กกต.ปฐมนิเทศ กกต.หน้าใหม่ 14 จังหวัด “ศุภชัย” ย้ำเป็นกลางสุจริต เตือนญาตินักการเมืองถูกจับตา ขอระวังให้ข่าวใบเหลือง-แดง เน้นภารกิจสรรหา สปช. “ธีรวัฒน์” รับ ปชช.ฝากความหวัง ให้รักษาเกียรติ “บุญส่ง” ชี้อย่าให้ความลับราชการรั่ว แยกหน้าที่กับความซี้นักการเมือง ขอให้ช่วยแก้โกงเลือกตั้ง “สมชัย” จี้ อย่าทำสำนวนอ่อน อย่าให้มอง กกต.จังหวัดเป็นพี่เลี้ยงนักการเมือง “ประวิช” แนะมีสำนึกทางการเมือง
วันนี้ (5 ส.ค.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้จัดปฐมนิเทศคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด 14 จังหวัดที่เพิ่งได้รับคัดเลือกและเข้าปฏิบัติหน้าที่ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร, กาฬสินธุ์, จันทบุรี, นครพนม, นครศรีธรรมราช, นนทบุรี, เพชรบูรณ์, มหาสารคาม, มุกดาหาร, ลพบุรี, ศรีสะเกษ, สมุทรปราการ, สิงห์บุรี และอุทัยธานี, โดย กกต.ทั้ง 5 คนได้ร่วมมอบนโยบายและทิศทางการปฏิบัติงาน
โดยนายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต.กล่าวถึงกฎหมายกำหนดคุณสมบัติ กกต.จังหวัดเหมือน กกต.กลาง คือต้องมีความเป็นกลาง และซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ จึงต้องรักษาคุณสมบัตินี้ตลอดเวลา 4 ปีที่ดำรงตำแหน่ง บางคนอาจเป็นญาตินักการเมืองแต่เมื่อเข้ามาสู่ตำแหน่ง สังคมจับจ้องตนเองเข้ามาทำงานไม่กี่เดือนมีเรื่องร้องเรียน กกต.จังหวัดเข้ามาจำนวนมาก ซ้ำยังร้องต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติด้วย จึงขอให้ระมัดระวัง รวมทั้งขอให้ระวังเรื่องการพิจารณามีความเห็นเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) หรือสั่งเลือกตั้งใหม่ (ใบเหลือง) ในสำนวนที่จะส่งมา กกต.กลาง เพราะบางครั้งมีการออกข่าวไป แต่เมื่อสำนวนมาถึงส่วนกลาง กกต.กลับมีความเห็นอีกอย่างนึ่ง ทำให้มีการครหาว่ามีการวิ่งเต้นสำนวนในส่วนกลางซึ่งไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้เพราะบั่นทอนความน่าเชื่อถือองค์กร และยังได้เน้นย้ำในภารกิจการร่วมสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มอบหมายให้ กกต.เป็นฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการสรรหาว่า กกต.จังหวัด และผอ.กกต.จังหวัดต้องศึกษาระเบียบและวิธีการสรรหา สปช.ให้ละเอียดเพื่อปฏิบัติหน้าที่ได้ถูกต้อง
ด้านนายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่า ขณะนี้สังคมกำลังฝากความหวังไว้กับพวกเรา เรากำลังเข้าสู่ยุคการปฏิรูปการเมือง เพื่อทำให้นักการเมืองที่ทุจริตการเลือกตั้งถูกประหารชีวิตทางการเมือง การเมืองทำให้บ้านเมืองของเราเลวร้าย สังคมประชาชนฝากความหวังไว้กับ กกต. ทุกคนจับจ้องมองเราอยู่ ฉะนั้นความสำคัญจึงอยู่ที่ กกต.จังหวัดว่าการทำงานมีความศักดิ์สิทธิ์ จึงขอให้รักษาเกียรติภูมิการทำหน้าที่ให้เต็มที่สมกับความคาดหวังของสังคมเพื่อให้ประเทศไทยสามารถเดินหน้าต่อไปได้ด้วยดี
ขณะที่นายบุญส่ง น้อยโสภณ กกต.ด้านกิจการสืบสวนสอบสวน เห็นว่า กกต.จังหวัดถือว่าทำหน้าที่กึ่งตุลาการ การวางตัวในการวินิจฉัยคดีจึงต้องเป็นกลางทางการเมือง เที่ยงธรรมและสุจริต ที่สำคัญความลับทางราชการถือเป็นเรื่องไม่ควรให้รั่วไหลระหว่างทาง ต้องรู้จักแยกแยะในการทำหน้าที่ เราสามารถรู้จักกับนักการเมืองได้ แต่พอทำหน้าที่ก็ต้องแยกออกจากกัน ทั้งนี้จากที่ได้ลงพื้นที่พูดคุยพนักงานทำให้รู้ว่าบางจังหวัด กกต.ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงและที่ปรึกษาของนักการเมือง จึงอยากให้ทุกคนช่วยกันดูแลองค์กรเพราะในระหว่างนี้อีกปีกว่าๆ จะยังไม่มีการเลือกตั้ง ดังนั้นเราควรปรับปรุงองค์กรของเราให้มีประสิทธิภาพ
นายบุญส่งยังขอให้ช่วยกันแก้ปัญหาการทุจริตเลือกตั้งประเด็นใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นซื้อสิทธิขายเสียง การย้ายทะเบียนบ้าน ย้ายคนเข้ามายังฐานเสียงของตัวเอง การซื้อเสียงล่วงหน้าด้วยการจัดทัศนศึกษาก่อนครบวาระ ที่ปัจจุบันไม่ใช้เพียงการเที่ยวภายในประเทศ แต่ได้มีการจัดพาไปเที่ยวประเทศเพื่อบ้านซึ่งใช้งบของแผ่นดิน และโครงการประชานิยม ที่ไม่ว่าจะเป็นระดับชาติหรือท้องถิ่น
ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า กกต.จังหวัดต้องทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลางโดยเฉพาะการทำสำนวน ไม่ใช้ทำสำนวนอ่อนไม่มีหลักฐาน จะทำให้ กกต.กลางไม่สามารถเอาผิดนักการเมืองได้ และที่ผ่านมา ไม่อยากให้ กกต. จังหวัดถูกว่าเป็นผู้ที่คอยช่วยเหลือนักการเมือง พร้อมกันนี้เชื่อว่าในช่วงที่ยังจะไม่มีการเลือกตั้งไปอีกปีกว่าๆ ก็ขอให้ กกต.จังหวัดช่วยกันคิดเรื่องการปฏิรูปการเมือง เพื่อให้ประชาชนรู้เท่าทันนักการเมืองและปฏิรูป กกต. ว่ามีจุดอ่อนหรือข้อบกพร้องตรงไหนเพื่อพัฒนาระบบงานของ กกต.ให้ดีขึ้น
ส่วนนายประวิช รัตนเพียน กกต.ด้านการมีส่วนร่วมกล่าวเน้นย้ำว่า การทำงานของ กกต.ต้องวางตัวเป็นกลาง สามารถตรวจสอบได้ อีกทั้งการจัดการเลือกตั้งนั้นสิ่งที่สำคัญคือต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และต้องตระหนักถึงสำนึกทางการเมืองเพื่อสร้างทัศนคติที่ดีต่อการมีส่วนร่วมในสังคม