สวนดุสิตโพล อ้างชาวไทย ร้อยละ 46.23 ทำใจยอมรับคำพิพากษาศาลโลก ร้อยละ 66.5 เชื่อตัดสินพระวิหารเป็นผลดีทั้งคู่ ร้อยละ 33.9 ห่วงคนในพื้นที่ไม่ปลอดภัย ร้อยละ 49.51 ค่อนข้างมั่นใจศาล ร้อยละ 80.3 ชูเหตุพิพาททำคนรักชาติมากขึ้น
วันนี้ (20 ต.ค.) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สอบถามความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,477 คน ถึงกรณีศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก นัดฟังคำพิพากษาคดีที่ประเทศกัมพูชายื่นขอตีความคำตัดสินคดีปราสาทเขาพระวิหาร ในวันที่ 11 พ.ย.นี้ โดยถามถึงการเตรียมตัว เตรียมใจของคนไทย ในกรณีดังกล่าว พบว่า 46.23% ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ควรยอมรับและเคารพในการตัดสินของศาลโลก 23.58% หากผลการตัดสินไม่เป็นไปตามที่คาดหวังหรือไม่เป็นผลดีต่อไทยก็ต้องทำใจไว้บ้าง 16.98% จะเป็นแรงใจ เป็นกำลังใจและภาวนาให้ประเทศไทยชนะคดีนี้ และ 13.21% คอยติดตามรับฟังข่าวสาร การวิเคราะห์วิจารณ์ในเรื่องนี้โดยตลอด
เมื่อถามว่า ประชาชนคิดว่าผลการตัดสินคดีปราสาทเขาพระวิหารในครั้งนี้จะออกมาเป็นอย่างไร 66.50% น่าจะเป็นผลดีกับทั้งสองฝ่าย เพราะก่อนที่ศาลโลกจะตัดสินคงจะชั่งน้ำหนัก ผลดี ผลเสียมาก่อนแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดกรณีพิพาทต่อกัน ฯลฯ 17.74% น่าจะเป็นผลดีกับฝ่ายไทย เพราะเชื่อมั่นในการดำเนินการของรัฐบาลและทีมทนายความของไทย ข้อมูล เอกสารหลักฐานต่างๆ โดยเฉพาะแผนที่ประกอบการชี้แจงที่ไทยเคยส่งไปน่าจะมีน้ำหนักพอ ฯลฯ และ 15.76% น่าจะเป็นผลดีกับฝ่ายกัมพูชา เพราะทางกัมพูชาน่าจะหาทางออกหรือมีแผนรับมือไว้แล้ว และประเทศกัมพูชาเองเป็นผู้ยื่นขอตีความคำตัดสินคดีปราสาทพระวิหาร ในวันที่ 11 พ.ย.นี้ ฯลฯ
เมื่อถามถึงสิ่งที่ประชาชนวิตกกังวล 33.90% ความไม่ปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ เพราะอาจเกิดเหตุการณ์หรือการปะทะกันที่รุนแรง 29.66% กลัวว่าประเทศไทยจะเสียเปรียบ ไม่ได้รับความเป็นธรรมและเสียพื้นที่ให้กับกัมพูชา 20.34% ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะด้านธุรกิจ การค้าชายแดน การลงทุน และ 16.10% กลายเป็นประเด็นทางการเมือง โจมตีกันไปมา ประชาชนออกมาเคลื่อนไหว
เมื่อถามถึงความมั่นใจของประชาชน ต่อ ศาลโลก 49.51% ค่อนข้างมั่นใจ เพราะการตัดสินของศาลโลกจะต้องผ่านการพิจารณา ตรวจสอบเอกสารหลักฐานอย่างละเอียด ฯลฯ 24.76% ไม่ค่อยมั่นใจ เพราะกระแสข่าวจากสื่อต่างๆ และการวิพากษ์วิจารณ์ของผู้รู้ทั้งหลายทำให้ไม่มั่นใจเท่าที่ควร ฯลฯ 15.54% มั่นใจมาก เพราะ เชื่อมั่นในความยุติธรรม การทำหน้าที่ของศาลโลกจะต้องอยู่บนบรรทัดฐานของความถูกต้อง ฯลฯ และ 10.19% ไม่มั่นใจ เพราะ กลัวว่าประเทศไทยจะเสียเปรียบ ศาลโลกถูกแทรกแซง เป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบกับหลายฝ่าย ฯลฯ
เมื่อถามว่า การที่ไทยมีกรณีพิพาทกับกัมพูชาในครั้งนี้ ทำให้ประชาชนรักชาติไทยมากขึ้นหรือไม่? 80.30% รักชาติไทยมากขึ้น เพราะรู้สึกสงสารและเห็นใจประเทศชาติ ไม่อยากเสียพื้นที่ของไทยให้กับกัมพูชา ฯลฯ และ 19.70% รักชาติไทยเท่าเดิม เพราะ ประเทศไทยคือบ้านเกิดเมืองนอน คนไทยทุกคนย่อมรักชาติรักแผ่นดินของตัวเอง ฯลฯ
วันนี้ (20 ต.ค.) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สอบถามความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,477 คน ถึงกรณีศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก นัดฟังคำพิพากษาคดีที่ประเทศกัมพูชายื่นขอตีความคำตัดสินคดีปราสาทเขาพระวิหาร ในวันที่ 11 พ.ย.นี้ โดยถามถึงการเตรียมตัว เตรียมใจของคนไทย ในกรณีดังกล่าว พบว่า 46.23% ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ควรยอมรับและเคารพในการตัดสินของศาลโลก 23.58% หากผลการตัดสินไม่เป็นไปตามที่คาดหวังหรือไม่เป็นผลดีต่อไทยก็ต้องทำใจไว้บ้าง 16.98% จะเป็นแรงใจ เป็นกำลังใจและภาวนาให้ประเทศไทยชนะคดีนี้ และ 13.21% คอยติดตามรับฟังข่าวสาร การวิเคราะห์วิจารณ์ในเรื่องนี้โดยตลอด
เมื่อถามว่า ประชาชนคิดว่าผลการตัดสินคดีปราสาทเขาพระวิหารในครั้งนี้จะออกมาเป็นอย่างไร 66.50% น่าจะเป็นผลดีกับทั้งสองฝ่าย เพราะก่อนที่ศาลโลกจะตัดสินคงจะชั่งน้ำหนัก ผลดี ผลเสียมาก่อนแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดกรณีพิพาทต่อกัน ฯลฯ 17.74% น่าจะเป็นผลดีกับฝ่ายไทย เพราะเชื่อมั่นในการดำเนินการของรัฐบาลและทีมทนายความของไทย ข้อมูล เอกสารหลักฐานต่างๆ โดยเฉพาะแผนที่ประกอบการชี้แจงที่ไทยเคยส่งไปน่าจะมีน้ำหนักพอ ฯลฯ และ 15.76% น่าจะเป็นผลดีกับฝ่ายกัมพูชา เพราะทางกัมพูชาน่าจะหาทางออกหรือมีแผนรับมือไว้แล้ว และประเทศกัมพูชาเองเป็นผู้ยื่นขอตีความคำตัดสินคดีปราสาทพระวิหาร ในวันที่ 11 พ.ย.นี้ ฯลฯ
เมื่อถามถึงสิ่งที่ประชาชนวิตกกังวล 33.90% ความไม่ปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ เพราะอาจเกิดเหตุการณ์หรือการปะทะกันที่รุนแรง 29.66% กลัวว่าประเทศไทยจะเสียเปรียบ ไม่ได้รับความเป็นธรรมและเสียพื้นที่ให้กับกัมพูชา 20.34% ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะด้านธุรกิจ การค้าชายแดน การลงทุน และ 16.10% กลายเป็นประเด็นทางการเมือง โจมตีกันไปมา ประชาชนออกมาเคลื่อนไหว
เมื่อถามถึงความมั่นใจของประชาชน ต่อ ศาลโลก 49.51% ค่อนข้างมั่นใจ เพราะการตัดสินของศาลโลกจะต้องผ่านการพิจารณา ตรวจสอบเอกสารหลักฐานอย่างละเอียด ฯลฯ 24.76% ไม่ค่อยมั่นใจ เพราะกระแสข่าวจากสื่อต่างๆ และการวิพากษ์วิจารณ์ของผู้รู้ทั้งหลายทำให้ไม่มั่นใจเท่าที่ควร ฯลฯ 15.54% มั่นใจมาก เพราะ เชื่อมั่นในความยุติธรรม การทำหน้าที่ของศาลโลกจะต้องอยู่บนบรรทัดฐานของความถูกต้อง ฯลฯ และ 10.19% ไม่มั่นใจ เพราะ กลัวว่าประเทศไทยจะเสียเปรียบ ศาลโลกถูกแทรกแซง เป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบกับหลายฝ่าย ฯลฯ
เมื่อถามว่า การที่ไทยมีกรณีพิพาทกับกัมพูชาในครั้งนี้ ทำให้ประชาชนรักชาติไทยมากขึ้นหรือไม่? 80.30% รักชาติไทยมากขึ้น เพราะรู้สึกสงสารและเห็นใจประเทศชาติ ไม่อยากเสียพื้นที่ของไทยให้กับกัมพูชา ฯลฯ และ 19.70% รักชาติไทยเท่าเดิม เพราะ ประเทศไทยคือบ้านเกิดเมืองนอน คนไทยทุกคนย่อมรักชาติรักแผ่นดินของตัวเอง ฯลฯ