อดีต ส.ส.ปชป.ที่ทางการเขมรปล่อยตัวออกมาก่อน ร้อนตัวแทน หน.ปชป. อ้างทำทุกวิถีทางช่วยเหลือแล้วแต่ชายแดนตึงเครียด โบ้ย “ฮุน เซน” สนิทกับ “ทักษิณ” ทำสัมพันธ์กระทบกระทั่ง เผยลำบากในคุกเขมรต้องทำตามกฎ สถานทูตไทยดูแลดีอยู่แล้ว เชื่อทหารคุยกันตกลงเรื่องทรัพยากรทางทะเล-ค้าขายชายแดน
วันนี้ (7 ก.ค.) นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายวีระ สมความคิด แกนนำกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ ระบุว่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ทำหน้าที่จริงจังในการช่วยเหลือให้ออกจากเรือนจำเปรยซอร์ ประเทศกัมพูชา แต่ปล่อยให้ถูกจับตัวไปดำเนินคดี และพร้อมเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดในเวลาที่เหมาะสมว่า เป็นสิทธิของนายวีระ ตนคงไม่แก้ข่าวนี้ แต่จะขอพูดความจริงทั้งหมดว่าสิ่งที่ตนสัมผัสมาตั้งแต่ตอนที่ถูกจับเข้าไปอยู่ในเรือนจำเป็นเวลา 30 วัน ได้รับการดูแลจากทางสถานทูตไทยประจำประเทศกัมพูชา เพราะมีคำสั่งออกมาให้พยายามดูแลพวกเราอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเฉพาะเรื่องของความเป็นอยู่ แต่ในเรือนจำเปรยซอร์มีกฎระเบียบที่เข้มมาก ก็ต้องทำตามกฎหมายของเขา
นายพนิชกล่าวว่า หลังจากที่ตนกลับมาแล้วได้พูดคุยกับนายอภิสิทธิ์ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีขณะนั้น ก็บอกกับตนว่าพยายามทำทุกวิถีทางในการช่วยเหลือ นอกจากนี้ ตนยังได้พามารดาและน้องชายของนายวีระไปพบกับนายอภิสิทธิ์เพื่อขอความช่วยเหลือ ทราบว่านายอภิสิทธิ์ได้พยามยามทำทุกวิถีทางที่จะประสาน แต่ขณะนั้นสถานการณ์ตามแนวชายแดนมีความตึงเครียด มีการปะทะกันบริเวณปราสาทพระวิหาร หลังจากนั้น 3 เดือนรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ก็ยุบสภา ส่วนรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์นั้นตนคงไปพูดแทนไม่ได้ว่ามีการช่วยเหลืออย่างไรบ้าง
ส่วนที่มีการมองว่า การเมืองในประเทศสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์อาจผูกโยงกับการเมืองระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้การช่วยเหลือไม่เต็มที่ นายพนิชกล่าวว่า คงมีความเป็นไปได้ส่วนหนึ่ง เพราะสมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา มีความสนิทสนมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาก็กระทบกระทั่งกันมาระยะหนึ่งจากกรณีปราสาทพระวิหาร ก่อนที่ตนจะถูกจับตัวอยู่ในเรือนจำเปรยซอร์ ดังนั้นการขอร้องในเรื่องของมนุษยธรรมก็อาจทำได้ยาก
ส่วนการคาดหวังเรื่องการพูดคุยกันเกี่ยวกับปัญหาชายแดนไทยกัมพูชาจากนี้ไป นายพนิชกล่าวว่า ตนคิดว่าปัญหาหลายเรื่องค่อนข้างเดินหน้า และชัดเจนมากขึ้นกว่าในอดีต คงต้องยอมรับว่าความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลทหารของทั้งสองประเทศในระดับชาติดีขึ้นมาก เข้าใจว่าคงจะมีการพูดคุยกันเพื่อรักษาผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายต่อไป เช่น ทรัพยากรทางทะเล และการค้าขายตามแนวชายแดน เป็นต้น