ทีมโฆษก คสช.เผยยังไม่แจ้ง หน.คสช.มีใบปลิวโปรยด่า คสช.หน้า บก.ทบ. คาดทราบแล้ว วอนคุยกันได้ แจกใบปลิวไม่เป็นที่ยอมรับ อย่าป่วน ไม่ลงลึกเอี่ยวเหตุใบปลิวด่าหน้า ป.ป.ช. รับมีข้อมูลบ้าง แจงมี จนท.ดูเรื่องคดีอยู่ เชื่อสังคมเข้าใจ คสช.ทำเพื่อชาติ ยันไม่มีผลเลิกอัยการศึก รับเห็นต่างมีเคลื่อนไหวอยู่ เชื่อคุมอยู่ ปัดมองว่าเหยียบถ้ำเสือ เย้ยเปลี่ยนที่โปรยใบปลิว เหตุรอบก่อนกระแสตอบรับไม่ดี
วันนี้ (15 ส.ค.) ที่หอประชุมกองทัพบกเทเวศร์ พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่มีคนร้ายโปรยใบปลิวโจมตี คสช.ที่บริเวณถนนราชดำเนินนอก หน้ากองบัญชาการกองทัพบกว่า ยังไม่ได้เรียนเรื่องนี้ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.ทราบ เมื่อช่วงเช้ามีการประชุมคาดว่าอาจจะได้รับรายงานแล้ว นอกจากนี้ ในแต่ละพื้นที่เรามีเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องความปลอดภัยอยู่แล้วในทุกพื้นที่ คงต้องขอความร่วมมือขอให้เห็นใจด้วยว่าอะไรที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย และเกิดความเข้าใจผิดเรื่องต่างๆ เหล่านี้เราสามารถพูดคุยกันได้ การใช้ใบปลิวโจมตีไม่ใช่วิธีการที่สังคมไทยยอมรับ และขออย่าทำให้สังคมไทยกลับมาวุ่นวายกับเรื่องเหล่านี้เลย ไม่ว่าจะเป็นใบปลิวอะไรก็แล้วแต่ เพราะการทำแบบนี้สร้างความสกปรกให้กับถนน
เมื่อถามว่าลักษณะข้อความที่เผยแพร่คล้ายกับที่เคยมีการโจมตีที่บริเวณหน้าสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวว่า ตนเองยังไม่ขอลงรายละเอียดเพราะยังไม่เห็นข้อความ การดำเนินการอะไรก็แล้วแต่เราต้องดูที่วิธีการ ข้อความเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นมาของคนที่ต้องการได้ในสิ่งที่อยากได้ อาจจะเป็นความคิดของเขาเอง หรือสิ่งที่อยากจะให้มีคนคิดแบบเดียวกัน แต่ในสังคมโดยรวมวิธีการแบบนี้ไม่เป็นที่ยอมรับและไม่ควรที่จะมีการดำเนินการในลักษณะดังกล่าว ทั้งนี้ คสช.มีช่องทางมากมายเปิดให้ร้องเรียนที่เป็นช่องทางที่เหมาะสม และเราก็ยินดีรับฟัง ส่วนการดำเนินการกับผู้ที่กระทำผิดนั้น ทางเรามีเจ้าหน้าที่ที่ดูแลในเรื่องนี้อยู่แล้ว
ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาจติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงเช้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายพลังงานแห่งชาติ ยอมรับว่าถึงวันนี้ก็ยังมีบางส่วนที่ต้องการแสดงออก แต่เชื่อว่าประชาชนและสังคมส่วนใหญ่มีความเข้าใจว่าสิ่งที่ คสช.ได้ทำนั้นก็เพื่อผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนอย่างแท้จริง
เมื่อถามว่า นอกจากความเห็นที่แตกต่างแล้วเรื่องการโจมตีการทำงานของ คสช.น่าจะมีสาเหตุมาจากอะไรอีกบ้าง พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ในส่วนของทีมประชาสัมพันธ์ที่ได้ศึกษาและรับข้อมูลข้อสงสัยต่างๆ นั้นยังไม่มีสาเหตุอื่น แต่ก็พยายามทำความเข้าใจกับทุกๆกลุ่ม
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเคลื่อนไหวต่อต้านและโจมตีการทำหน้าที่ของ คสช.จะมีผลต่อการพิจารณายกเลิกการประกาศใช้กฎอัยการศึกด้วยหรือไม่ พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีผลเพราะเป็นคนละส่วน ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตุว่าการโปรยใบปลิวโจมตีดังกล่าวมีลักษณะเดียวกับที่จังหวัดนนทบุรีนั้น เรื่องนี้ก็ต้องถามฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเท่าที่ทราบก็พอมีข้อมูลอยู่บ้าง ดังนั้น ขั้นตอนการดำเนินการก็ต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เมื่อถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นการฝ่าฝืนกฎอัยการศึกหรือไม่ และจะมีการดำเนินการลงโทษหรือดำเนินการอย่างไร พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ไม่ได้ใช้มาตรการการบังคับอย่างเดียวแต่ใช้การสร้างความเข้าใจ ต้องดูเป็นสถานการณ์ไป แต่ที่ผ่านมาก็พยายามอะลุ้มอล่วยอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเมื่อเกิดเหตุลักษณะนี้ก็แสดงว่าอาจจะยังมีความไม่เข้าใจก็ต้องพยายามทำความเข้าใจผู้ที่ดำเนินการคงต้องการแสดงให้สังคมเห็นว่าแต่ละคนยังมีความเคลื่อนไหวอยู่ แต่เชื่อว่าสังคมสามารถพิจารณาตัดสินได้ เพราะปัจจุบันสังคมส่วนใหญ่ก็เป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่รัฐ ประชาชนทั่วไปเองก็เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่รัฐทำงานโดยไม่มีอคติใดๆ และมีความตั้งใจให้กับทั้งประชาชนและประเทศ
เมื่อถามว่ากองทัพกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ เพราะอาจเกิดพฤติกรรมเลียนแบบขึ้นอีกในอนาคต พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ความเห็นต่างและแสดงออกในลักษณะที่เกิดขึ้นนี้ยอมรับว่ายังมีอยู่บ้างใน 2 ลักษณะ อาจจะเป็นในเครือข่ายโซเชียล บางครั้งก็แสดงออกในเชิงกายภาพ แต่ก็ถือว่ายังเป็นสัดส่วนที่น้อย แต่กองทัพไม่อาจจะบอกได้ว่าให้ความสำคัญมากหรือน้อย แต่ก็ถือว่าถ้ายังมีการเคลื่อนไหวในลักษณะดังกล่าว ซึ่งทางส่วนที่มีหน้าที่ทำความเข้าใจก็ต้องทำงานต่อเนื่องต่อไป
“เรื่องพฤติกรรมเลียนแบบเราก็มองอยู่ แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ยังไม่เกินที่เจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ประเมินไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจประเมินไว้ว่าน่าจะมีการแสดงออกบ้าง มีการสื่อสารทางโซเชียลบ้างเพื่อแสดงออกให้เห็นว่ามีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน ซึ่งแต่ละคนก็มีวิถีการแสดงออกแตกต่างกัน บางคนก็ใช้วิธีการทำเป็นหนังสือ แต่บางคนก็อาจใช้วิธีการตำหนิ ใช้คำไม่สุภาพผ่านทางโซเชียล หรือใบปลิวเพื่อโจมตีดิสเครดิตทำลายความน่าเชื่อถือกัน และมั่นใจว่าฝ่ายความมั่นคงยังคุมสถานการณ์ได้ ทาง คสช.เชื่อว่าการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นไม่กระทบต่อการทำงานของ คสช. ถือเป็นการแสดงออกไม่เกินระดับ ซึ่งเชื่อว่าสังคมส่วนใหญ่เข้าใจ แม้บางคนจะเห็นต่างก็เสียสละก็ทำตามข้อตกลงตาม คสช.” พ.อ.วิธัยกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากทราบว่าใครเป็นผู้ดำเนินการเคลื่อนไหวจะต้องเชิญตัวมาปรับความเข้าใจหรือไม่ พ.อ.วินธัยกล่าวว่า เป็นดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายสืบสวน ระยะหลังแม้จะมีการกระทำที่เข้าข่ายการกระทำผิด แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้ใช้มาตรการเชิงบังคับ ส่วนใหญ่จะใช้ลักษณะการว่ากล่าวตักเตือนและทำความเข้าใจรวมทั้งขอความร่วมมือ มีน้อยรายที่จะใช้มาตรการทางด้านกฎหมายบังคับ
เมื่อถามว่าแต่การโปรยใบปลิวโจมตี คสช.ถึงหน้า บก.ทบ. ถือเป็นการเหยียบถ้ำเสือหรือไม่ พ.อ.วินธัยกล่าวปฏิเสธว่าไม่ได้คิดเช่นนั้น เพียงแต่คนที่เห็นต่างต้องการแสดงออกส่วนจะเป็นกลุ่มใดนั้นต้องถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนกลุ่มที่ยังเคลื่อนไหวโจมตี คสช.ในต่างประเทศนั้นทางเจ้าหน้าก็ดูเป็นกรณี ถ้าต้องสงสัยว่าทำความผิดซึ่งมีการออกหมายแล้วก็ต้องดำเนินการต่อไปเท่าที่ทำได้ในความตกลงระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นหน้าที่ของตำรวจและสำนักงานอัยการสูงสุด วันนี้แนวร่วมของกลุ่มที่เห็นต่าง รวมทั้งกลุ่มเสรีไทยนั้นไม่ได้รับข้อมูลว่ามีการขยายวงมากขึ้น เท่าที่เห็นอยู่ก็เป็นกลุ่มเดิม ลักษณะการโปรยใบปลิวดังกล่าวที่จังหวัดนนทบุรีก็เคยเกิดขึ้น ถือเป็นกิจกรรมที่ฝ่ายไม่เห็นด้วยต้องการแสดงออก และการที่มีการโปรยใบปลิวที่หน้า บก.ทบ.คงเป็นเพราะครั้งที่แล้วที่จังหวัดนนทบุรีไม่ได้รับการตอบรับจากกระแสเท่าที่ควร เช่นเดียวกับกรณีของ น.ส.กฤชสุดา คุณะเสน เพราะส่วนใหญ่เข้าใจว่าวัตถุประสงค์ที่แท้จริงต้องการอะไร จึงมีการเปลี่ยนสถานที่