รองหัวหน้า คสช.ฝ่ายเศรษฐกิจ ประชุมกรรมการนโยบายยาง วางแนวพัฒนาทั้งระบบ ทั้งการบริหารจัดการและพัฒนาผลผลิต เพิ่มศักยภาพการแข่งขันในต่างประเทศ
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงว่า ในวันนี้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (ผช.ผบ.ทบ.) และรองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจของ คสช. ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดนโยบายยางพาราธรรมชาติ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยางธรรมชาติ ครั้งที่ 1/2557 โดยมีผู้แทนจากส่วนราชการต่างๆภาคเอกชน สถาบันเกษตรกรชาวสวนยางพารา สมาคมของผู้ประกอบการยางพาราร่วมหารือ ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้หารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบ เนื่องจากที่ผ่านมายังพบปัญหาทั้งเรื่องการตลาดที่ไม่สะท้อนราคายางพาราที่แท้จริง การใช้ยางพาราในประเทศที่มีจำนวนน้อย รวมถึงการบริหารจัดการยางพาราที่ค้างอยู่ในคลังของรัฐบาล
ขณะที่ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการแนวทางการพัฒนายางพาราทั้งระบบที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ประกอบด้วย การแก้ไขปัญหาเร่งด่วนในการบริหารจัดการยางพาราของรัฐช่วง ส.ค.-ธ.ค. 2557 รวมถึงการบริหารจัดการในช่วงฤดูการผลิต เพื่อยกระดับราคาและเสริมสภาพคล่องทางด้านการตลาด การเพิ่มมูลค่าและคุณภาพของผลผลิต ซึ่งมาตรการที่ใช้เป็นการให้สินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกรเป็นทุนหมุนเวียนในการรวบรวมและแปรรูปยางพารา
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบในหลักการในเรื่องการพัฒนายางพาราเพื่อความยั่งยืนที่จะดำเนินการในหลายลักษณะ เช่น พัฒนาระบบตลาดยางพารา การจัดหาตลาดใหม่เพื่อการเพิ่มการส่งออก การจัดตั้งสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมยาง การควบคุมปริมาณการผลิต การพัฒนาประสิทธิภาพด้านการผลิตของเกษตรกร และการผลิตเพื่อเสริมรายได้ในสวนยางตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในที่ประชุมทุกภาคส่วนได้แสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง ซึ่ง พล.อ.ฉัตรชัยได้มอบให้ฝ่ายเลขาฯนำข้อคิดเห็นไปพิจารณาบรรจุไว้ในแนวทางการพัฒนายางพาราทั้งระบบ โดยจะมีประชุมหารือเพื่อพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง เพื่อนำเสนอต่อคสช.ต่อไป
นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงการบริหารจัดการคลังยางของรัฐบาลว่าจะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อกลไกการตลาดในปัจจุบัน พร้อมให้พิจารณาหาแนวทางการใช้ยางพาราในประเทศให้มากขึ้น มุ่งหาตลาดใหม่ ควบคู่ไปกับการเร่งผลักดัน ให้มีสถาบันที่ดูแลด้านผลิตภัณฑ์ยางในทุกมิติ โดยเฉพาะมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ยางพารา เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในตลาดต่างประเทศต่อไป