ผบ.ทอ. เชิญผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวกับพลังงาน พร้อมด้วยเครือข่ายภาคประชาชนที่สนใจด้านพลังงาน ถกข้อเท็จจริงด้านราคาพลังงานก่อนปรับโครงสร้างราคา ที่จะแล้วเสร็จสิ้นเดือนนี้ เสนอหัวหน้า คสช. “รสนา” ค้านใช้วิธีลดภาษี แต่หนุนลดค่าใช้จ่ายการสูญเสียระหว่างทาง กำหนดราคาหน้าปั้ม ส่วนเรื่องกองทุนน้ำมันค่อยๆ ขยับ เน้นก๊าซแอลพีจี ยึดภาคครัวเรือน ชี้นำก๊าซโรงแยกก๊าซไม่เป็นธรรม
วันนี้ (15 มิ.ย.) ที่หอประชุมกองทัพอากาศ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ในฐานะรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รับผิดชอบฝ่ายเศรษฐกิจ เชิญผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวกับพลังงาน อาทิ กระทรวงพลังงาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. สำนักงานกฤษฎีกา กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต พร้อมด้วยเครือข่ายภาคประชาชนที่สนใจด้านพลังงาน อาทิ น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว. กรุงเทพฯ นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา แกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนและเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย (กคป.) นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ อดีต รมว.พลังงาน แกนนำกลุ่มปฏิรูปพลังงานเพื่อความยั่งยืน และแนวร่วม กปปส. นางสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค นางบุญยืน ศิริธรรม อดีต ส.ว. สมุทรสงคราม มาสนทนาหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อรับทราบข้อเท็จจริงด้านราคาพลังงาน ก่อนนำไปสู่การปรับโครงสร้างราคาพลังงาน ที่จะแล้วเสร็จในสิ้นเดือน มิ.ย. นี้
ทั้งนี้ พล.อ.อ.อ.ประจิน ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าหารือว่า ในวันนี้ได้เชิญผู้ที่มีความคิดเห็นต่างเกี่ยวกับเรื่องพลังงานมาพูดคุยหารือ เพื่อเป็นข้อมูลเป็นพื้นฐานในการปรับโครงสร้างพลังงาน โดยคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน มิ.ย. นี้ เพื่อเสนอหัวหน้า คสช. ส่วนรายละเอียดต้องรอภายหลังการหารือ
ด้าน น.ส.รสนา ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าหารือว่า ในฐานะกลุ่มจับตาปฏิรูปพลังงานประเทศไทย (จพท.) วันนี้ได้เตรียมประเด็นเน้นเฉพาะเรื่องราคาน้ำมัน และก๊าซแอลพีจี เป็นหลัก ถ้าให้พูดถึงเรื่องพลังงานโดยรวมจะมีหลายประเด็นมาก ใช้เวลา 1 วัน คงไม่จบ ซึ่งวันนี้ คสช. ถือว่าปัญหาค่าครองชีพของประชาชนเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องลดภาระ ซึ่งการพูดคุยจะเน้นเรื่องหลักการเป็นพื้นฐาน หากพูดคุยและหารือกันแล้วอาจจะมีการปรับฐานความคิดตัวเลขต่างๆ ว่าจะลดหรือเพิ่มอย่างไร
อย่างไรก็ตาม เรื่องการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน ในเรื่องนี้ทาง จพท. กำลังมองเรื่องนี้อยู่และไม่เห็นด้วย หากจะมีการปรับลดราคาพลังงานด้วยการลดภาษี ก็ถือเป็นประชานิยม ซึ่งรัฐควรใช้เงินภาษีตรงนี้ไปบริหารประเทศมากกว่า ทั้งนี้ ตนได้เตรียมข้อมูลปรับโครงสร้างราคาน้ำมันมา 3 ข้อ ได้แก่ 1. ในส่วนของเนื้อน้ำมันควรลดค่าใช้จ่ายการสูญเสียระหว่างทาง เช่น การขนส่ง 2. เรื่องการตลาดควรกำหนดราคาหน้าปั้มน้ำมันโดยได้รับส่วนแบ่ง 75 สตางค์ต่อลิตร 3. เรื่องกองทุนน้ำมัน มองว่าหากมีการยุบกองทุนทิ้งไปจะทำให้ราคาน้ำมันแต่ละชนิดเขย่งกัน แต่มองว่าควรค่อยๆ ขยับ โดยเน้นก๊าซแอลพีจีเป็นหลัก
น.ส.รสนา กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการจัดหาพลังงานทดแทน ทางกระทรวงพลังงานมีหน้าที่จัดหาพลังงานมาให้คนไทยด้วยความเป็นธรรม แต่ขณะนี้มีการนำก๊าซจากโรงงานแยกก๊าซที่มาจากอ่าวไทยไปให้ปิโตรเคมีใช้ มองว่าไม่เป็นธรรม ทั้งนี้ การใช้พลังงานส่วนนี้ต้องยึดหลักภาคครัวเรือนเป็นสำคัญ หากสามารถดำเนินการได้ก็จะสามารถตัดกองทุนน้ำมันทิ้งไปได้ ส่วนความเป็นไปได้ที่ พล.อ.อ.ประจิน เตรียมปรับโครงสร้างพลังงานให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือน มิ.ย.นั้น น.ส.รสนา กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ในช่วงการเริ่มต้น แต่ไม่อยากให้มองว่าจะต้องเสร็จภายในสิ้นเดือน มิ.ย.ทันที ซึ่งการดำเนินการอาจจะทำที่ละขั้นตอน พร้อมทั้งดูเส้นทางการปรับให้เกิดความเป็นธรรม