xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ช.ฟันอดีตเลขาฯ “บุญทรง” ชี้สวมรอยทำ “จีทูจี” โกงข้าว-ไม่ได้ส่งออกนอก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ป.ป.ช. มีมติแจ้งข้อกล่าวหาอดีตผู้ช่วยเลขานุการ “บุญทรง” เหตุสวมรอยระบายข้าวจีทูจี แฉมหากาพย์นัดบริษัทค้าข้าวมาคุย บอกจะหนุนขายข้าว แต่ต้องสั่งจ่ายแคชเชียร์เช็คในนามบริษัท “ไห่หนาน-กวางตุ้ง” ก่อนมอบให้เลขาฯ ซึ่งข้าวที่ทำสัญญาซื้อขายก็ต่ำกว่าราคาขายในประเทศ แต่ถูกบีบบังคับ ก่อนขนข้าวจากคลังสินค้ากลาง แต่ไม่มีการขนออกไปนอกราชอาณาจักร

วันนี้ (5 ก.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี นายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการ ป.ป.ช. พร้อมด้วย นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าการไต่สวนคดีทุจริตซื้อขายข้าวแบบจีทูจีของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า ขณะนี้ ป.ป.ช. ได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมแก่ พ.ต.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการนายบุญทรง ซึ่งเป็นผู้กุมความลับกระบวนการจำนำข้าวไว้ทั้งหมด ขณะเดียวกัน ป.ป.ช. ได้กันบุคคลจำนวนหนึ่งไว้เป็นพยาน โดยจะไม่ดำเนินการเอาผิด เนื่องจากให้ถ้อยคำที่เป็นประโยชน์ในการพิจารณาคดี ป.ป.ช. จะใช้พยานส่วนนี้เป็นข้อมูลเชื่อมโยงไปเอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐรายอื่นต่อไป

ทั้งนี้ ในการไต่สวนคดีจำนำข้าวของนายบุญทรงนั้น ป.ป.ช. ได้รับความร่วมมือจากบริษัทค้าข้าวนับร้อยบริษัทที่ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ จนได้หลักฐานชัดเจนว่า การทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบจีทูจีกับรัฐบาลจีนนั้น ไม่มีการขายข้าวจริง จากการไต่สวนพบว่า พ.ต.วีระวุฒิ ได้นัดหมายบริษัทค้าข้าวมาคุย โดยบอกว่า จะช่วยสนับสนุนการขายข้าว แต่ขอให้ผู้ประกอบการสั่งจ่ายแคชเชียร์เช็คการซื้อขายข้าวให้กรมการค้าต่างประเทศในนามของบริษัท ไห่หนาน จำกัด และบริษัท กวางตุ้ง จำกัด ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของจีน

จากนั้นให้นำแคชเชียร์เช็คไปมอบให้เลขานุการ รมว.พาณิชย์ หรือ นายวิมล รักดี หรือ นายโจ และลูกน้องของนายโจ คือ พ.ต.ต.ศราวุฒิ สกลมีฤทธิ์ หรือ สารวัตรเหยิน อดีตผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) ซึ่งข้าวที่ทำสัญญาซื้อขายกับบริษัท ไห่นาน และบริษัท กวางตุ้ง ก็เป็นการขายในราคาต่ำกว่าราคาที่ขายในประเทศ ซึ่งผู้ประกอบการค้าก็มีความจำเป็นเพราะถูกบีบบังคับ ต้องยินยอมเซ็นเช็คสั่งจ่าย หรือมอบให้นายโจซึ่งเชื่อมโยงกับบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด เพราะ นายโจ และ พ.ต.ต.ศราวุฒิ เป็นลูกน้องบริษัท สยามอินดิก้าฯ

โดยบริษัทค้าข้าวไทยต้องยินยอมสั่งจ่ายแคชเชียร์เช็คในนามของบริษัททั้งสองแห่ง เพื่อนำไปมอบให้กรมการค้าต่างประเทศ เมื่อกรมการค้าต่างประเทศได้รับเช็คในนามของบริษัททั้งสองแห่งแล้ว อคส. และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) จะเอาหลักฐานดังกล่าวไปใช้ขนข้าวจากคลังสินค้ากลาง ดังนั้น ข้าวที่รัฐบาลไทยขายให้บริษัททั้งสองแห่ง จึงไม่มีการขนออกไปนอกราชอาณาจักรแต่อย่างใด แต่เป็นการสวมรอยว่ามีการซื้อขายแบบจีทูจีโดยแท้จริง ซึ่ง ป.ป.ช. มีหลักฐานชัดเจน คาดว่าจะสรุปผลได้เสร็จก่อนเดือน ก.ย. นี้ ซึ่งอัยการคงไม่ได้แค่ตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่จะมีติดตามมาเป็นขบวนใหญ่ในอนาคต เพราะเรื่องนี้เป็นมหากาพย์


กำลังโหลดความคิดเห็น