xs
xsm
sm
md
lg

“สามารถ” สงสัย ขสมก.เปิดช่องซื้อเมล์ NGV เอื้อประโยชน์บางกลุ่มใช้แชสซีส์รถบรรทุกดัดแปลง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (แฟ้มภาพ)
อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ ซัก ขสมก.ซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 3,183 คัน สงสัยเปิดช่องดัดแปลงใช้แชสซีส์รถบรรทุกสวมรอยดัดแปลงเป็นรถโดยสารเอื้อประโยชน์บางกลุ่ม

วันนี้ (14 ส.ค.) นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เตรียมจัดซื้อรถเมล์ NGV จำนวน 3,183 คัน แบ่งเป็น รถปรับอากาศ 1,524 คัน และรถธรรมดา 1,659 คัน เพื่อทดแทนรถเมล์เดิมซึ่งมีสภาพเก่าและชำรุดทรุดโทรมว่า ถือเป็นสิ่งที่ดีและเป็นความหวังของชาว กทม.ที่จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วยการใช้รถเมล์ที่ดีและทันสมัย แต่ อาจจะเป็นความหวังลมๆ แล้งๆ เพราะร่างข้อกำหนดในการจัดซื้อ หรือทีโออาร์ ของ ขสมก.ที่มีการแก้ไขมาหลายครั้งแล้วไม่ได้ทำให้ความหวังของชาว กทม.เป็นจริง เนื่องจากมีการตั้งข้อสังเกตว่ามีการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการบางรายเป็นพิเศษ ทำให้ต้องแก้ไขทีโออาร์กันหลายครั้ง

นายสามารถกล่าวต่อว่า เรื่องที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักคือ แชสซีส์ ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการบางรายนำแชสซีส์รถบรรทุกมาดัดแปลงเป็นรถเมล์ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าแชสซีส์รถบรรทุกมีราคาถูกกว่าแชสซีส์รถโดยสาร และภาษีนำเข้าก็ถูกกว่า ซึ่งเดิม ขสมก.ได้กำหนดไว้ในร่างทีโออาร์ว่า รถโดยสารสามารถวิ่งบริการรับ-ส่ง และช่วยเหลือประชาชนในพื้นถนนที่มีน้ำท่วมขังไม่น้อยกว่าระดับ 70 เซนติเมตร (ซม.) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งระดับน้ำ 70 ซม.นั้นเป็นระดับน้ำที่สูงเกือบจะถึงเอว และสูงกว่าระดับน้ำท่วมขังเฉลี่ยบนถนนในกรุงเทพฯ ที่สูงประมาณ 30-50 ซม. เหตุที่ ขสมก.ต้องเขียนทีโออาร์ไว้เช่นนี้เป็นเพราะแชสซีส์รถบรรทุกทั่วไปมีความสูงไม่น้อยกว่า 70 ซม. จึงสามารถวิ่งลุยน้ำท่วมสูง 70 ซม.ได้อย่างสบาย แต่ถ้าเป็นแชสซีส์ที่ออกแบบมาสำหรับรถโดยสารโดยเฉพาะจะต้องไม่สูงมาก เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารในการขึ้น-ลง ซึ่งรถโดยสารสมัยใหม่อาจไม่ต้องมีบันได หรืออาจมีเพียงขั้นเดียว เพื่อความสะดวกสบายและปลอดภัยต่อผู้โดยสาร แต่หากนำแชสซีส์รถบรรทุกมาดัดแปลงก็ต้องมีบันไดถึง 3 ขั้นถือว่าล้าสมัยมาก และทำให้ผู้โดยสารขึ้น-ลงรถไม่สะดวก โดยเฉพาะคนชรา เด็กและสตรี

“การไม่กล้ากำหนดไว้ในทีโออาร์ให้ชัดเจนว่าโครงแชสซีส์ต้องมีพื้นฐานการออกแบบให้เป็นแชสซีส์รถโดยสาร และต้องเคยมีผลงานการใช้งานมาก่อนทั้งในประเทศหรือต่างประเทศ ถือเป็นการเอื้อประโยชน์ให้ผู้ประกอบการบางรายที่เตรียมจะประมูลโดยใช้โครงแชสซีส์ดัดแปลงหรือไม่ ทั้งที่ ขสมก.ได้เคยประกาศร่างทีโออาร์ฉบับที่ 11 สำหรับรถปรับอากาศ ขสมก.ระบุชัดเจนว่าจะต้องเป็นรถที่ไม่มีขั้นบันได ถือว่าเป็นการปรับแก้ทีโออาร์ ที่จะทำให้ได้รถปรับอากาศดีขึ้น แต่สำหรับรถธรรมดา หรือรถร้อน ขสมก.ไม่ได้ระบุว่าจะต้องไม่มีบันได ทำให้ถูกวิจารณ์ว่ายังคงเปิดโอกาสให้ดัดแปลงคัสซีจากรถบรรทุกเป็นรถโดยสารได้ ดังนั้นขอฝากความหวังไว้กับรัฐบาล คสช.ช่วยทำให้ชาวกรุงเทพฯ มีโอกาสได้ใช้รถเมล์ที่มีความสะดวกสบาย ทันสมัย และคุ้มค่ากับวงเงินในการจัดซื้อจำนวน 13,162.2 ล้านบาท” นายสามารถกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น