xs
xsm
sm
md
lg

ทีม กม.ปชป.เรียกร้อง คสช.เร่งออก กม.เกี่ยวกับปัญหาปากท้อง ปชช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วิรัตน์ กัลยาศิริ (แฟ้มภาพ)
หัวหน้าทีมกฎหมาย ปชป.แนะ คสช.เร่งออกกฎหมายเน้นแก้ปัญหาปากท้องประชาชน และปราบปรามการทุจริต เชื่อไม่มีเด็ก ปชป.ร่วม สนช.หรือกรรมการปฏิรูป เตือนจะสมานฉันท์โดยการทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย ให้เป็นสิ่งถูกคงไม่ได้ ต้องเดินหน้ายึดหลักถูกต้อง



นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ทีมงานฝ่ายกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความมั่นคงแห่งชาติ (คสช.) เตรียมจัดทำสรุปข้อมูล ร่าง พ.ร.บ.ที่ค้างพิจารณาในสภาฯ เพื่อเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์อยากฝากให้ คสช.เร่งพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามการทุจริต ให้มีเนื้อหาสาระและมีประสิทธิภาพ รวมถึงการไม่มีอายุความกับนักการเมือง และข้าราชการที่กระทำความผิด โดยให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ติดตามตรวจสอบ หรือไต่สวนถึงการได้มา หากมีมูลก็ให้ผู้มีอำนาจสั่งระงับการเดินทางออกนอกประเทศ และให้มีกฎหมายเกี่ยวกับการลงทุน

นายวิรัตน์กล่าวว่า อย่างกรณีที่ คสช.มีการปรับกฎหมายเกี่ยวกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อลดช่องทางการทุจริตทุกขั้นตอนในการอนุมัติการลงทุน โดยต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วและไม่มีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง รวมถึงประเด็นที่เกี่ยวกับทรัพยากร ป่าไม้ โดยต้องพิจารณาว่าป่ารุกคนหรือคนรุกป่า หากป่ารุกคน คือ ประชาชนอยู่มาก่อนที่หลวงหรือที่อุทยาน หรือก่อนประกาศเขต พ.ร.บ.ป่าไม้ คนเหล่านั้นต้องไม่ถูกรังแกจากเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะปัจจุบันมีการใช้กฎหมายไปรังแกชาวบ้าน ทั้งที่จังหวัดสตูล จังหวัดกระบี่ และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นต้น ดังนั้นต้องมีการระบุไว้ในกฎหมายชัดเจน

ส่วนที่ประชาชนบุกรุกป่าภายหลังก็ต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดชัดเจน ส่วนประเด็นเลือกตั้งควรจะมีศาลเลือกตั้ง เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่จะเกิดประโยชน์ต่อทุกฝ่าย เช่น คนที่ถูกใบเหลืองใบแดงก็จะมีโอกาสต่อสู้ในศาลได้

“คสช.ควรเร่งพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวข้อง กับปากท้องของประชาชนเป็นหลัก ส่วนการป้องกันการทจริตปัญหาหลัก คือ เจ้าหน้าที่ตามไม่ทันกระบวนการโกงมีการใช้เจ้าหน้าที่เป็นเครื่องมือ มีการหนีไปให้พ้นอายุความแล้วกลับมา ควรจะต้องปรับทัศนคติและความรู้รวมถึงการปรับรายได้ของเจ้าหน้าที่ด้วย”

ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สั่งห้ามลูกพรรคไม่ให้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และคณะกรรมการปฏิรูปนั้น นายวิรัตน์กล่าวว่า คงไม่มีสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์คนไหนที่ต้องการเสนอตัว เข้าไปเป็นทั้ง สนช.หรือสภาปฏิรูปด้วย เพราะยังต้องเล่นการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอยู่ ไม่เช่นนั้นจะถูกตราหน้าว่าเป็นท๊อปบู๊ท และคงไม่มีนักการเมืองคนไหนอยากไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ ขอให้เจ้าของประเทศและกลุ่มอาชีพที่หลากหลาย เข้าไปมีส่วนในการยกร่างปฏิรูปและเป็นสภาปฏิรูปดีกว่า โดยรวมคนที่มีความรู้จริงและเป็นตัวแทนของกลุ่มอาชีพอย่างแท้จริง

นายวิรัตน์ยังกล่าวถึงงานคืนความสุขให้ประชาชน ซึ่ง คสช.จัดขึ้นที่ท้องสนามหลวงว่า การจะสมานฉันท์โดยการทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย ให้เป็นถูกคงเป็นไปไม่ได้ อะไรผิดก็ต้องว่าไปตามผิด ใครที่ถูกรังแกก็ต้องเอากลับเข้ามานั้นถูกต้องแล้ว ประเทศก็เดินหน้าไปได้อยู่แล้ว จากรัฐบาลที่แล้วคนของรัฐรู้เห็นเป็นใจเข่นฆ่าประชาชน เมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาลก็มีการจับกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุจากที่ต่างๆ ได้ หากนำกฎหมายมาบังคับใช้อย่างจริงจังก็จะเกิดความสงบสุขได้ และใครที่ทุจริตคดโกงก็ปล่อยเอาไว้ไม่ได้

“ปัญหาของบ้านเมืองตั้งแต่ปี 49 มีบางกลุ่มที่ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยก โดยมีการกอบโกยหาผลประโยชน์เกาะกินอย่างน่ารังเกียจ ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่มีอยู่ ดังนั้นต้องยึดความถูกต้องเป็นหลัก บ้านเมืองถึงจะอยู่ได้ อย่าคิดว่าตอนนี้ระบอบทักษิณเงียบแล้วไม่มีอะไรต่อถือเป็นการคิดผิด ต้องมีการสาวปัญหาทุจริตให้ถึงตอ รวมถึงการก่อเหตุร้ายต่างๆ ด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้มีอำนาจต้องทำอย่างไม่เกรงกลัว หรือลูบหน้าปะจมูก ความผาสุกก็จะเกิดขึ้นเอง”


กำลังโหลดความคิดเห็น