xs
xsm
sm
md
lg

ทนอีกนิด ร่วมกันเบ่ง “ขี้แม้ว” ก้อนนี้ก็จะหลุดจากรูทวารแล้ว!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

ดีไม่ดีก่อนสิ้นปีนี้ก็อาจจะได้เห็น “พลังมหาชน” จะน่วมกันเบ่ง “ขี้แม้ว” ที่ติดคารูทวารออกไปได้ ให้คนไทยได้หายอึดอัดรำคาญออกไปได้เสียที เพราะเมื่อพิจารณาจากอาการของคนไทยแล้วจะสังเกตเห็นได้ว่า “เริ่มไม่เฉย” มากขึ้น แม้ว่ายังไม่เพิ่มในอัตราเร่ง แต่ก็ถือว่าเพิ่มก็แล้วกัน อย่างน้อยก็เห็นได้จากการเข้าร่วมชุมนุมที่แยกอุรุพงษ์ที่มีความหลากหลายมากขึ้นกว่าเดิม เชื่อว่าคงจะพอสัมผัสความจริงกันได้แน่นอน

เชื่อว่าสังคมไทยเริ่ม “ตาสว่าง” กันมากขึ้นแล้วว่า ทักษิณ ชินวัตร คือต้นเหตุของแทบทุกปัญหา เหมือนกับที่ ธีรยุทธ บุญมี “นักวิชาการเสื้อกั๊ก” ออกมาเปรียบให้เห็นภาพว่า ไม่ต่างจาก “ก้อนอุจจาระที่คารูทวาร” ที่แม้จะเบ่งหรือแคะยาก แต่ถ้าหลุดออกไปได้เมื่อไหร่ก็จะรู้สึกโล่งคลายความอึดอัดรำคาญทันที

ล่าสุด อย่างกรณีคำตัดสินของศาลโลกที่ร่นข้ามานัดอ่านคำพิพากษาในวันที่ 21 พฤศจิกายน ก็จะได้รู้กันว่าจะสร้างแรงสั่นสะเทือนไปถึงรัฐบาล ยิ่งลักษณ ชินวัตร ได่สักเพียงใด เพราะผลออกมาว่าตัดสินให้ “เขมรฮุนเซน” ได้ครอบครองพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหารประมาณ 4.6 ตารางกิโลเมตร หรือราว 3 พันไร่ หรืออาจน้อยหรือมากกว่านั้นก็ตามถือว่า “ป่วนแน่” เพราะรับรองว่าคนไทยไม่ยอมรับ และดีไม่ดีจะเกิดเหตุวุ่นวายกันไปใหญ่ และด้วยปัญหาดังกล่าวรัฐบาลก็รับรู้สัญญาณล่วงหน้าทันทีว่าอาจต้องเกิดเหตุใหญ่จึงเรียกระดมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดมาตรการรองรับทันทีในวันที่ 21 ตุลาคม และแม้ว่าจะรู้แกวล่วงหน้าว่ารัฐบาลชุดนี้ก็จะยืนยันว่า “สู้เต็มที่แต่แพ้จะให้ทำไงล่ะ” ประมาณนี้ แล้วโบ้ยไปให้รัฐบาลประชาธิปัตย์ยุคของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าเป็นคนเริ่มต้น ยังใช้ทนายชุดเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งก็ไม่ผิดแต่ความหมายก็คือ ที่ผ่านมา “มวลชนคนรักชาติ” หรืออย่างน้อยก็มีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเคยออกแถลงการณ์เรียกร้องเป็นหลักฐานไปแล้วให้ “ปฏิเสธอำนาจศาลโลก” พร้อมทั้งแถลงท่าทีในนามของประเทศไทยให้ชัดเจน แต่ก็ไม่ทำ เพียงเพราะ “มีเจตนาซ่อนเร้น” หรือแม้แต่ระหว่างสู้คดีที่ผ่านมาตัวรัฐมนตรีต่างประเทศ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ก็อิดออดดูเหมือนไม่เต็มใจสู้ให้ไทยชนะคดีด้วยซ้ำ มาถึงวันนี้กลายเป็นว่าไทยต้องลุ้นระทึกกับคำพิพากษาของศาลโลก มีแต่แพ้กับเสมอตัว ตรงข้ามกับกัมพูชาที่มีแต่ได้ ไม่มีเสีย ซึ่งเชื่อว่าประเด็นเรื่องพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารจะร้อนแรงขึ้นมาเรื่อยๆทุกวัน และจะลุกลามเกี่ยวโยงไปถึง “ไอ้ขี้ขำ” ทักษิณ ชินวัตร แบบเต็มๆ ซึ่งจะได้เห็นภาพในประเด็นถัดไป

แน่นอนว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ที่สาระสำคัญ คือ เปิดทางให้รัฐบาลสามารถเจรจาการค้ากับต่างชาติได้ครอบคลุมในแทบทุกเรื่อง ไม่เว้นแม่แต่ธุรกิจข้ามชาติเอื้อต่อการร่วมลงทุนในด้านธุรกิจพลังงานกับประเทศเพื่อนบ้านหากพูดให้ตรงเป้าก็คือ กรณีกับกัมพูชาสามารถทำได้สะดวก ไม่ต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาอีกต่อไป เพราะมีการตัดความในมาตราดังกล่าวที่เกี่ยวกับสัญญาทางเศรษฐกิจและสังคม ความหมายก็คือถ้าแก้ไขสำเร็จ ต่อไปก็สามารถลงทุนร่วมกับกัมพูชาในพื้นที่ที่อ้างว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทย “ได้โดยสะดวก” และถามว่าธุรกิจแบบนี้มีความหมายไปถึง ทักษิณ ชินวัตร ใช่หรือไม่

อย่างไรก็ดี นั่นคือเรื่องใหญ่ที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคนไทยต้องเผชิญในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ขณะเดียวกันยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่คนไทยล้วนๆที่ได้รับผลกระทบและมีความเดือดร้อนก็คือความล้มเหลวห่วยแตก และมีเจตนา"ฉ้อฉล"ที่เห็นได้ชัดก็คือความล้มเหลวในการแก้ปัญหาเรื่องค่าครองชีพที่สูงลิบลิ่ว สร้างผลกระทบให้กับชาวบ้านในวงกว้าง และล่าสุดก็เพิ่งถูกเปิดโปงตัวเลขขาดทุนจากโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลสองปี ยับเยินไปแล้วกว่า 4.25 แสนล้านบาท ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเปิดเผยจากอดีต รมว.คลัง มรว.ปรีดิยาธร เทวกุล ก็น่าจะพอเชื่อถือได้ ซึ่งตัวเลขที่ชี้ออกมาให้เห็นมีลักษณะ “เจตนาให้ขาดทุน” เพราะนี่คือ “เจตนาโกง” ไม่น้อยกว่า 2 แสนล้านบาท เงินพวกนี้ก็เข้ากระเป๋าคนในครอบครัวของ “ไอ้ขี้ขำ” ทั้งสิ้น เหลือตกถึงมือชาวนาเพียงแค่จี๊บจ๊อย และก็ต้องแลกมาด้วยการลงทุนด้วยหยาดเหงื่อแรงงานแทบเป็นแทบตาย

ดังนั้น ถ้าพิจารณาจากปรากฏการณ์และความจริงที่ถูกเปิดเผยออกมาให้คนไทยทุกกลุ่มได้เห็นมากขึ้น แม้ว่าบางคนอาจจะนึกไม่ถึง ไม่อยากรับรู้ไม่คิดว่า ทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาลจะล้มเหลวห่วยแตกคิดแต่แสวงหาประโยชน์ได้น่าเกลียดถึงเพียงนี้ และด้วย “ความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ดังกล่าว” มันก็เหมือนกับเป็นแรงส่งที่ทำให้ระบอบทักษิณอ่อนแอลงไป ถ้าเปรียบ ทักษิณ เป็นขี้ขำที่ค้างคารูทวารจนสร้างความอึดอัดมานาน แต่ต่อไปนี้เชื่อว่าเมื่อสังคมได้รับรู้ความจริงมากขึ้นมันก็จะเกิดความร่วมมือกันต่อต้าน เหมือนกับร่วมกันเบ่งให้ “อุจจาระ” ก้อนนี้พ้นออกไปโดยเร็ว เพียงแต่ต้องอดทนอีกนิดเดียวเท่านั้นเอง!!
กำลังโหลดความคิดเห็น