“ประยุทธ์” ประชุม นบข. ย้ำต้องแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นต่างๆ ให้ได้ ไม่ให้กระทบข้าวฤดูกาลใหม่ ใช้ กม.คลี่คลายสถานการณ์ต้องไม่กระทบคดีค้างอยู่ ให้ระวังระบายข้าว มีผู้เสนอซื้อข้าวในสต๊อกแล้ว 70% พร้อมวางแผนปลูกข้าวให้เหมาะสม หนุนปลูกพืชชนิดอื่น เน้นทำแผนข้าวครบวงจรต้นทางสู่ปลายทาง ปูทางสู่พืชผลอื่นๆ ฉุนรอยเตอร์ปล่อย “ทักษิณ” วิจารณ์
วันนี้ (24 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว หรือ นบข. ครั้งที่ 1/2559 โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวตอนหนึ่งของการประชุมว่า ประเด็นสำคัญที่ต้องหารือคือ การบริหารจัดการข้าวทั้งข้าวเก่าและข้าวใหม่ รวมถึงราคาข้าว และคดีที่เกี่ยวข้องกับข้าวเก่า จึงจำเป็นต้องมีมาตรการที่ความชัดเจน อีกทั้งยังมีข้อกฎหมายที่กำกับเกี่ยวกับการระบายข้าวอยู่แล้ว จึงมั่นใจว่าผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนเข้าใจสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องข้าวเป็นอย่างดีว่าเราต้องการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้ได้โดยไม่มีผลกระทบต่อข้าวในฤดูกาลใหม่ และขายข้าวเก่าให้ได้ราคามากที่สุด แต่ก็ขึ้นอยู่กับราคาตลาดในปัจจุบันด้วย พร้อมย้ำการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องจะต้องไม่เป็นการบังคับให้เกิดการกระทำผิด แต่จะใช้เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ที่เป็นอยู่ให้ดีขึ้น และต้องไม่มีผลกระทบต่อคดีที่ค้างอยู่ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้น ดังนั้นต้องระมัดระวังเรื่องการระบายข้าว และราคาที่ระบายออกไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวาระการประชุมที่น่าสนใจ กรมการค้าต่างประเทศเตรียมเสนอผลการประมูลข้าวในสต๊อกของรัฐเป็นการทั่วไป ครั้งที่ 1 โดยมีผู้เสนอซื้อทั้งสิ้น 397,639 ตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 70 ของปริมาณที่เปิดประมูลครั้งนี้ที่ 5.7 แสนตัน และมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 3,314 ล้านบาท นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะหารือและเสนอการวางเเผนรองรับการขายข้าวของชาวนาในช่วงที่ข้าวออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก รวมถึงการลดพื้นที่การผลิตข้าวเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และจะนำความเห็นของเกษตรกรที่อยากให้รัฐบาลกำหนดราคาข้าวในฤดูการผลิตถัดไปให้ชัดเจน เพื่อจะได้วางแผนการปลูกข้าวให้สอดคล้องเหมาะสมเสนอต่อที่ประชุมด้วย
จากนั้นเวลา 12.20 น. พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า ประเด็นหลักที่ต้องการให้ทราบคือการทำแผนข้าวแบบครบวงจร ตั้งแต่การปลูกจนถึงกระบวนการบริหารจัดการไปสู่การตลาด ต้นทางไปสู่ปลายทาง โดยจะวางเป็นยุทธศาสตร์ข้าวเป็นเวลา 20 ปี เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งทั้งหมดจะอยู่ในแผนการปฏิรูปให้รัฐบาลชุดต่อไปเดินหน้าต่อ เรื่องดังกล่าวหากสามารถเริ่มต้นได้ ก็จะให้ทำต่อในเรื่องรางพารา มันสำปะหลัง อ้อย ฯลฯ การทำงานต้องคิดลักษณะนี้ ถ้าไม่คิดแบบนี้ก็จะไปไม่ได้ โดยแผนงานต้องสอดคล้องกับการบริหารจัดการน้ำซึ่งมีต้นทุนจำกัด และพื้นที่ที่แตกต่างกัน ต้องมีความเหมาะสมในการปลูกพืช นอกจากนี้ เรายังสนับสนุนผู้ที่ปรับเปลี่ยนการปลูกพืช เพราะรัฐบาลต้องการลดปริมาณการผลิตข้าว โดยปีนี้ต้องผลิตข้าวอยู่ที่ 25 ล้านตัน มิเช่นนั้นปริมาณจะมากเกินไป แต่ตัวเลขดังกล่าวต้องบวกกับอีก 8 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ต้องปลูกข้าวประมาณ 27 ล้านตัน ซึ่งต้องเผื่อปัญหาภัยแล้งด้วย ส่วนที่ผ่านมาเกินมาที่ประมาณ 30 กว่าล้านตันนั้นต้องหามาตรการเพื่อสร้างแรงจูงใจในการเปลี่ยนการปลูกพื้น แต่รัฐบาลไม่ได้บังคับ
พล.อ.ประยุทธ์ยังได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวสำนักข่าวต่างประเทศ โดยผู้สื่อข่าวได้แนะนำตัวและสังกัดตามที่ทีมโฆษกรัฐบาลขอความร่วมมือซึ่งได้ถามถึงตัวเลขความเสียหายของโครงการรับจำนำข้าวในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดย พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ยังไม่มีการสรุป คณะกรรมการจะเป็นผู้สรุปเอง “ทำไม มันต้องเอาให้ได้ใช่ไหม คุณไปบอกรอยเตอร์ เมื่อวานนี้พูดให้ดีด้วย” จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้จบการสัมภาษณ์ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว แล้วเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าทันที
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ และอัลญะซีเราะห์ โดยมีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลและร่างรัฐธรรมนูญ
