xs
xsm
sm
md
lg

ศาลฎีกาฯ สั่งรวมคดี “บุญทรง-เอกชน” รวมหัวโกงข้าว นัดตรวจพยานหลักฐาน 20 เม.ย.นี้

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ศาลฎีกาฯ นักการเมือง อนุญาตรวมคดี “บุญทรง” อดีต รมว.พาณิชย์ ทุจริตระบายข้าวจีทูจี พร้อมพวกรวม 9 คน กับคดีฟ้องเพิ่มเอกชนอีก 7 รายเป็นคดีเดียวกัน นัดตรวจพยานหลักฐาน 20 เม.ย.นี้

วันนี้ (2 มี.ค.) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถ.แจ้งวัฒนะ นายธนฤกษ์ นิติเศรณี รองประธานศาลฎีกา ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน คดีทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี และองค์คณะรวม 9 คน นัดพร้อมคดีหมายเลขดำ อม.25/2558 ที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายภูมิ สาระผล รมช.พาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว จำเลยที่ 1, นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานอนุ กก.พิจารณาระบายข้าว จำเลยที่ 2 และพวกซึ่งเป็นอดีตนักการเมือง 3 คน ข้าราชการการเมือง 3 คน และนิติบุคคลกับกรรมการผู้มีอำนาจในนิติบุคคล รวม 21 ราย เป็นจำเลยที่ 1-21 ในความผิดฐานกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ (ฮั้วประมูล) พ.ศ. 2542 มาตรา 4, 9, 10, 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจโดยทุจริตสร้างความเสียหายแก่รัฐ, ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต สร้างความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด มาตรา 157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 4, 123 และ 123/1 ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุดถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิต ซึ่งอัยการสูงสุด โจทก์ยังขอให้ศาลสั่งปรับจำเลยทั้งหมด เป็นเงิน 35,274,611,007 บาทที่คิดคำนวณจากมูลค่าครึ่งหนึ่งตามสัญญาระบายข้าว 50,000 ตัน ที่พบว่ามีการกระทำผิดสัญญา 4 ใน 8 ฉบับด้วย ที่อัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2558 และนัดพิจารณาครั้งแรกเพื่อสอบคำให้การจำเลย คดีหมายเลขดำ อม.1/2559 ที่อัยการสูงสุดยื่นฟ้องห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงสีกิจทวียโสธร, นายทวี อาจสมรรถ หุ้นส่วนผู้จัดการ, บริษัท กิจทวียโสธรไรซ์ จำกัด ที่มีนายทวี อาจสมรรถ เป็นกรรมการ, บริษัท เค.เอ็ม.ซี. อินเตอร์ไรซ์ (2002) จำกัด, นายปกรณ์ ลีศิริกุล กรรมการ, บริษัท เจียเม้ง จำกัด และนางประพิศ มานะธัญญา กรรมการ เป็นจำเลยที่ 1-7 ในความผิดฐานร่วมกันกระทำการสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 157, 83, 86 และ 91 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 4 และมาตรา 123/1 กรณีเมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2554 - 22 ก.พ. 2556 ร่วมสนับสนุนจำเลยที่ 1-6 คดีนายบุญทรงกับพวกที่เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ในการสั่งจ่ายแคชเชียร์เช็คซื้อขายแต่ไม่ได้มีการซื้อจริง โดยอัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2559

โดยศาลอ่านและอธิบายฟ้องโดยสรุปให้นายทวี, นายปกรณ์ และนางประพิศ ฟังแล้วจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธทั้งในฐานะผู้แทนนิติบุคคล และฐานะส่วนตัวที่เป็นกรรมการบริษัท ตามคำให้การที่ยื่นในวันนี้และอนุญาตให้นายทวี กก.หจก.โรงสีกิจทวียโสธรและ บจก.กิจทวียโสธรไรซ์ ยื่นคำให้การเพิ่มเติมเข้ามาภายใน 14 วัน

ส่วนที่อัยการโจทก์ขอรวมสำนวนทั้ง 2 สำนวนพิจารณาเป็นคดีเดียวกันเนื่องจากคดีเกี่ยวพันกัน พยานหลักฐานชุดเดียวกันนั้น องค์คณะฯ ได้สอบถามจำเลยทั้งหมดแล้วไม่คัดค้าน ประกอบกับเพื่อความสะดวกในการพิจารณาจึงอนุญาตให้รวมสำนวนโดยให้คดีหมายเลขดำ ที่ อม.25/2558 เป็นคดีหลัก ส่วนจำเลยที่ 1-7 คดีหมายเลขดำ ที่ อม.1/2559 ให้นับเป็นจำเลยที่ 22 -28 ต่อจากคดีดังกล่าว

ขณะเดียวกัน องค์คณะฯ ได้อนุญาตตามที่อัยการโจทก์ยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2559 ขอเพิ่มพยานเอกสาร 10 ฉบับ และพยานบุคคลอีก 2 ปาก คือ นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นำสืบประเด็นการซื้อขายข้าวแบบจีทูจี และพยานอดีตพนักงานธนาคารกรุงไทยฯ นำสืบเกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงินและบัญชีที่เกี่ยวข้องกับคดี และอนุญาตตามคำร้องจำเลยที่ 10-23 ขอให้สืบพยานชาวจีน ที่อาศัยอยู่ในประเทศจีน และสิงคโปร์ รวม 5 ปากผ่านจอภาพทางไกล (วิดีโอคอนเฟอเรนซ์) เพื่อนำสืบสถานะความมีอยู่ของบริษัท กวางตุ้ง จำกัด และบริษัท ไห่หนาน เกรน แอนด์ ออยล์ อินดัสเทรียล เทรดดิ้ง และการซื้อขายข้าว โดยให้จำเลยเป็นผู้ประสานสถานทูตหรือกงสุลประเทศนั้น พร้อมให้ประสานระบบโทรคมนาคมกับ กสท.ด้วย โดยจำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายดำเนินการดังกล่าว

ทั้งนี้ เมื่อได้รวมสำนวนพิจารณาเป็นคดีเดียวกันแล้ว จึงให้ยกเลิกนัดไต่สวนพยานเดิม วันที่ 16 มี.ค., 20 เม.ย. และ 27 ก.ค. 2559 นี้ แล้วให้เพิ่มนัดไต่สวนพยานอีก 4 นัด คือ วันที่ 18 ม.ค, 25 ม.ค., 1 ก.พ. และ 15 ก.พ. 2560 โดยให้นัดตรวจพยานหลักฐานในส่วนของจำเลยที่ 22-28 ในวันที่ 20 เม.ย.นี้ เวลา 09.30 น.

ภายหลังนายบุญทรง อดีต รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงการสืบพยานทางไกลจากจอภาพว่า ตนไม่ได้ร้องขอ แต่เป็นกลุ่มจำเลยร่วมซึ่งเชื่อว่าน่าจะดีในแง่ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน เพราะพยานดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการซื้อขายข้าว

สำหรับการสืบพยานทางไกลผ่านจอภาพดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับคดีในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อย่างไรก็ดี นายทวี, นายปกรณ์ และนางประพิศ กรรมการ กก.หจก.โรงสีกิจทวียโสธร, บจก.กิจทวียโสธรไรซ์, บจก.เค.เอ็ม.ซี. อินเตอร์ไรซ์ (2002) และ บจก.เจียเม้ง จำเลยที่อัยการยื่นฟ้องเพิ่มนั้นก็ได้รับการปล่อยชั่วคราว โดยศาลตีราคาประกันคนละ 5 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขกับจำเลยอื่นโดยห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล











 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น