xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” ลั่นไม่มีบูรพาพยัคฆ์ แขวะสื่ออย่ามโน จี้ สปช.เร่งปฏิรูปการเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นายกฯ และหัวหน้า คสช. จี้ สปช.ปฏิรูปการเมืองเร่งด่วน หวังนำประชาธิปไตยแบบตะวันตกมาใช้ให้สอดคล้องกับคนไทย ถามยึดอำนาจถ้ามันดีอยู่แล้วจะมายึดให้โง่ทำไม ย้ำไม่ได้ชี้นำ ชี้โลกเปลี่ยนไปแล้วต้องดูว่าควรทำอย่างไร แนะ กมธ.ร่าง รธน.ดูทำอย่างไรไม่ให้รัฐบาลบิดเบือนกฎหมาย และให้รัฐมีเสถียรภาพ ยันไม่ได้จำกัดสิทธิแค่ตักเตือนแบบพี่น้อง บอกไม่อยากทะเลาะกับสื่อ ลั่นไม่มีบูรพาพยัคฆ์-วงศ์เทวัญ แค่บังเอิญไปอยู่ 2-3 ปี แขวะอย่ามโน ไล่ปฏิรูปตัวเอง เลิกติพวกนั้นพวกนี้



วันนี้ (4 ก.ย.) ที่สโมสรกองทัพบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวระหว่างประธานเปิดการประชุมและมอบนโยบายแนวทางการดำเนินการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ตอนหนึ่งว่า ปัญหาต่อไปที่เป็นประเด็นสำคัญที่สุด คือ การปฏิรูปการเมือง ซึ่งจะมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย บางคนบอกว่าดีแล้ว บางคนบอกว่าต้องปรับปรุงแก้ไข นี่คือสิ่งที่ต้องทำอย่างเร่งด่วนทันทีและต้องมีผลสัมฤทธิ์ เพราะเป็นอนาคตของเรา และอยากให้ระดมสติปัญญาของคนไทยในการที่จะนำการเมืองประชาธิปไตยแบบตะวันตกมาปรับใช้ให้สอดคล้องกับคนไทย เพราะคนไทยไม่เหมือนกับชาติอื่นในโลกนี้ เป็นคนที่ชอบแสดงความคิดเห็นแต่ไม่ยอมรับความแตกต่างซึ่งคิดแบบนั้นไม่ได้ จึงต้องไปหาวิธีว่าทำอย่างไรที่จะนำความแตกต่างมาเกิดผลิตโดยรวม อะไรที่ยังไม่เห็นด้วย ทำไม่ได้ก็อย่าไปทะเลาะกัน ถ้าทะเลาะกันทุกเรื่องก็แก้ไขอะไรไม่ได้

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า จะสร้างกลไกการปกครอง การใช้อำนาจรัฐอย่างไร โดยอย่าไปคำนึงว่าเพื่อป้องกันการยึดอำนาจในอนาคต อย่าไปคิดแบบนั้น ถ้าไม่มีสาเหตุไม่มีใครไปยึดอำนาจอยู่แล้ว นั่นคือสิ่งสำคัญ ถ้าดีอยู่แล้วใครจะมายึด จะมายึดให้มันโง่ทำไม ดังนั้นจะต้องไปแก้ไขปัญหาให้ได้ อย่าไปคำนึงตรงนั้น ต้องคำนึงว่าบุคคลที่จะมาเป็นรัฐบาลและนักการเมืองนั้นจะมาจากการเลือกตั้ง หรือไม่ได้มาจากสิ่งที่ตนพูด อย่าไปกังวล แต่จะต้องกังวลว่าจะไปกันอย่างไรในวันหน้า ผู้รู้เขียนมาว่าระบบรัฐสภาสมัยก่อนมีสภาคู่ มีรัฐสภา และรัฐบาลก็มีอำนาจแยกกันอยู่มาเป็น 100 ปีที่มีประชาธิปไตย หลังจากนั้นก็มี ส.ส.มีพรรคการเมือง และกลายเป็นอำนาจสภาเดี่ยว แบบอำนาจเดี่ยว ฉะนั้นกลายเป็นว่าสมัยก่อนสภาคุมรัฐบาลได้ แต่วันนี้รัฐบาลและ สภาคุมกันไม่ได้ จึงต้องมีเสียงข้างมากพรรคเดียว หรือหลายพรรคร่วมกัน กลายเป็นองค์กรเดียวในทางปฏิบัติ

“ผมไม่ได้ชี้นำอะไรเลย จะเอาแบบเก่าก็แบบเก่า หรือจะเอาแบบใหม่ก็แบบใหม่ ผมไม่รู้ ผมได้ศึกษามาบ้างแล้ว เดี๋ยวจะหาว่าผมไม่รู้เรื่อง ทั้งนี้แต่ละประเภทมีความแตกต่างกันออกไปทั้งเงื่อนไข กลไกในการบริหารประเทศ หรือพฤติกรรมของนักการเมือง หรือพรรคการเมือง รวมถึงการเอาใจใส่มาตรฐานทางการเมือง สังคม และสื่อมวลชน ทุกเรื่องหากโยนให้รัฐบาลหมดก็ไม่ได้ ทุกคนจะต้องมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาดูแลชาติบ้านเมือง ทั้งรัฐบาล ประชาชน เอกชน และประชาสังคมที่จะต้องร่วมมือกัน อย่าโยนปัญหานี้ให้คนนั้นคนนี้ ทุกคนในชาติจะต้องเข้มแข็ง นั่นคือประเด็นสำคัญ ทั้งนี้จะทำอย่างไรให้คนในชาติเข้มแข็ง เมื่อคนในชาติเข้มแข็ง ทุกองค์กรก็จะมีความเข้มแข็ง มีคุณภาพ และรัฐบาล นักการเมืองก็จะต้องมีคุณภาพ ซึ่งวันหน้าจะต้องไปดูว่าจะทำอย่างไรให้นักการเมืองมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า จะต้องไปดูว่าโลกมันเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรแล้ว นักการเมืองควรจะต้องทำอย่างไร ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และพลเรือน จะต้องทำตัวอย่างไร แต่จะมาบอกว่าทำแบบเดิม จะทำตามคำสั่ง ประเทศชาติก็จะถอยหลังกลับไปเก่า ทั้งนี้ยุโรปหลักการแยกกลไกบริหารและนิติบัญญัติออกจากกัน เหตุผลทราบดีกันอยู่แล้วซึ่งจะต้องนำไปพิจารณาว่าจะทำอย่างไร ในการบัญญัติรัฐธรรมนูญก็มีคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญจะต้องทำต่อ โดยฟังเสียงจากสภาปฏิรูปว่าจะทำอย่างไรไม่ให้รัฐบาลที่เข้ามามีอำนาจบิดเบือนการใช้อำนาจข้อกฎหมาย หรือบทบัญญัติต่างๆ จะทำอย่างไร ซึ่งจะต้องไปทำให้จบ เพราะทุกอย่างเป็นกฎหมายหมด ไม่ใช่ว่าพูดเสร็จ หรือปฏิรูปเสร็จและมีมติออกมาก็ทำเลย แต่จะต้องมีกฎหมายเข้ามาช่วย ฉะนั้นเรื่องอำนาจเผด็จการรัฐสภาที่บางคนกล่าวว่ามีเผด็จการทหาร มีเผด็จการรัฐสภา เรื่องนี้จะต้องไปดูเพื่อให้เกิดความเสถียรภาพ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลบ่อยเกินไป ถ้าดีก็ไม่ต้องเปลี่ยน หรือยุบสภาแล้วจะทำอย่างไร หรือกรณีที่นักการเมืองมีคดีความจะทำอย่างไร ใครจะสอบสวน หรือจะยุบสภา หรือเลือกตั้งใหม่ ก็จะต้องไปหากันให้ชัดเจน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า จะดำเนินการอย่างไรไม่ให้มีการอาศัยเรื่องผลประโยชน์มาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวเพื่อให้เกิดการปกครองแบบนั้นซึ่งมันไม่ได้ แต่จะต้องอย่าลืมคำว่ามีเสถียรภาพของรัฐบาลได้ด้วย หากไม่มีเสถียรภาพมันก็ไปไม่ได้เหมือนกัน ทั้งนี้การพูดถึงแนวทางไม่ได้เป็นการชี้นำอะไร แต่ตนพูดในฐานะประชาชนคนหนึ่ง วันนี้เป็นอะไรหลายอย่าง งงไปหมดแล้วว่าเป็นอะไรกันแน่ ตนถือว่าอยู่กับพี่ๆ เพื่อนๆ และข้าราชการทุกคนที่เป็นข้าราชการของแผ่นดินในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งนี้เราจะต้องช่วยกันลดความขัดแย้ง อะไรที่จะเป็นความขัดแย้งกรุณาลดลงหน่อย ตนไม่ได้ไปจำกัดท่าน หรือจำกัดสิทธิของสื่อมวลชน ไม่เคยไปทำร้ายอะไรใครสักคน เพียงแต่พูดคุยกันบ้าง เรียกมาคุยกันบ้าง หรือตักเตือนกันในฐานะพี่น้อง ตนขี้เกียจทะเลาะกับสื่อเพราะทะเลาะไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร และสื่อก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรจากตน ตนก็ไม่ได้ทำตามอะไรสื่อ และสื่อก็ไม่ได้อะไรจากตนเหมือนกัน แต่อยากให้ท่านเสนอข้อเท็จจริง กรุณางดในเรื่องวิพากษ์วิจารณ์ บางอย่างวิพากษ์วิจารณ์ตนขี้เกียจตอบโต้ บางอย่างมันไม่ใช่ คิดแบบนั้นไม่ได้ เราเป็นข้าราชการทหาร ตำรวจ เราคิดอย่างพลเรือนคิดไม่ได้ เราจะต้องคิดตามกติกาว่าจะทำอย่างไร สั่งกันอย่างไร เดินไปอย่างไร หรือวันข้างหน้าจะทำอย่างไร หรืออะไรจะเกิดขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นการคิดของทหาร แต่บางคนบอกว่าเป็นความคิดที่จำกัด ถ้าไม่จำกัดไว้เยอะกว่านี้ จะมีเรื่องสั่งมากกว่านี้ วันนี้สั่งไป 1,800 กว่าเรื่องแล้ว แต่เสร็จกี่เรื่องไม่รู้ บางเรื่องทำแล้ว บางเรื่องยังไม่ได้ทำ บางเรื่องก็ไปทำให้ยั่งยืนในระยะที่ 2 และระยะที่ 3

“เลิกได้แล้วว่าล็อกสเปก จะบอกว่าสเปกบูรพาพยัคฆ์ ที่สื่อไปพูด ไม่เคยมีหรอกไอ้บูรพาพยัคฆ์ หรือวงศ์เทวัญ ไม่มี บูรพาพยัคฆ์อยู่ตะวันออก ใครอยู่ตรงไหนก็โตตรงนั้น เดี๋ยววันหน้าเมืองกาญจน์ขึ้นมาเติบโตก็จะบอกว่าเป็นทีมลาดหญ้า สื่อมโนไปเลย มโนตลอด ให้สื่อเขียนแบบมีข้อเท็จจริงหน่อย อย่ามโน ถ้าอย่างนั้นให้ไปเขียนนิยาย อย่าติอย่างเดียว ชมบ้าง ที่ดีๆ ไม่เห็นชมบ้างสักคำเลย พอถามว่าทำไมไม่ชมบ้าง ก็บอกว่าดีอยู่แล้วไม่ต้องชม แต่พอที่ติแล้วติอีกเรื่องเดิม ติมาจนผมจะเกษียณอยู่แล้ว 4 ปีแล้ว หากย้อนไป ผบ.ทบ.เก่าอีกหลาย ไม่ยอมเลิกเสียที ฉะนั้นพอได้แล้ว สื่อต้องปฏิรูปตัวเอง ท่านมีฐานันดรอยู่แล้ว ท่านจะต้องมีจรรยาบรรณ ผมไม่ได้ตำหนิอะไรเลย ชื่นชมตลอด ผมไม่ใช่คู่ปรับท่านอยู่แล้ว” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า รัฐมนตรีตอนนี้อย่ากังวล เพราะได้มีช่องทางประสานงานตรงกันอยู่แล้ว เพียงให้ไว้ใจ ไม่ใช่แก๊งบูรพาพยัคฆ์ ไม่มี ตนเกิดที่กรมทหารราบที่ 21รักษาพระองค์ (ร.21 รอ.) และไปที่บูรพามาหน่อยไปอยู่ 2-3 ปี ในกองทัพบกเหมือนกันทั้งสิ้น บังเอิญตนไปอยู่ที่นั่นมาเท่านั้นเอง และบังเอิญตนกับพี่ 2-3 คนก็ตามกันมา สื่อก็ไปมโนเรื่องนี้กัน ตนพูดตรงนี้ดีแล้วไม่มีใครเถียงได้ ทั้งนี้อยากให้ทุกคนสบายใจและไว้ใจเราในการทำหน้าที่ ช่วยกัน หากทำไม่สำเร็จก็ไม่รู้จะทำอย่างไรกันต่อไปแล้ว ถ้าจะตีกันต่อ จะเคลื่อนไหวใต้ดินมาสู้กัน หรือจะใช้ทางพระทางเจ้าทำพิธีกันมาสู้กัน วันนี้ตนเจ็บคอ ปวดคอ หลายคนบอกว่ามีคนทำพิธีอยู่ ไม่รู้ว่าจะแก้กันอย่างไรแล้ว รดน้ำมนต์ใส่ตัวหนาวไปหมดแล้ว จะเป็นไข้อยู่ ตนพูดไม่อยากให้เครียดกัน 3-4 เดือน ที่ผ่านมาสบายใจขึ้น ทุกอย่างเดินไปตามโรดแมป วันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์อีกวันหนึ่งที่เราจะเดินหน้าประเทศไทยไปให้ได้ และหวังในความร่วมมือกัน วันนี้จะต้องเลิกกันให้หมด มาเดินหน้าประเทศไทย ติว่ากันว่าคนนั้นเป็นคนของพวกนั้นพวกนี้ วันนี้จะต้องให้กำลังใจกันเพื่อเดินหน้าต่อไป ให้ทำในสิ่งที่ดี ทุกคนจะต้องมาช่วยกันปรับเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นในอนาคต อย่าให้เสียเวลาเปล่า หรือเสียของ วันนี้มีอย่างเดียว เสียเกียรติยศ เสียความเป็นตัวของตัวเอง ไม่เห็นจะได้อะไรขึ้นมา แต่ประเทศชาติได้ นั่นคือสิ่งที่พวกเราคิด

































































กำลังโหลดความคิดเห็น