14 ส.ค. ก็มาสมัครช่วยกัน แล้วอะไรที่มันพูดคุยกันได้ เรื่องไม่เป็นเรื่องที่จะทะเลาะกัน ก็หยุดก่อน ไปหาเรื่องที่มันทำแล้วเกิดประโยชน์ในอนาคต ยั่งยืน เอาประเทศชาติเป็นหลักไว้ก่อน

นอกจากนี้ ยังกล่าวถึง นายวีระ สมความคิด ว่า ที่ได้รับการปล่อยตัวออกมา คสช. ไม่เคยมีข้อตกลงใดๆ กับ นายฮุน เซน ที่ นายฮุน เซน ปล่อยตัวเพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับกัมพูชา วันนี้เราจะต้องไปสู่ประเทศอาเซียน เป็นครอบครัวเดียวกัน ทำไมต้องแบ่งแยกกัน ทำไมไม่เดินไปด้วยกัน ความร่วมมือระหว่างไทย - กัมพูชา หรือว่าไทยกับประเทศอื่นๆ ไม่มีตกลงนอกกติกาเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ทุกเรื่องจะต้องเป็นการตกลงระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาล พูดคุยเปิดเผยในทุกกรณี ขอให้ประชาชนไว้วางใจ แล้ว นายวีระ หยุดพูดได้แล้ว ขอให้เชื่อมั่นในคำพูดของตนมากกว่าไปฟังจากคนอื่น

"ความร่วมมือระหว่างไทย-กัมพูชา หรือว่าไทยกับประเทศทุกประเทศที่มาเยี่ยมเยียนมาคุยกันไม่มีตกลงนอกกติกาไม่มี เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวไม่มี ทุกเรื่องจะต้องเป็นการตกลงระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาล โดยอาจเป็นคณะพูดคุยที่เปิดเผยในทุกกรณีขอให้ประชาชนไว้วางใจ แล้วคุณวีระหยุดพูดได้แล้ว เชื่อมั่นในคำพูดของผมมากกว่าไปฟังจากคนอื่น ไม่มีนะครับไม่มี" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า เรื่องโซเชียลเน็ตเวิร์ก วันนี้ขอความร่วมมือ ช่วยกันแชร์ในเรื่องที่ดีๆ บ้าง ช่วยกันขจัดขยะต่างๆ คำพูดที่เรียกว่าเฮตสปีช ซึ่งมันสร้างความเกลียดชัง หยาบคาย ดูหมิ่น ดูถูกกัน หมิ่นสถาบันอะไรต่างๆ ออกไปให้ได้ ถ้าท่านเป็นคนไทยต้องช่วยกันขจัดไม่งั้นมันอันตรายมากในวันหน้า

คำต่อคำ : รายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" วันที่ 15 ส.ค. 2557

สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องประชาชนคนไทยที่รักทั้งประเทศ วันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อไม่กี่วันมานี้ ผมถือว่าเนื่องในวโรกาสวันมหามงคลเช่นนี้ยังคงมีอยู่ตลอดไปสำหรับคนไทยทุกคนนะครับ บรรยากาศแห่งความอบอุ่น ความภาคภูมิใจ ความปลอดภัย ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง น่าจะยังคงอยู่อย่างยั่งยืน คนไทยทุกคนต้องทำให้ทุกวันนั้นมีความหมาย มีประโยชน์สุข ให้สมดังที่ทุกพระองค์ได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อคนไทยมาโดยตลอด ทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในสายตาของชาวโลก แม้เราจะเป็นประเทศที่เล็กๆ ด้วยการที่เรามีสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงคุณอันประเสริฐ มีบ้านเมืองและวัฒนธรรมที่เก่าแก่ และงดงาม เราต้องช่วยกันทำนุบำรุงรักษาต่อไป

สำหรับเหตุการณ์อาคารถล่มที่ปทุมธานี เมื่อไม่กี่วันมานี้ ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตด้วย คสช.ได้ติดตามสถานการณ์ตั้งแต่แรก และสั่งให้หน่วยงานเข้าให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่และต่อเนื่อง สำหรับในเรื่องของการตรวจสอบนั้น เป็นเรื่องต้องดำเนินการต่อไปโดยละเอียด ทำอย่างไรจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก

ครั้งที่แล้วผมกล่าวคำว่า "คิดถึง" ทุกคนก็สงสัยว่าผมส่งให้ใคร ขอเรียนว่าเป็นการกล่าวจากใจของผมเอง และ คสช.ทุกคนที่มีความคิดถึงพี่น้องประชาชนคนไทย ที่ยังคงมีความยากลำบากในการดำรงชีวิตอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่นั้นจะเป็นคนมีรายได้น้อย เกษตรกรชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน ที่อยู่ในภาคการผลิตทั้งอาหาร และสิ่งที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีพ ซึ่งต้องอาศัยน้ำจากน้ำฝน และการชลประทาน ซึ่งขณะนี้เรายังไม่สามารถจะตอบสนองได้ในทุกพื้นที่ ผมเห็นจากแววตาของเกษตรกร จากรูปถ่าย จากความเป็นจริงที่เคยประสบมา ที่เฝ้ามองฝนตกด้วยแววตาเปล่งประกายด้วยความยินดี อยากให้ฝนตกเยอะๆ คงตกกันข้ามกับคนในกรุงเทพฯ และอยากให้ตกเยอะๆ และต่อเนื่อง เกษตรกรมุ่งหวังเพียงเท่านั้น เพื่อหวังให้พืชผลทางการเกษตร ได้ออกดอก ออกผลตามฤดูกาลให้เก็บเกี่ยวได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย นั่นคือความสุขที่เราได้มองเห็นจากแววตาของเขา น่าเห็นใจในฐานะไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลก็ตาม คงต้องมองสิ่งเหล่านี้ และแก้ปัญหาให้เขาให้ได้ อะไรที่เป็นความคาดหวัง เราจะทำให้เขาสมหวังได้มากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับพวกเราทุกคนนะครับ

สำหรับประชาชนอื่นๆ ที่ทำธุรกิจต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการให้การบริการค้าขาย การท่องเที่ยว การขายปลีกขายส่ง ซึ่งก็เป็นโซ่แห่งชีวิตเหมือนกัน ถึงเวลาที่คนไทยทุกคนทุกสาขาอาชีพ ทุกระดับรายได้ต้องมาช่วยกันนะครับ ผมใช้คำว่า ช่วยชาติในขณะนี้

สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจต่อจากนี้ไปมีความสำคัญยิ่ง เรามองแต่สถานการณ์โลกนะครับ ที่มีแนวโน้มมีความอ่อนไหว และมีความเสี่ยงสูงเหมือนกัน ทั้งจากปัญหาด้านการเมือง ความขัดแย้ง การสู้รบ ความยากจน ในทุกประเทศที่ยังอยู่ในขั้นการพัฒนา ล้วนจะส่งผลกระทบทั้งสิ้น โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกในปัจจุบัน อาจจะทำให้ฝนไม่ตกตามฤดูกาล หรือตกน้อยลง ปัญหาหลายๆอย่างจะทำให้เศรษฐกิจเรามีความผันผวน อ่อนไหว และมีความเสี่ยงสูงในทุกมิติ เราต้องเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ต่างๆเอาไว้ด้วย

ลำพังรัฐ หรืองบประมาณของรัฐอย่างเดียวนั้น เราไม่สามารถจะแก้ปัญหาได้ทั้งหมดนะครับ ฉะนั้นถึงเวลาแล้วที่คนไทยทุกคนจะต้องช่วยกันเสียสละคนละไม้คนละมือ ลดผลกำไร ผลประโยชน์ที่แต่ละกลุ่มแต่ละฝ่าย ซึ่งต่างก็มองในเชิงธุรกิจว่า จะทำอย่างไรให้เกิดกำไรมากที่สุด วันนี้ต้องช่วยกันลดลงนะครับ ถึงเวลาต้องช่วยกันช่วยชาติ ให้ผ่านพ้นวันเวลาแห่งวิกฤตินี้ไปให้ได้

ขอความร่วมมือนะครับ บรรดาพ่อค้า นักธุรกิจทั้งหมดช่วยกันดูแลชาติ ไม่ว่าจะเกี่ยวกับการซื้อขาย การส่งออก พ่อค้าคนกลาง ธุรกิจก่อสร้าง ขนส่ง หรืออื่นๆทั้งหมด ช่วยกันระดมสติปัญญา และระดมน้ำใจ ช่วยกันว่า จะทำอย่างไรให้ประเทศชาติอยู่รอดในสถานการณ์ที่ไม่ปกติของโลก ลดราคาขาย เพิ่มกำลังซื้อ ลดกำไรให้พออยู่ได้ นึกถึงผู้ที่มีรายได้น้อยให้มาก ว่าเขาจะอยู่กันอย่างไร ครอบครัวจะอยู่อย่างไร ถ้าหากว่าท่านรับซื้อโดยกดราคาขั้นต่ำมาก เกษตรกรเขาอยู่ไม่ได้ รัฐก็ไม่สามารถจะใช้เงินจำนวนมากมารับซื้อ หรือพยุงราคาได้ตามที่ทุกคนต้องการได้ทั้งหมดหรอกนะครับ

ขอนะครับ เวลานี้ ขอให้ช่วยคนไทยและช่วยประเทศไทย ก็อยากให้ทุกกลุ่มธุรกิจที่กล่าวมาแล้ว หรือาจจะยังไม่ได้กล่าว ได้ช่วยกันขึ้นทะเบียนไว้กับจังหวัดทุกจังหวัดได้ไหมครับ หรือว่าขึ้นป้ายไว้ว่าประสงค์จะช่วยชาติได้อย่างไร เช่น พ่อค้าข้าว พ่อค้าอ้อย น้ำตาล มันสำปะหลัง ปาล์ม ยาง ก่อสร้าง หรืออื่นๆ ทุกอย่างเลย กรุณาให้สมาคมทุกสมาคม กลุ่มธุรกิจ ขึ้นบัญชีห้างร้าน บริษัท กลุ่มบุคคล บุคคลที่เต็มใจจะช่วยชาติ กรุณาส่งรายชื่อ ขึ้นบัญชีไว้ที่ศูนย์ดำรงธรรมทุกจังหวัด แล้วก็ส่งมาให้ คสช. รัฐบาลทราบ พวกเรา คสช.และประชาชนคนที่มีรายได้น้อยทั้งหมด จะได้รู้ถึงน้ำใจท่านในวันนี้ จะได้เป็นข้อมูลให้เขาไปซื้อไปหา ไปขายได้ ในราคาที่เหมาะสม เราจะได้ร่วมมือกันในการรักษาชาติ ทำนุบำรุงชาติและประชาชนต่อไปด้วยกัน

ทั้งนี้ ก็เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมดังที่พระองค์ได้พระราชทานความห่วงใยกับชาติและประชาชนเสมอมา ขอกราบขอบพระคุณไว้ล่วงหน้านะครับ

เรื่องต่อไปคือการขับเคลื่อนประเทศของ คสช.ในห้วงปัจจุบันระยะที่ 2 สรุปได้ว่ามี 3 มิติที่สำคัญที่ต้องเดินไปพร้อมๆ กันข้างหน้า เราจะต้องรักษาสมดุลเรื่องเหล่านี้ไว้ให้ได้ อันก็ได้แก่ 1.คือการปรองดองและการปฏิรูป 2.การพร้อมรับสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจของโลกและของประเทศ ซึ่งก็จะมีทั้งวิกฤตและโอกาสในการที่เราจะขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะดีหรือจะร้ายในทุกมิติ ทางด้านเศรษฐกิจ เรื่องที่ 3.คือการยกระดับรายได้ สร้างอาชีพ สร้างงาน ลดความเหลื่อมล้ำของรายได้ประชาชน ต้องช่วยกัน เรื่องเศรษฐกิจการที่เราจะปฏิรูปเศรษฐกิจต้องยอมรับว่าจะต้องมีคนได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ ถ้าทั้ง 2 ฝ่ายยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผมคิดว่าเราน่าจะสร้างสมดุลตรงนี้ได้อย่างแน่นอน ผมเคยกล่าวไว้ข้างต้นแล้วว่าทุกคนต้องเสียสละ กำไรน้อยลง พออยู่ได้ ประชาชนไม่เดือดร้อน ค่าครองชีพที่เหมาะสมลดลง ไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตากอบโกยผลกำไรกันให้มากนัก คอยแต่จะขึ้นราคา ผมอยากให้ขายของเชิงปริมาณและคุณภาพ โดยลดผลกำไรลงบ้าง เผื่อแผ่แบ่งปันให้ทุกคนได้รับผลประโยชน์อย่างเป็นธรรม ไม่อย่างนั้นแล้วประเทศชาติไปไม่รอดแน่นอน

3 เดือนที่ผ่านมานั้น จะเห็นได้ว่าเศรษฐกิจเริ่มจะเดินหน้าไปได้ หลังจากหยุดชะงักมาด้วยปัญหาภายในของเราเอง เริ่มจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติอย่างช้าๆ การจัดระเบียบต่างๆ การบังคับใช้กฎหมาย ไม่ถูกปล่อยปละละเลย ประเทศชาติของเราก็มีความสงบสุขเพิ่มขึ้นตามลำดับ แต่จากนี้ไปหลังจากมีรัฐบาลก็ประมาณเดือนกันยาฯ เราจะมีงานหลายอย่างควบคู่กันไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการปฏิรูป และด้านเศรษฐกิจยังอ่อนไหว มีความผันผวนสูง เราต้องเผชิญหน้าต่อความท้าทายหลายๆ ด้าน ทั้งปัจจัยภายนอก และภายใน การนำเข้าวัตถุดิบต่างๆ ยังชะลอตัวอยู่ การผลิตสินค้าภาคอุตสาหกรรมจะฟื้นตัวค่อนข้างช้า การส่งออกอาจจะดีขึ้นในช่วงปลายปี แต่เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังอ่อนไหว เราควบคุมไม่ได้หรอกครับ เรื่องสถานการณ์โลก เพราะฉะนั้นสินค้าของเราบางอย่างต้องปรับตัวให้ทันสมัยมากขึ้น ให้ทันต่อเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปมากในปัจจุบัน บางอุตสาหกรรมจากต่างประเทศที่มาลงทุนในประเทศไทยนั้น อาจจะมีการขยับขยายกิจการไปจากประเทศไทยบ้าง เนื่องจากเรามีค่าแรงสูง

เพราะฉะนั้นเราต้องแก้ปัญหาเหล่านี้ให้ได้ ไม่อย่างนั้นเขาจะขยายการผลิตไปประเทศเพื่อนบ้าน และอื่นๆ ในอาเซียนอีก เมื่อการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมไม่ฟื้นตัวต่อเนื่อง แรงงานในภาคอุตสาหกรรมจะมีรายได้ในระดับที่ต่ำต่อไป เพราะฉะนั้นการเพิ่มแรงงานการโอทีต่างๆ มันจะลดลงไปตามลำดับ มีผลต่อค่าครองชีพของพวกเราเหมือนกัน สินค้าการเกษตรอาจจะมีราคาตกต่ำบ้าง โดยเฉพาะการผลิตสินค้าการเกษตรของเราที่เราไม่ได้จำกัดพื้นที่ ทำให้การระบายสินค้านั้นไม่ได้มากเท่าที่ควร ราคาตกต่ำ ตรงนี้ก็ต้องขอให้พ่อค้าไทยได้ช่วยกัน คิดว่าเราจะเพิ่มมูลค่าให้ผลผลิตการเกษตรได้อย่างไร หาตลาดใหม่ และบริหารจัดการ ทั้งดีมานด์ ซัพพลาย ให้ดีขึ้นอย่างไร โดยเฉพาะในช่วงที่ผลผลิตออกมาพร้อมๆ กันมากๆ ทั้งนี้ เพื่อพยุงราคา ช่วยรับหน่อยครับ อย่าให้รัฐต้องใช้จ่ายงบประมาณมาอุดหนุนอย่างใดอย่างหนึ่งมากนัก จะทำให้การพัฒนาประเทศด้านอื่นเป็นไปได้ยาก ทำไม่ได้ เกษตรกรก็ต้องร่วมมือกัน อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนการปลูกพืชให้เหมาะสม สอดคล้องทั้งดีมานด์และซัพพลาย ให้มันพอดีกัน

สำหรับการบริโภคโดยรวม อาจจะมีการฟื้นตัวอย่างช้าๆ เนื่องจากรายได้ครัวเรือนขยับตัวขึ้นน้อย หนี้ครัวเรือนยังอยู่ในเกณฑ์สูง เพราะฉะนั้นรัฐต้องเร่งขับเคลื่อนว่าจะดูแลประชาชนกันอย่างไร สถาบันการเงินของรัฐและเอกชนต้องช่วยกันดูแล

อย่างไรก็ตาม คสช.และส่วนราชการได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อดูแลค่าครองชีพของประชาชนมาเป็นระยะๆ อาทิ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม กระทรวงพาณิชย์ และกรุงเทพมหานคร ก็ได้เปิดโครงการร้านจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จ เพื่อคืนความสุขทุกจานให้กับประชาชน ขายอาหารราคาย่อมเยาให้กับประชาชน ซึ่งก็มีเป้าหมายที่จะเชิญชวนร้านเข้าร่วมโครงการในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 1,000 ร้าน ผมอยากให้มากกว่านั้น ไม่ต้องเปิดก็ได้ครับ ท่านก็เสนอตัวมาเลย ท่านอยากจะขายราคาต่ำเท่าไร ท่านก็ขาย ขายโดยกำไรน้อยลงหน่อย ทำไมเราจะต้องให้ไปบังคับกะเกณฑ์กัน ผมคิดว่าถ้าทุกคนร่วมมือกันมันก็จะขายของได้เอง เพราะฉะนั้นแผนในอนาคตนั้น เราก็จะเร่งเรื่องร้านเหล่านี้ไปยังตามจังหวัดหัวเมืองใหญ่ๆ ต่อไปในทุกภาคของประเทศ

รวมทั้งโครงการสินค้าธงฟ้าราคาถูก กระทรวงพาณิชย์ก็จะจัดงานในทุกภูมิภาค เช่น ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ ตะวันออกเฉียงเหนือ ที่อุดรฯ ภาคกลาง พระนครศรีอยุธยา ภาคใต้ นครศรีธรรมราช ซึ่งผมอยากให้สมาคมหอการค้าทุกจังหวัดดำเนินการของท่านเองในพื้นที่ของท่าน ท่านก็ไปรวบรวมร้านค้ามา แล้วก็ขายในพื้นที่ บางอย่างก็อาจจะไม่เอามาจากร้านค้า เป็นการเปิดตลาด ให้พ่อค้านำสินค้าทางการเกษตร หรือว่าเกษตรกรนำมาขายเองในตลาด อาจจะเปิดตลาดวันเสาร์ วันอาทิตย์ ให้มากขึ้น มันจะได้ลดภาระในเรื่องการขนส่ง และราคาก็สามารถกำหนดขึ้นเองได้ ช่วยยกระดับรายได้ให้กับประชาชน ให้กับเกษตรกรหน่อยนะครับ

บางท่านอาจจะมองว่า คสช.ดูแลข้าราชการอย่างเดียวหรือไง ผมเรียนว่า ความเร่งด่วนหนึ่งก็คือประชาชนนะครับ สำหรับในเรื่องของทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นรายได้น้อย รายได้ปานกลาง ประชาชน เกษตรกร เราดูแลก่อน ข้าราชการเราก็จะมุ่งดูแลข้าราชการชั้นผู้น้อยที่มีรายได้น้อย โดยเฉพาะน้อยกว่าอัตราแรงงานขั้้นต่ำ หรือต่ำกว่า 9,000 บาท เราจะพยายามแก้เพิ่มไปเรื่อยๆ ทั้งนี้ ก็ต้องสอดคล้องกัน มีความสมดุลกับทั้งประชาชนและข้าราชการ

ในส่วนของการลงทุนภาคเอกชน วันนี้ยังคงเติบโตได้ช้า การนำเข้าสินค้าทุน จะนำมาผลิตในประเทศต่อ อย่างน้อยการใช้กำลังในการผลิตยังอยู่ในระดับต่ำ ยังใช้ไม่เต็มขีดความสามารถ โรงงานเล็กๆบางโรงงานก็ยังขยายไม่ได้ ฉะนั้นรัฐจะต้องร่วมมือกับภาคเอกชน ทั้งธุรกิจขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ช่วยกันคิดโดยเร็วว่าจะร่วมมือกันอย่างไร จะทำให้การลงทุนเพิ่มขึ้นได้อย่างไร ภาคเอกชนก็ต้องร่วมมือกับเรา รวมกลุ่มช่วยเหลือซึ่งกันและกันก่อน ถ้ากระจุกตัวกันแต่เพียงในกลุ่ม หรือในพวกตัวเอง พวกพ้องเดียวกัน มันก็ได้แต่กลุ่มเล็กๆนะครับ แล้วที่เหลือเขาก็ลำบากนะ แล้วก็ต้องล้มละลายกันไป ฉะนั้นถึงเวลาต้องช่วยกัน

การเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐวิสาหกิจวันนี้ มีความโปร่งใสมากขึ้น มีการตรวจสอบ การเรียกรับผลประโยชน์น้อยลง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยากจะให้รีบดำเนินการเบิกจ่ายให้เร็วเพื่อทำให้เกิดความโปร่งใส หากทำช้าเกินไป เสร็จช้า เบิกเงินออกได้ช้า มันก็มีผลกระทบกับเศรษฐกิจโดยรวม ทุกรัฐวิสาหกิจต้องเร่งขับเคลื่อนตรงนี้ให้ได้ แต่ขอให้โปร่งใส รวดเร็ว ไม่ต้องการให้ชะลอตัวมากนัก ถ้าทุกคนไม่กล้าทำมันก็เดินไปไม่ได้ ถ้าบริสุทธิ์ใจตรวจสอบได้ ไม่มีผลประโยชน์ ไม่ได้ให้ใคร ไม่เห็นต้องกลัวอะไรเลย ท่านก็ดำเนินการให้ได้เร็วที่สุด โครงการขนาดเล็ก ขนาดย่อม ที่มีมูลค่าไม่สูงมากนัก ให้เร่งดำเนินการตั้งแต่เริ่มต้นปีงบประมาณ เพราะจะเป็นการกระจายเม็ดเงินลงสู่ชนบทให้ได้โดยเร็ว มีประชาชนได้รับผลประโยชน์ทั้งโดยตรงและโดยอ้อมให้มากที่สุด ขอย้ำตรงนี้ อยากจะให้ทุกกระทรวง ทบวง กรมนั้น คือ คสช.จะไม่ปล่อยให้มีอิสระเสรีในการว่าจะทำโครงการกู้อะไรก็ได้ ห้วงแรกๆ ไตรมาสแรก ตั้งแต่ตุลาฯ เป็นต้นไป ท่านต้องพยายามเอาเม็ดเงินออกมาสู่ในพื้นที่ให้ได้ โดยต้องโปร่งใสตั้งแต่ปีงบประมาณไป

เพราะฉะนั้นในห้วง 3 เดือนๆ รายไตรมาสก็เช่นเดียวกัน จะให้สภาพัฒน์ดูแลในเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นท่านทำโครงการให้มันเหมาะสมกับสถานการณ์ด้วย ในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรม หรือ บีโอไอ เร่งส่งเสริมให้มีการลงทุนภาคเอกชนให้มากขึ้น โดยกำหนดเป็นเซ็ตเตอร์ ขยายการลงทุนทั้งในและนอกพื้นที่นิคม จริงๆ แล้วผมอยากให้ขยายไปนอกนิคมบ้าง คงไม่ต้องใช้ขนาดใหญ่มาก เป็นโรงงานขนาดเล็กบ้าง โรงงานขนาดย่อม ที่ใช้แรงงานมากๆ หน่อย และปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีที่ตกรุ่นให้ได้โดยเร็ว เราก็มีการส่งเสริมทุกอย่าง ลองเข้าไปติดต่อในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้สั่งการไปหมดแล้วนะครับ

สำหรับการส่งเสริมการวิจัย และการพัฒนา ขอให้ทุกหน่วยงานที่มีงบเหล่านี้ แม้กระทั่งภาคเอกชนก็ตาม ขอให้กำหนดให้ตรงตามที่ต้องการว่า เราต้องการอะไร เราอย่าไปส่งเสริมทุนวิจัยในเรื่องที่ไม่จำเป็น หรือเพื่อเพิ่มวิทยฐานะของตัวเอง หรือของใครก็แล้วแต่ เพราะฉะนั้นจะต้องมีผลสัมฤทธิ์ต่อประเทศชาติอย่างแท้จริงเท่านั้นนะครับ ในเรื่องของการสนับสนุนทุนต่างๆ เพราะฉะนั้นจะต้องกำหนดกรอบเรื่องที่จะอนุมัติทุนวิจัยให้ชัดเจนว่า ประเทศเราหรือเราเองนั้นต้องการอะไร ขาดแคลนอะไร ไม่ต้องไปเริ่มต้นใหม่ เอาของเขามา ดูตัวอย่างมา ทำให้เป็นใช้สติปัญญาคนไทยทำ ทำให้มันดีขึ้น ให้มันใช้งานได้ทนขึ้น และมีแบรนด์ของเรา มีแบรนด์ของไทยในอนาคต ถ้าเราไม่ทำอย่างนี้มันไปไม่ได้ เราไปคิดอะไรใหม่มันไม่ได้หมดหรอกครับ บางอย่างมันทำเลียนแบบก็ได้ แล้วนำเขามาเป็นแนวทาง และเราก็ผลิตใหม่ออกไป อย่าไปละเมิดลิขสิทธิ์เขาก็แล้วกัน

ในเรื่องของการจัดทำงบประมาณปี 58 ต้องพร้อมเบิกจ่ายโดยเร็ว ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ เพราะฉะนั้นงบที่ผมคิดว่า จะสร้างงานได้มากๆ คืองบการซ่อมแซม การก่อสร้างสถานที่ราชการ โรงพยาบาล และอุปกรณ์ต่างๆ ให้เร่งรัดทำในปี 58 ตั้งแต่ต้นปีไป มีโครงการจ้างงานบัณฑิตจบใหม่ให้ทั่วถึง หรือช่างวิชาชีพจบใหม่ให้มาก เพื่อลดการว่างงาน เพราะฉะนั้นถ้าเราทำได้อย่างนี้มันจะมีงาน มีเงิน สำหรับไปเรียนหนังสือต่อ มีการฝึกความชำนาญ ทักษะเพิ่มเติม Training Skill มีเบี้ยเลี้ยงนิดหน่อย มีเงินเดือน หรือเงินค่าตอบแทนอะไรก็ได้ที่ไปให้แก่เด็กเขา ขอให้กระจายไปถึงคนที่ลำบากจริงๆ คนที่ไม่มีทุนการศึกษา ยากจน ไม่ใช่คนรวยไปเอาทุนมา ไอ้คนจนไม่ได้ทุน ผมยังไม่เคยไปลดอะไรเลยนะครับ มีบางคนบอกว่า ผมจะไปลดเงินกู้ยืม ผมเพียงบอกว่า หาทางอย่างไรให้มันได้ทั่วถึง ทำอย่างไรมันจะ... เป็นไปได้ไหมวันหน้าในอนาคตก็ไม่ต้องกู้ยืม นี่มันเป็นปัญหา เพราะถ้าเราใช้เงินไปอีกทางมากเกินไป ทางนี้ก็ไม่ได้ แล้วพวกสาธารณสุขพื้นฐานก็ไปดูแลเขาไม่ได้อีก เพราะฉะนั้นถ้าทุกคนเอาทุกอย่างพร้อมๆ กัน ไม่มีทางได้หรอกครับ รัฐทำไม่ได้แน่นอน เพราะฉะนั้นต้องมากำหนดให้ชัดเจนว่าแต่ละอันเราต้องการอะไร ในเรื่องของการขุดลอกแหล่งน้ำ อ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก หรือทุกกิจกรรมอันนี้ก็ได้ให้สภาพัฒน์ฯ กับสำนักงบประมาณไปเร่งตรวจสอบ เร่งรัดแผนการใช้จ่าย คัดแยก อันไหนที่ถือว่าเป็นนโยบาย คสช. หรือรัฐบาลโดยเร่งด่วนก็ต้องดำเนินการตั้งแต่ปีงบประมาณเป็นต้นไป ขอเรียนให้ทุกกระทรวงทบวงกรมที่เป็นเจ้าของงบประมาณทราบด้วย ให้ทำให้เป็นไปตามนโยบายนี้ด้วย

โครงการที่เกี่ยวกับอาหารการแปรรูป หรือว่ายารักษาโรค การของใบอนุญาตจาก อย. สมอ. ต้องช่วยทำให้มันเร็วขึ้นกว่าเดิม มีประสิทธภาพ ตอนนี้ก็มีเสียงเข้ามามากมายว่า มีปัญหาเรื่องช้า จุกจิก ไม่มีข้อมูลชัดเจนต้องทำอะไรยังไงก็อย่าให้เขาบ่นเลยครับ ส่วนราชการหรือส่วนทีเกี่ยวข้องไปช่วยกันแก้ตรงนี้หน่อย บางคนเขาบอกว่า ถ้าไม่มีเส้นมีสายก็ทำไม่ได้ หรือต้องไปจ่ายเงินใต้โต๊ะ ทำให้ผู้ประกอบการมันเดินต่อไปไม่ได้ บางอันมันค้างเป็นปีๆ ทั้งๆ ที่เขามีขีดความสามารถในการผลิตการทำ ฝากดูแลเขาด้วย

โครงการอะไรก็ตามที่ติดอีเอ การทำประชาพิจารณ์ต้องหาทางเร่งให้เร็วขึ้น อาจต้องมีการเปลี่ยนพื้นที่มาใช้พื้นที่อื่นๆ ลดขนาดลง และไม่มีผลกระทบต่อมลภาวะ ที่มันไม่ติดปัญหาอีเอ ไปใช้ที่ราชพัสดุได้ไหม พื้นที่ป่าเสื่อมโทรมได้ไหม หรื่ออื่นๆ ที่มันไม่ได้ใช้ประโยชน์ในปัจจุบัน อย่างน้อยมันก็เกิดขึ้นได้ มันจะเล็กหน่อยก็เกิดใช่ไหม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการทำเหมือนกับแก้มลิง ถ้าเราไปกำหนดในพื้นที่ประชาชนอยู่มันก็ไม่ได้อีก ผมว่ามันน่าจะมีวิธีการ ลองไปหาทางดู ประชาชนก็ต้องเข้าใจอะไรที่เสียสละกันได้ก็ต้องเสียสละกัน ไม่งั้นต่างคนต่างเรียกร้องแต่ทำไรไม่ได้เลยมันก็เกิดขึ้นไม่ได้ เกิดไม่ได้มันก็ลำบาก เดือดร้อนไปทั้งหมด

ความร่วมมือการบูรณาการภาครัฐต้องเข้มแข็ง ทุกกระทรงต้องร่วมมือกัน ร่วมรับผิดชอบ ไม่ทำอะไรเป็นรายกระทรวงอย่างเดียว ให้มีการพบปะประชุมร่วมกันแสวงหาความร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้วยกัน ก็อย่างที่เคยยกตัวอย่างไปแล้ว เช่น การทำโครงการเกี่ยวกับเรื่องไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ ที่ต้องฝังใต้ดิน ก็คุยกันสิครับ ท่านจะทำกันเมื่อไหร่ ท่านก็นัดกันไปทำ เอาแผนงานโครงการมาดูกัน แล้วก็ทำทีเดียว ไม่ใช่ขุดที 3 ครั้ง 4 ครั้ง กว่าจะทำเสร็จ มันก็ทำให้การจราจรติดขัด ยกตัวอย่างง่ายๆนะครับ ฉะนั้นงานกลุ่มเดียวกัน เราไม่สามารถจะแยกงบประมาณ แล้วแยกสายงาน เราคงไม่อนุมัตินะครับ ท่านก็ทำให้มันเรียบร้อย ก็คอยดูด้วยแล้วกัน ช่วยกันดู ช่วยกันแจ้งมาด้วย

การเร่งส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการท่องเที่ยวเป็นรายได้หลักของประเทศไทย เป็นแสนล้านในแต่ละปี ต้องเร่งกระทำโดยเร็ว ทำงานเชิงรุกให้มากขึ้น วันนี้สถานการณ์ไม่ปกติอย่างนี้ ท่านก็ต้องประชาสัมพันธ์ในเรื่องดีๆ สื่อก็ต้องพูดถึงในสิ่งดีๆ ของประเทศไทยบ้าง ไม่ใช่เอาแต่สิ่งร้ายๆมาพูดทุกวัน ตรงนั้นตรงนี้เหตุการณ์ร้ายแรงทุกวัน แต่เรื่องดีๆท่านไม่พูด อันนี้ผมว่าทำให้มีผลเสียนะครับ ผมไม่ได้ไปโทษท่านหรอก เพียงแต่ว่าท่านต้องช่วยเรา ท่านจะเสนอข้อเท็จจริงอะไรก็แล้วแต่ ท่านเสนอไป ผมไม่ห้าม แต่อะไรก็ตามที่เป็นเรื่องดีๆ ท่านก็กรุณาพุดถึงบ้าง คนจะได้คลายความวิตกกังวล มาเที่ยวบ้านเรา ยกตัวอย่างเช่น การประกันชีวิต เวลาต่างชาติมาท่องเที่ยว ผมก็บอกหลายครั้งแล้ว ถึงแม้ว่า บริษัทประกันบางบริษัทอาจจะไม่รับ แต่เรามีกองทุนไงครับ ประกันภัยให้ ตั้งไว้ตั้ง 200 ล้านนะครับ ถ้าใครได้รับการบาดเจ็บ การสูญเสีย หรือเสียหาย เราก็จะดูแล ใช้กองทุนอันนี้ของรัฐบาลดูแลให้เพื่อเป็นการทดแทนในช่วงนี้นะครับ

ฉะนั้นเราต้องช่วยกันทำการตลาดของด้านท่องเที่ยวให้มากขึ้น ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชนทุกคนที่มีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศ ก็มีการเดินทางกันอยู่แล้ว ฉะนั้นก็แลกเปลี่ยนกันซะ ให้ข้อมูล ว่ามันเป็นอย่างนี้นะ ไม่ใช่ไปพูดจาให้ร้ายกัน ยังขัดแย้งกันอยู่ วันนี้มันยังไม่มีความขัดแย้งที่เปิดเผยออกมา ก็เรื่องอื่นก็ว่ากันไป แต่วันนี้บ้านเมืองมันดีขึ้น ฉะนั้นบ้านเราพร้อมในธุรกิจการให้บริการอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวที่งดงาม คนไทยที่เป็นมิตร มีจำนวนมาก ทั้งไกด์ ร้านค้า ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ขอว่าอย่าเอาเปรียบลูกค้าเลยนะครับ อย่าหลอกลวงลูกค้า ขายของเกินราคา ของปลอม อันนี้ต้องซื่อสัตย์นะครับ ต้องคิดว่าลูกค้าคือนายเรา นายเราเลี้ยงดูเรา ทำให้เรามีรายได้เข้าประเทศมากขึ้น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องมันจะได้ตามไป ขยับตัวขึ้นได้บ้าง

เรื่องของเกษตรกรที่ผลผลิต หรือรายได้ตกต่ำ มีหลายสาเหตุด้วยกัน ฉะนั้นผมพูดหลายครั้งแล้วว่า การที่จะร้องให้รัฐอุดหนุนเงินอย่างเดียวตลอดไปมันคงไม่ได้หรอกครับ เราต้องเริ่ม เราต้องแก้ไขแล้ว โครงการประชานิยมวันนี้ก็ทำไม่ได้ เพราะมันมีผลเสียหายระยะยาวนะครับ เราทำให้การพัฒนาประเทศด้านอื่นๆ ไปไม่ได้เลย ฉะนั้นการช่วยเหลืออื่นๆ ทีเราประกาศไปแล้ว เช่นการลดต้นทุน การเช่านา ตลาดกลาง การซื้อขายที่เป็นธรรมของพ่อค้าคนกลางอันนี้สำคัญที่สุด พ่อค้าคนกลางอย่าเอากำไรมากเลยครับ เห็นใจคนจนเขาบ้าง ท่านก็รวยมาเยอะแล้ว ที่ผ่านมา ไม่ว่ากัน จากวันนี้เป็นต้นไปขอร้องพ่อค้าคนกลางทั้งหมด อย่าให้เราต้องไปบังคับท่าน ฉะนั้นพ่อค้าคนกลางหรือธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ต้องเสียสละ ช่วยรัฐ ช่วยชาติ อย่างที่ผมพูดไปแล้วตอนต้น ขึ้นป้ายเลย ว่าร้านนี้ช่วยชาติ จะลดราคาถูก ไม่ปลอมปน ขายตามราคา คุณภาพดี ไม่หลอกลวงกันอีกต่อไป ประชาชนพี่น้องเกษตรกรก็ปรบมือให้ด้วยซ้ำไป เขาได้จำว่า ร้านนี้ ตระกูลนี้ ชื่อนี้ ได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่อนาคตนะครับ ขอร้อง

เรื่องของความมั่นคง เรื่องของการปรองดองปฏิรูป ก็ดำเนินการไปอยู่แล้วในวันนี้ เริ่มรับสมัครใช่ไหมครับ วันที่ 14 ก็มาสมัครช่วยกัน แล้วอะไรที่มันพูดคุยกันได้ เรื่องไม่เป็นเรื่องที่จะทะเลาะกัน ก็หยุดซะก่อน ไปหาเรื่องที่มันทำแล้วเกิดประโยชน์ในอนาคต ยั่งยืน เอาประเทศชาติเป็นหลักไว้ก่อน เรื่องการเมือง เรื่องผลประโยชน์ เรื่องอะไรต่างๆ ก็แล้วแต่ มันทำให้ประเทศไทยล้าหลังเป็นเวลานาน ความขัดแย้งเกิดขึ้นมาแบบทับซ้อน หลายเรื่อง

สรุปสถานภาพคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับรายงานว่ามีทั้งหมด 70 คดี เกี่ยวกับความมั่นคง เป็นคดีดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว 7 คดี และมีความเห็นสั่งฟ้อง ส่งสำนวนให้พนักงานตำรวจ อัยการ แล้ว จำนวนผู้ต้องหาทั้งสิ้น 148 คน จับกุมแล้ว 116 คน หลบหนีหมายจับ 32 คน นี่เป็นคดีความมั่นคง คดีอาวุธสงครามนะครับ

ในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น คสช.ได้ให้การต้อนรับผู้แทนจากประเทศต่างๆ ที่เข้าพบในโอกาสเยือนประเทศไทย เช่น นายเคย์ ราลา ซานานา กุสเมา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและความมั่นคง สาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต นายซาโต คิลมาน ลิฟตูวาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและการค้า ประเทศวานูอาตู พร้อมคณะ นายเชอริ่ง ต๊อบเกย์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน พล.ต.สุวอน เลืองบุนมี หัวหน้ากรมใหญ่เสนาธิการ กองทัพประชาชนลาว และคณะ โดยได้หารือกันในประเด็นความร่วมมือในด้านต่างๆ ทั้งในด้านความมั่นคง และด้านเศรษฐกิจด้วย ทุกท่านได้แสดงความชื่นชมในการทำงาน และให้กำลังใจประเทศไทย ในการทำงานของ คสช.ให้กำลังใจในการที่จะขับเคลื่อน เดินหน้าประเทศไทยไปให้มากขึ้น เพื่อจะพัฒนาความร่วมมือระหว่างกันของทุกประเทศในโลกนี้ให้มากขึ้นต่อไป

ในเรื่องของสังคมจิตวิทยา ในเรื่องของการรับน้องสถาบันการศึกษา กลางเดือนสิงหาคม ขอให้อยู่ในกรอบกติกาที่กำหนด ข้อสำคัญคือไม่เป็นอันตราย ไม่โลดโผน หรือเป็นการบีบบังคับรุ่นน้อง ท่านไม่ใช่หลักสูตรทหารนะครับ แม้กระทั่งหลักสูตรทหาร วันนี้ผมยังให้ปรับปรุงไปแล้วเลย ให้ลดระดับลง ท่านต้องให้รุ่นน้องเคารพรักรุ่นพี่ด้วยความศรัทธาในการกระทำที่ดีงาม เป็นตัวอย่างให้เขา อะไรที่ไม่ดี อะไรที่เราเคยถูกกระทำมาสมัยเราเรียน รุ่นพี่เคยทำไว้ เราก็ไม่ชอบ เพราะฉะนั้นอะไรที่เราไม่ชอบ อะไรที่ไม่ดี เราก็อย่าทำอีก รุ่นน้อง ทำให้เขามีความอบอุ่น พี่รักน้องนะ การทำร้ายร่างกาย การทำให้เกิดความเสี่ยงอันตรายต่อการบาดเจ็บ สูญเสีย แล้วเขาก็กลัวไปหมด เรียนหนังสือก็เรียนไม่ได้ ไม่เห็นเกิดประโยชน์อะไรเลยนะครับ ทหารมันก็มีอีกอย่างหนึ่ง เป็นเรื่องของหลักสูตรทางทหาร ก็ต้องฝึกให้เข้มแข็งทั้งทางร่างกาย จิตใจ เราก็ยังคงต้องลดระดับลงให้มันอยู่ในกรอบ ไม่เกิดอันตราย ของท่านอย่าทำเลย มันคนละแบบกัน

การนำรุ่นน้องดื่มสุราจนเมามาย หรือว่าหัดยาเสพติด โดยเฉพาะบังคับทั้งนักศึกษารุ่นน้องชาย-หญิง มันไม่สมควร ห้ามกระทำโดยเด็ดขาดนะครับ แล้วถ้าหากว่ามีเรื่องมีราวขึ้นมาก็ต้องถูกลงโทษ

เรื่องต่อไป เรื่องเด็กแว้น รถซิ่ง ผมเคยพูดไปแล้วนะ เริ่มได้รับรายงานเข้ามาอีกแล้ว มีการแข่งขันกันอีกบนถนนหลายสาย สายใหญ่ๆ ในช่วงกลางดึก แม้แต่ถนนกลางเมือง เช่น พระราม 4 คลองเตย ก็ยังมีกลุ่มเด็กแว้นอออกซิ่งอยู่บ่อยครั้ง ชีวิตมีค่านะครับ ผมไม่เห็นประโยชน์ที่จะมาแข่งกัน วิ่งกัน แล้วก็เป็นบ่อเกิดหลายอย่างนะครับ เป็นภาระเจ้าหน้าที่ ก็สนุกแป๊บเดียว เดี๋ยวก็ต้องไปโรงพัก หรือไม่ก็ตาย ได้รับบาดเจ็บ เพราะฉะนั้นผมจะสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องกำกับดูแล ตรวจตรา เข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังในบุคคลเหล่านี้

ข้อห่วงใยที่ผมมีอยู่มากในขณะนี้ คือเรื่องของการปลูกข้าว หรือพืชที่มีราคาตกต่ำ ด้วยปัญหาเรื่องดีมานด์ ซัปพลาย ไม่สมดุลกัน เพราะฉะนั้นเราจะต้องมีการลดวงรอบในการปลูกพืชลง เช่น การปลูกข้าว ปีหนึ่งบางพื้นที่อาจได้ 4 ครั้ง 3 ครั้ง 2 ครั้ง ต้องลดลงนะครับ อย่าไปเอาปริมาณอย่างเดียว เพราะว่าน้ำมันไม่พอนะครับ น้ำไม่พอ ปลูกกี่ครั้งก็ตายหมด แล้วปัญหาก็กลับมาที่รัฐบาล เพราะฉะนั้นสิ่งต่างๆ เหล่านี้ เรื่องการปลูกข้าวเหมือนกัน พระเจ้าอยู่หัยเคยรับสั่งไว้แล้วว่า ทำยังไงเราจะเก็บน้ำไว้ใช้ได้มากขึ้นในนาข้าว ท่านเคยรับสั่งไว้แล้วว่า ทำคันนาให้มันสูงขึ้น ให้มันกว้างขึ้น เราไปลดขนาดคันนาลง เตี้ยลง แคบลง เพื่อจะปลูกข้าวได้มากขึ้น แค่นั้นเอง แต่มันเก็บน้ำได้น้อยลง เราทำให้มันสูงเหมือนเดิม เหมือนท่านรับสั่งไว้เดิม ให้มันกว้างหน่อย มันจะได้เป็นทางเดินก็ได้ ปลูกต้นไม้อะไรก็ได้ ให้มันขึ้นออกดอกออกผล ให้กิน ให้อยู่ ให้ใช้ ให้ขาย ปลูกมะละกอ ปลูกอะไรก็ได้ มันอาจจะบังร่มนิดหน่อยช่วงแรก ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย ยังไงมันก็ไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว วันนี้เราต้องใช้ทุกพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ปลูกอะไร แตง บวบ อะไรต่างๆ ก็ได้ ตามคันนา แล้วเราก็เก็บกินไประหว่างที่ข้าวยังไม่ออก หรือเอาไปขาย ถ้ามันเหลือ ทำไมไม่คิดอย่างนั้น เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกคนเตรียมการเรื่องพวกนี้ ปีนี้จากสถิติที่รายงานมาน้ำจะน้อยลง ฝนตกน้อยลง การเก็บกักน้ำในเขื่อนน้อยลง การกระจายน้ำเรียกว่าอะไรปล่อยน้ำมาจะน้อยลง เพราะว่าน้ำมันน้อยทำไงได้ ตอนนี้ผมก็ภาวนาให้ฝนตกมากขึ้น แล้วก็ให้หน่วยฝนหลวงทำให้หลายๆ พื้นที่ก็มีตกบ้างไม่ตกบ้างก็ขึ้นอยู่กับความชื้น ขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของป่าอีกอันนี้ก็คงเข้าใจอยู่แล้ว

เรื่องการปลูกผักออร์แกนิกขณะนี้ผมว่ามันเป็นราคาดี ถ้าท่านปลูกผักออร์แกนิกได้ ผักออร์แกนิกคือผักที่ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ราคาสูงมาก ทำผักสลัด ไม่พอขาย วันนี้ปลูกไม่พอขาย อยากให้ลองเปลี่ยนแปลงนาเป็นแปลงผักบ้างได้ไหม ใช้น้ำให้น้อยลง ขายราคาสูงขึ้น หรือไม่ก็ปลูกถั่ว ปลูกพืชหมุนเวียนอื่นๆ ที่มีราคา ถ้าปลูกข้าวอย่างเดียวมันอาจราคาตก เพราะมันเยอะ ข้าวเยอะ เพราะฉะนั้นการปลูกผลไม้ผมพูดไปแล้วในคันนา ผักออร์แกนิค แต่ท่านต้องรวมกลุ่มกันให้ได้ ถ้าหากว่าจะทำให้มันดีขึ้น ไม่ต้องพึงพ่อค้าคนกลางมากนัก ถ้ารวมกลุ่มกันได้ จัดระบบการขนส่งเอง ทั้งในพื้นที่นอกพื้นที่ เปิดตลาดเอง ขายสินค้าราคาถูก อย่างน้อยก็เป็นการเผื่อแผ่แบ่งปัน แล้วก็ยกระดับราคา ใครก็มากำหนดราคาต่ำท่านไม่ได้ ถ้าท่านขายได้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอะไรก็ตามที่มันเกินความต้องการของตลาดราคามันจะถูก ถูกกดราคาบาง รัฐก็ให้ไม่ไหวให้ตามราคา เพราะให้สูงเกินไปจะไปขายใครก็ขายไม่ได้ เงินก็ต้องหายไปอีก เพราะฉะนั้นรัฐขณะนี้งบลงทุนในประเทศน้อยมาก 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง มันควรจะ 20-30 มันไม่ได้หรอก ถ้าเรายังอุดหนุน สรุปว่าก็ทั้งหมดงบประมาณประจำปีก็เป็นเรื่องของการอุดหนุน เป็นเรื่องของการใช้หนี้ เป็นเรื่องของการชำระดอกเบี้ย ก็ไม่ต้องทำไรแล้ว อีกหน่อยก็ไม่ต้องใช้จ่ายอะไรกันเลยในประเทศนี้ ต้องช่วยเราต้องช่วยกัน ต่างคนต่างต้องช่วยซึ่งกันและกัน อย่าไปพึ่งพ่อค้าคนกลางเขานัก พ่อค้าคนกลางดีๆ ก็มี ผมอยากจะฝากพ่อค้าคนกลางว่า ช่วยกันดูแลคนไทยด้วยกัน อย่าเอาเปรียบกันอีกเลย มันหลายต่อหลายทอดทั้งขนส่งด้วย พ่อค้าคนกลางด้วย มีเงินทุนไม่มีเงินทุน เพราะแต่ละคนเขาก็รวมกลุ่มสู้กับพ่อค้าคนกลางให้ได้ ถ้าท่านไม่ร่วมทุน ยังขายตัดราคากันเองมันก็ไม่ได้อีก ช่วยกัน เกษตรกรต้องเข้มแข็งด้วยตัวเอง เรื่องความรู้เรื่องการเกษตรสมัยใหม่ เราพยายามทั้งเรียนรู้อย่าไปพึ่งธรรมชาติอย่างเดียว อันนี้จะให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งกระจายความรู้ออกไปจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ จัดวิทยากรไปแนะนำหาชาวบ้าน ถ้ารอให้เขามาถามอย่างเดียว มันอาจจะไม่มีเวลา เขาไม่เข้าใจ เราก็จัดไปสิครับ เกษตรกร 17 อำเภอ 7 จังหวัดเขามีอยู่แล้ว อยากให้กลับมาทบทวนเรื่องพวกนี้ และให้คนที่มีคุณภาพไปสอนเขา ไปสอนชาวบ้าน หรือไม่ก็ไปรวมกลุ่มกับชาวบ้านเยอะๆ และจะได้ไปขับเคลื่อนด้วยกันทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ปราชญ์ชาวบ้าน ผมว่ามันจะดีนะ อย่าปล่อยให้รัฐอย่างเดียวไปเดิน หรือรัฐก็ไม่เดิน ชาวบ้านก็ทำกันไป แล้วมันก็เป็นอย่างนี้ ปัญหามันหมักหมมกันอยู่แบบนี้

เพราะฉะนั้นขอให้ทำตามนโยบายนี้ด้วย รวมทั้งเรื่องเกษตรใหม่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทำอย่างไรให้มันเป็นรูปธรรม การใช้พื้นที่แต่น้อยทำประโยชน์ให้ได้มาก เพิ่มมูลค่าให้ได้ ผลผลิตต่อไร่ให้ได้มากขึ้น ศูนย์ข้อมูลดำรงธรรมที่ผมบอกไปแล้ว ต้องทำหลายเรื่อง ทั้งประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูล ติดต่อราชการต่างๆ ทั้งหมด ศูนย์ข้อมูลดำรงธรรมทำให้ได้ กระทรวงมหาดไทย แต่ต้องขอดูจากกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ต่างๆ เป็นคนให้ข้อมูลไปด้วย และเชื่อมต่อกับพื้นที่ให้ได้ ไม่ว่าจะเรื่องของราคา ต้นทุนอะไรต่างๆ ที่เรากำหนดไปแล้ว ถ้าไม่มีคนติดตามกับดูแลมันก็ไม่ได้เหมือนเดิม ก็สั่งไป ได้แต่สั่ง ถ้าสั่งได้ลมก็ได้ลมกลับมา เพราะฉะนั้นต้องช่วยกัน ทุกกระทรวง ทบวง กรมอย่าคิดว่าเป็นสั่งไปแล้วก็จบแค่นั้นไม่ได้ ต้องติดตามกำกับดูแล

เรื่องขยะเป็นปัญหาสำคัญในทุกพื้นที่ วันนี้ผมเคยพูดไปหลายครั้งแล้ว เราต้องช่วยกันดูแลทั้งรัฐ และเอกชน ประชาชน ในเรื่องของความรับผิดชอบต่อขยะ การใช้วัสดุที่มันเป็นขยะยาวนานเช่น พลาสติกต้องลดลงบ้าง หรือไม่ก็ต้องมีมาตรการในการควบคุม ในการทิ้ง ในการทำลาย เพราะมันอยู่หลายสิบปี สถานที่ทิ้งขยะของรัฐ ในการขนขยะอะไรต่างๆ เหล่านี้ ถังขยะแยกขยะ ต้องเร่งดำเนินการนะครับ ถ้าเริ่มได้ปีนี้ผมอยากให้เริ่มเลย เอกชนมาช่วยครับ บริจาคอะไรต่างๆ ก็ว่ามา การประกอบการบ่อขยะของเอกชนก็ต้องมีคุณภาพ ไม่ใช่ประมูลไปแล้วก็ควบคุมไม่ได้ รักษาไม่ได้ และทำให้เกิดไฟไหม้ เพลิงไหม้ มันจะต้องมีการควบคุมต้องรับผิดชอบ กรณีที่เป็นเอกชน เพราะท่านได้รายได้ไปแล้ว ท่านต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อประชาชนโดยรวมด้วย อย่าให้รัฐต้องดูแลทุกเรื่องเลย การจุดไฟเผาขยะ บ่อขยะ ติดไฟอะไรเหล่านี้เกิดควันต่างๆ มากมายเสียหายนะครับ

เรื่องการศึกษา ผมพยายามพูดหลายครั้ง ก็ไม่ใช่ไปละเมิดท่าน ไม่ได้ไปละเมิดกระทรวงศึกษาฯ หรือทุกคนในบุคลากรทางการศึกษา คุณแม่ผมเป็นครูนะ เพราะฉะนั้นผมอาจจะติดมาบ้าง แต่ครูอันนั้นกับครูอันนี้อาจจะคนละสมัยกัน ผมก็เป็นห่วงนะ อนาคตของชาติอยู่ที่การศึกษา ผมคิดว่าคนทั้งประเทศเข้าใจ แต่ท่านจะทำอย่างไร เราจะดูได้ทั้งระบบอย่างไรตั้งแต่เล็กจนโตให้มันต่อเนื่องกันทั้ง การศึกษาพื้นฐาน การศึกษาต่อ อาชีพ รายได้ ทุกหน่วยงานทุกกระทรวง ทบวง กรม ก็ต้องช่วยกระทรวงศึกษาฯ ด้วยว่า เขาผลิตออกมาแล้วจะทำอย่างไร จะรับเข้าไปทำงานอย่างไร มีความร่วมมือระหว่างกัน มีโครงการร่วมกัน บรรจุเข้าเป็นข้าราชการ หรืออะไรก็แล้วแต่หางานให้เขาทำ ไม่ใช่ไป ไอ้ที่เขาเรียนมาเขาจบมาไม่จ้าง ไปจ้างใครก็ไม่รู้มา คนจะได้เข้าสู่ระบบการศึกษามากขึ้น เพราะมีงานทำ แต่ถ้าเราไปจ้างคนที่ไม่มีงานทำ ไม่เรียนหนังสือ มันก็ได้อย่างเสียอย่าง ผมก็ไม่อยากให้ไปยกเลิกทางโน้นหรอก ลำบากเหมือนกัน แต่ทำอย่างไรทำให้เกิดการสมดุลกันระหว่างนี้ คนที่ไม่เรียนหนังสือ คนเรียนหนังสือ จะทำอย่างไรให้ทั้งสองฝ่ายได้รับการดูแลจากพวกเรา

เรื่องตำราเด็กเหมือนกัน วันนี้มันก็ทันสมัยนะ ผมก็เข้าใจ วันนั้นผมเห็นตำราเด็ก ป.1 เอามาให้อ่าน ผมก็ว่ายากไปนะ บางอันผมตอบไม่ได้เหมือนกัน เด็ก ป.1 นะครับ วิชาสังคมอะไรสักอย่าง ต้องเขียนคำตอบยาวๆ เด็ก ป.1 ผมว่ายังเขียนหนังสือไม่เก่งเลยนะ ต้องเขียนคำยาวๆผมว่าลำบาก ต้องบูชาพระรัตนตรัยก่อนนอน ผมยังเขียนไม่ได้เลย ป.1 ผมยังไม่รู้เรื่องเลยตอนเด็กๆ มันยากไปหรือเปล่า ไปทบทวนดูซิ ตำราที่เอามาให้ก็ต้องเขียนต่อลงไปในนั้นไง แล้วลายมือเด็กๆเขียนมันยังไม่เป็นตัวอะไรเลยนะ นั่นคือตำราที่เขาส่งมาให้ผมดู คือลูกเขาเขียนมา ยังเขียนหนังสือยังไม่เป็นตัวเลย แต่ตอบคำถามต้องเขียนยาวขนาดนี้ ต้องมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บางทีก็เป็นชื่อในวรรณคดีไทย จำได้ว่า กว่าจะเรียนเรื่องพวกนี้ผมก็โตแล้วนะ ก็ยังพอจำได้อยู่บ้าง

ก็ลองไปทบทวนดูแล้วกัน ถ้าว่าทำดีแล้ว ผมก็ไม่รู้จะว่าไงเหมือนกัน ถ้ามันยากเกินไป เด็กมันก็ไม่อยากเรียนหนังสือ ผมกลัวไง กลัวตอบไม่ได้ สอบไม่ได้ แล้วก็ไม่อยากเรียนหนังสือ เป็นสิ่งหนึ่ง ท่านต้องสร้างแรงจูงใจให้เด็กอยากเรียนหนังสือ เพราะเข้าใจง่าย จำง่าย ท่องง่าย แล้วเราค่อยไปเพิ่มระดับความง่ายเรื่อยๆ ทีละขั้นไป แล้วมันอาจจะต้องมีการ

คนเรามันถูกแยกอยู่แล้วระดับมันสมองไม่เท่ากันหรอก คนหนึ่งมันเรียนต่อได้ มันไปต่างประเทศได้ เป็นด็อกเตอร์ได้ อย่างอีกพวกก็เป็นด็อกเตอร์ไม่ได้ ท่านจะทำอย่างไรให้คนพื้นฐานเท่ากันก่อน แล้วถึงเวลาเขาจะรู้ตัวเขาเองว่าจะไปทางไหน ใครจะเลิกไม่เรียนต่อ จะไปทำงาน ไปเรียนหนังสือ ขึ้นอยู่กับฐานะพ่อแม่ด้วยนะ ฉะนั้นดูให้ครบระบบนะ ดูให้มันถึงข้างล่าง ถึงตำรา เอกสาร หลักสูตร กำกับดูแลครูทุกคนเสียสละอยู่แล้ว ผมก็เป็นห่วงครูนะครับ กำลังช่วยกันปรับแก้ในระยะที่ 2 การปฏิรูป ไม่ลืมครู ครูเป็นข้าราชการ เป็นแม่พิมพ์ของชาติ เป็นผู้เสียสละ ลำบากยากเข็ญอย่างไรก็อดทน วันนี้ถ้าท่านปรับวิธีการสอนของท่านให้ง่ายขึ้น เบาลง จะได้ดูแลเด็กให้มากขึ้น มีเวลาไปทำอะไรได้บ้าง เพราะท่านก็มีลูกเหมือนกัน ไม่ใช่สั่งสอนเด็กอย่างเดียว ถึงบ้านท่านก็ไม่ไหวแล้ว เหนื่อย หงุดหงิด เดี๋ยวต้องไปสอนพิเศษอีกเพื่อหารายได้มาเลี้ยงลูก โอ้ย มันพันกันไปหมด ดังนั้นต้องดูให้ครบทุกระบบ ทั้งครู ทั้งเด็ก ผู้ปกครอง ถ้า 3 คน พอใจกันทั้งหมด ประเทศมันก็ไปได้ การศึกษามันก็ดีขึ้นตามลำดับ ทำอย่างไรคนจะเข้าระบบการศึกษาให้มากขึ้น ไม่ใช่ผลักให้คนออกไปนอกระบบการศึกษา เลิกเรียนเพราะว่าเรียนไม่ไหว ไปดูใหม่

เรื่องใต้ พวกเราพยายามทำดีที่สุดแล้วนะครับ แต่อย่างไรก็ตาม ต้องเรียนไว้ว่าการต่อสู้อย่างไรต้องมีอยู่แน่นอน เพราะอีกฝ่ายเขายังไม่บรรลุวัตถุประสงค์เท่าที่ต้องการ ซึ่งเราก็พยายามจะสอบถามว่าต้องการอะไรอย่างไร จะให้เราทำอะไรอย่างไร ก็คุยกันอยู่ ในขณะนี้ก็อยากให้ประชาชนช่วยกันเฝ้าระวัง รวมกลุ่มกัน อย่าประมาทในการเดินทาง การใช้ชีวิตประจำวัน แล้วก็เจ้าหน้าที่ก็ต้องเข้มงวด ระมัดระวังในทุกภารกิจที่ออกเดินทาง คือไม่ใช่เฉพาะประชาชนอย่างเดียว ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ก็อันตรายเหมือนกัน ถ้าเรามีรูปแบบ ยุทธวิธี ให้เราเข้มเเข็ง มันก็จะลดการสูญเสียลงไปได้มากนะครับในทุกพื้นที่

เรื่องการพูดคุยนั้นก็กำลังประสานเพิ่มเติมกับมาเลเซียนะครับ ซึ่งก็รับว่าจะเป็นผู้อำนวยความสะดวกต่อไป แต่เราทำกรอบโครงสร้างใหม่ กำลังจะเอากรอบโครงสร้างไปหารืออีกทีหนึ่ง แต่ระหว่างนี้การพูดคุยต่างๆ ก็ยังคุยกันอยู่ ในทางลับ ในทางพื้นที่ มันมีการพูดคุยกันอยู่แล้ว โดยกองกำลังภาค 4 ส่วนหน้า โดย ศอ.บต. แต่คณะใหญ่ เนื่องจากรัฐบาลมีการเปลี่ยนแปลง ผมก็ให้มีการปรับรูปแบบกาพรูดคุยใหม่ ให้มันเป็นระบบให้มากขึ้น เพื่อจะแก้ปัญหาได้พร้อมๆกัน ในหลายๆเรื่อง ไม่ใช่คณะเดียวพูดกันมันก็ไม่จบหรอกครับ มันต้องพูดทั้งกฎหมาย ทั้งความรุนแรง ความเป็นธรรม ความชอบธรรม และเรื่องของจะอยู่กันอย่างไรในวันข้างหน้า ผมใช้คำว่า เป็นการพูดคุยสันติสุขนะครับ ไม่ใช่สันติภาพ ใช้คำว่าสันติภาพ เพื่อจะทำอย่างไรให้อยู่กันได้ ทั้งไทยพุทธและมุสลิมอย่างยั่งยืน ในเรื่องของความสันติ

เรื่องอื่นๆก็คงจะเป็นเรื่องของคุณวีระ นะครับ ที่ได้รับการปล่อยตัวออกมา ก็ไปพูดจาว่าจะไม่เข้าใจ คสช.ไม่เคยมีข้อตกลงใดๆ กับท่านนายกฯฮุน เซน ท่านกรุณาปล่อยตัวมา เพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับกัมพูชา วันนี้เราจะต้องไปสู่ประเทศอาเซียน โดยการเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ทุกคนในอาเซียน และประเทศในอาเซียน เราเป็นครอบครัว ผมพูดกับทุกประเทศในโลกเราเป็นครอบครัวกัน เราเป็นญาติกัน ถ้าประเทศใดเสียหายอีกประเทศก็เสียหายไปด้วย ถ้าประเทศใดมั่งคั่งประเทศอื่นก็มั่งคั่งไปด้วย แล้วทำไมเราต้องแบ่งแยกกันให้มากมาย ทำไมเราไม่เดินไปด้วยกัน ถ้าเรารวมอาเซียนทั้งหมด 10 ประเทศได้มันก็มีคน 600 กว่าล้าน เราจะไปต่อรองกับใครก็ได้ โดยที่เราเป็นประเทศผลิตอาหาร ผลิตสิ่งของเครื่องใช้ สิ่งของจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน เขาก็ต้องพึงเราอยู่ดี เราผลิตข้าว ผลิตอาหารเยอะแยะ ทั้งปลา เนื้อ ไก่ หมู ส่งออกไม่รู้เท่าไร เราจะทะเลาะกันไปทำไม ใช่ไหมครับ เพราะฉะนั้นความร่วมมือระหว่างไทย-กัมพูชา หรือว่าไทยกับประเทศทุกประเทศที่มาเยี่ยมเยียนมาคุยกันไม่มีตกลงนอกกติกาไม่มี เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวไม่มี ทุกเรื่องจะต้องเป็นการตกลงระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาล โดยอาจเป็นคณะพูดคุยที่เปิดเผยในทุกกรณีขอให้ประชาชนไว้วางใจ แล้วคุณวีระหยุดพูดได้แล้ว เชื่อมั่นในคำพูดของผมมากกว่าไปฟังจากคนอื่น ไม่มีนะครับไม่มี

เรื่องโซเชียลเน็ตเวิร์กวันนี้ขอความร่วมมือช่วยกันแชร์ในเรื่องที่ดีๆ บ้าง ช่วยกันขจัดขยะต่างๆ คำพูดที่เรียกว่าเฮตสปีช ซึ่งมันสร้างความเกลียดชัง หยาบคาย ดูหมิ่น ดูถูกกัน หมิ่นสถาบันอะไรต่างๆ ออกไปให้ได้ ถ้าท่านเป็นคนไทยท่านต้องช่วยกันขจัดไม่งั้นมันอันตรายมากในวันหน้า เฟซบุ๊ก แอปต่างๆ มันอันตรายต่อเด็กๆ ด้วย สังคมโดยรวมก็กระทบกระทั่งกันมาโดยตลอด เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง ส่วนใหญ่จะเชื่อ ถ้าเขียนเรื่องจริงไม่มีเชื่อ แต่เขียนเรื่องไม่จริงแชร์กันใหญ่ ต้องดูด้วยว่าช่วยเขาแชร์ไปแล้วมันผิดมันถูก มันใช่หรือไม่ใช่ มันตรวจสอบหรือยัง ถ้ามันไม่ใช่กรุณาอย่าเพิ่งแชร์เลยนะ บางทีก็โกรธแค้นเกลียดชังตามเขาไปหมด ปลุกปั่นง่ายเหลือเกินประเทศไทย วันหน้าแล้วจะทำยังไงการติดต่อสื่อสารโทรคมนาคม การให้บริการมันมากขึ้นๆ แล้วเราควบคุมไม่ได้ประเทศชาติจะเสียหาย ความมั่นคงมันจะไม่เกิด สังคมก็เสียหาย เสื่อมโทรม การท่องเที่ยวก็เสียหายไปหมด เพราะจะมาทำไมประเทศไทยแบบนี้ ทะเลาะกันแบบนี้ เกลียดกันทั้งประเทศ ขอร้องทุกคนที่เกี่ยวข้องทุกคนที่ชอบทำ ผมรู้เด็กสมัยใหม่ชอบเล่นแอปเล่นอะไรต่างๆ ผมก็ไม่เก่ง แต่อ่านแล้วไม่สบายใจมากเลย ต้องช่วยกัน เพราะฉะนั้นวันนี้ที่ผมพูดกับท่านจะเน้นเรื่องเศรษฐกิจมาก เพราะเศรษฐกิจคือหัวใจ คือปัจจัยในการเดินหน้าประเทศไทยไปข้างหน้า เรื่องอื่นๆ ความขัดแย้งเรื่องการปฏิรูปเป็นเรื่องภายในของเราว่า จะทำยังไงเราจะดูแลคนของเราให้ได้ ทำไงจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมันดีขึ้น ทำยังไงเราจะก้าวไปสู่ประชาคมอาเซียน และประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน นั่นเป็นเรื่องที่เราต้องแก้กันภายใน หลักการอาเซียน เราจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในซึ่งกันและกัน สนับสนุนซึ่งกันและกันในการดูแล ในการทำให้ประชาชน แนวชายแดนปลอดภัย ไม่มีการสู้รบกัน มติต่างๆ ของอาเซียน ก็เป็นเรื่องของมติอาเซียน เราจะไม่มีมติเป็นแต่ละประเทศๆ ออกไป ในเรื่องโน้นเรื่องนี้ มันทำให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้น นี่คือหลักการของอาเซียน การค้าขาย การทำสัญญาต่อกัน ก็ต้องเปิดเผย โปร่งใส มีประสิทธิภาพ เป็นธรรมกับทั้งสองประเทศ เราคบกับประเทศทุกประเทศ ต้องอยู่บนพื้นฐานของความไว้วางใจ ความเป็นธรรม ในฐานะที่เป็นมิตรประเทศกันอย่างดียิ่ง ประเทศรอบบ้านเราเป็นญาติพี่น้องกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะด้านประเทศลาว ด้านกัมพูชา ด้านพม่า คนชายแดนรู้จักกันหมด แล้วเราทำไมต้องทะเลาะกันล่ะ ทำไมจะเกิดประโยชน์ทั้งสองประเทศ เป็นธรรม เท่าเทียมทั้งสองประเทศ ทำมาหากินด้วยกัน เลิกพูดเรื่องของปัญหาความขัดแย้งกันตลอดมา ผมว่าวันนี้โลกมันไร้พรมแดนแล้วล่ะ แต่เราก็ต้องรักษาผลประโยชน์ของเราให้ได้ รักษาอธิปไตยของเราให้ได้ มันคนละเรื่องกัน ก็ไปพูดกันคนละวาระ ให้มันได้แล้วกัน เพราะฉะนั้น ทุกคนต้องช่วยกัน คำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติ

ในเรื่องของการพัฒนาแหล่งน้ำ สาธารณูปโภคพื้นฐาน และอื่นๆ นั้น เราทำอยู่ทุกมิติ วันนี้ก็เพิ่งมีการประชุมเรื่องซูเปอร์บอร์ดไป ในเรื่องของการปรับปรุงการบริการของรัฐวิสาหกิจ ต้องใช้เวลานะครับ บางคนบอกว่าประชุมแล้วมันต้องเกิดอย่างนี้ อย่างนั้น จะทำยังไง อะไรจะไว้ อะไรจะเลิก มันไม่ใช่หรอก ไม่ใช่ขนาดนั้น เราต้องค่อยๆ แก้ วางแผนว่า ที่ผ่านมามันคือปัญหาอะไร ช่วงก่อน 22 มาแล้ว มาตั้งหลายปี หลายสิบปีมาแล้ว มันขาดทุนยังไง มันต้องแก้ยังไง หาโจทย์ให้เจอก่อน อะไรคือปัญหา จากนั้นเราก็มาเปิดแก๊ปตรงกลาง ว่าตรงนี้คือระยะตรงกลาง ระยะเปลี่ยนผ่าน ตรงนี้คือเราจะต้องแก้ระเบียบ แก้บอร์ด แก้การคัดเลือกตัวบุคคล แก้ไขระเบียบขึ้นให้ทันสมัย มาตรการการควบคุมต่างๆ และกฎหมายที่มีอยู่แล้วเดิม มี 20 กว่าฉบับในการคุมบอร์ด มีอยู่แล้ว ปัญหามันอยู่ที่ว่าคน หรือกลไกต่างๆ มันทำได้สมบูรณ์ หรือไม่สมบูรณ์ ผมว่าช่วงนี้เป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน อาจจะต้อง 3 เดือน หรือ 6 เดือน เพื่อจะเดินตรงนี้ให้ได้ แล้วเราก็ไปเดินว่า เราจะทำยังไงต่อไป เพื่อจะเดินไปข้างหน้า ผมไม่ได้หมายความว่า ทุกอย่างแก้ไปได้ภายใน 3 เดือน 6 เดือน 9 เดือน 12 เดือน ไม่ได้หรอกครับ เราวางไว้ว่า หลังจาก 12 เดือน 58 เลือกตั้งกันใหม่ สมมุติถึงเวลาเลือกตั้งแล้วมันจะไปได้มั้ย ถ้าไม่แก้วันนี้ มันก็ไปตรงนั้นไม่ได้ ถ้าแก้เฉพาะวันนี้ เดี๋ยว 3 เดือนข้างหน้าก็มีเรื่องอีก เพราะว่ามันไม่ได้แก้ตั้งแต่พื้นฐานไป

รายได้มีพอหรือเปล่า รายได้พอ มันถึงจะไปเพิ่มอัตราการบริการให้มากขึ้น ดูแลเรื่องรถต่างๆ อุปกรณ์ต่างๆ ให้มันใหม่ ก็รายได้น้อย รายได้ไม่ดี ก็ต้องไปกู้เงินเขามา กู้เงินก็ไม่ได้อีก เดี๋ยวเกินหนี้สาธารณะ แล้วก็ต้องการให้มีรถใหม่ แล้วมันจะไปยังไง คิดให้มันครบอย่างนี้ วันนี้ก็ต้องไปหาว่า อันไหนควรจะต้องอยู่ อยู่มั้ย อยู่ 100 เปอร์เซ็นต์มั้ย เป็นรัฐวิสาหกิจ 100 เปอร์เซ็นต์มั้ย อันไหนจะต้องผสมกัน รัฐกับเอกชนร่วมกัน บางอย่างอาจจะแบ่งให้เอกชนไปทำบางส่วน ต้องมาคิดแบบนี้นะ ถ้ามาคิดว่า อันนี้เลิก อันนี้ทำ อันนี้ไม่ทำ แล้วทำยังไง ความมั่นคงจะเกิดขึ้นมั้ยล่ะ การให้การบริการประชาชนบางอย่าง มันหยุดไม่ได้ ถ้ามีการประท้วงกันอย่างเดียว มันก็ไปไม่ได้อีก เพราะฉะนั้นมันต้องรักษาความมั่นคงให้ได้ ยังไงต้องมีการบริการนะครับ

ความแตกต่างของประชาชนในชาติต้องลดลง ภาคเอกชนต้องช่วยกันรับภาระของประเทศชาติไว้ด้วย ร่วมกับรัฐ ร่วมกันลดความแตกต่าง ความเหลื่อมล้ำของรายได้ ลดช่องว่างของประชาชนให้ลดลง ประเทศชาติจะเดินไปข้างหน้าได้ ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกภายนอก ขอบคุณในแรงใจแรงสนับสนุนที่ดีเสมอมา ซึ่งมันก็เป็นกำลังใจให้กับพวกเราทุกคน ผมก็กลับไปให้ท่านเป็นร้อยเท่าพันทวี ต้องยอมรับว่า กำลังใจมามากก็กดดันผมมาก แต่ไม่เป็นไร รับได้ๆ และยังแข็งแรงอยู่ ยังทำได้ คิดแต่เพียงอย่างเดียวว่า จะทำอย่างไรให้พวกเราทุกคนมีความสุข ข้าราชการทุกคนต้องร่งวมมือกันในการจะคลี่คลายความเดือดร้อน ดูแลทุกข์สุขให้กับประชาชนได้อย่างทั่วถึงโดยเร็ว บางอย่างใช้เวลามากบ้าง น้อยบ้างแตกต่างกัน ต้องช่วยกันอดทน ผมอดทน ข้าราชการอดทน ประชาชนอดทนอดกลั้น อย่าอารมณ์เสีย อย่าหงุดหงิด อย่าเดินขบวนอะไรกันมากมาย ก็ทำอะไรก็ได้เหมือนเดิม ท้ายสุดก็ไม่ได้เหมือนเดิม ท่านเดินขบวนจำได้ไหม เดินขบวนเรื่องยาง เรื่องข้าว เรื่องอะไรต่างๆ ตั้งแต่เพิ่มได้เงินอนุมัติ ผมอนุมัติไปเมื่อเร็วๆ นี้ ตั้งแต่ปี 55 เดินมากี่ปีแล้ว 2 ปีที่แล้ว เพิ่งมาได้สตางค์

เพราะฉะนั้นเดินวันนี้ก็ไม่ได้วันนี้ ขอร้องอย่าเดินเลย จะแก้กันใหม่ว่า จะทำอย่างไร เพราะฉะนั้นคนที่จะแก้ให้ผมได้คือ พ่อค้าคนกลาง เจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่แต่ละพื้นที่ ไปแก้ปัญหาของท่านให้ได้ในพื้นที่ ศูนย์ดำรงธรรมก็ทำไม่ได้ อย่าให้มันเดินขบวนในกรุงเทพฯ วันนี้รับเรื่องร้องเรียนทุกวันๆ เป็นหมื่นๆ โอ้โหยังไม่ไปศูนย์ดำรงธรรมเลยนะ ศูนย์ดำรงธรรมรับไปด้วย จะได้มาน้อยๆ หน่อย และส่งเอกสารมา เราก็ส่งให้กับกระทรวง ทบวง เขาไปแก้ ขอบคุณทุกคน ผมมาฟังเขาชี้แจง เขาก็ดีใจ เขาก็กลับบ้าน อย่ามาอยู่บริเวณตามถนนไม่สวยงาม ลำบากด้วย ห้องน้ำห้องท่าก็ไม่สะดวก นั่งรถมาเสียค่ารถค่ารา เดี๋ยวท่านก็ต้องไปเสียเงินค่ามาอยู่ที่นี่ ได้ตังค์ หรือไม่ได้สตางค์ไม่รู้ อย่างน้อยก็เสียสตางค์ เสียเวลา ไปอยู่กับลูกหลานที่โน้นดีกว่า และส่งข่าวผ่านเข้าศูนย์ดำรงธรรม เราก็จะแก้ให้ หรือให้ผู้ว่าแก้ ให้กระทรวงแก้ ใครแก้ต้องแก้ให้ได้ มันแก้ระยะสั้นไม่ได้ ต้องแก้ระยะยาว ผมขอร้องไม่ได้กลัวอะไรหรอก เพียงแต่ว่าไม่อยากให้มันเสีย ประเทศชาติกำลังสวยงาม ถนนหนทางก็ปลอดโปร่ง ประท้วง เดี๋ยวท่านก็ต้องมากางมุ้งกางอะไรนอนตามนี้ รู้ว่าท่านลำบาก นั่นแหละคือสิ่งที่สำคัญ พวกเราทุ่มเทให้อยู่แล้ว สุดท้ายนี้คงต้องกล่าวคำว่า คิดถึงเหมือนเดิมนะครับ ตราบใดที่ประชาชนยังไม่มีความสุข ประเทศชาติไม่ปลอดภัย พวกเราทุกคน คสช. ข้าราชการทุกคนยังคงห่วงความรู้สึกไปยังพ่อแม่พี่น้องคนไทยทั้งประเทศตลอดไป ขอบคุณครับ สวัสดีครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น