“นิวัฒน์ธำรง” อ้างลาออกผิด กม. จุกเจอบี้รัฐประหาร ปัดไม่จริงใจรับอยากเจอ “บิ๊กตู่”

รมต.เฝ้าเก้าอี้นายกฯ ยันร่วมมือหาทางออกชาติ อ้างศึกษาแล้วไม่มีทางอื่นที่รัฐมีอำนาจเต็ม นอกจากเลือกตั้ง ตีมึนลาออกผิด กม. ต้องรักษาการจนมี ครม.ใหม่ หวัง ผบ.ทบ.ช่วยหาทางออกตาม กม. เร็วยิ่งดี รับมีเวลาก็อยากเจอ ปัดไม่จริงใจเมินพบเอง ไม่จุ้นกฤษฎีกาปมเก้าอี้ ปธ.วุฒิฯ รอข้อแนะก่อนเดินตาม ดักนายกฯ ต้องมาจากเลือกตั้ง ปัดบอก ผบ.ทบ.ไม่เหมาะ จุกตอบไม่ได้เจอจี้ฝืนต่อมีรัฐประหาร

วันนี้ (22 พ.ค.) ที่กระทรวงพาณิชย์ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลที่ไม่เดินทางไปร่วมหารือกับกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) ที่สโมสรทหารบกว่า ได้ส่งตัวแทนไปคุยแล้วตั้งแต่เมื่อวานและวันนี้ก็ยังมีนายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม เป็นหัวหน้าคณะเช่นเดิมซึ่งรัฐบาลยินดีร่วมกันหาทางออกให้ประเทศอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามเราคงต้องยึดหลักการนิติรัฐ นิติธรรม เดินตามระบอบประชาธิปไตย ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ถือเป็นเรื่องสำคัญ หากมีคนหลากหลายกลุ่มและยึดข้อกฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับทุกกลุ่ม เพราะกฎหมายเป็นระเบียบสังคม ดังนั้นถ้าเดินตามกฎหมายก็จะให้ความเป็นธรรมและเกิดความสงบเรียบร้อย และเชื่อมั่นว่า ผบ.ทบ.จะช่วยทำหน้าที่ประสานหาทางออกให้กับประเทศจากกลุ่มต่างๆ

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการหารือเมื่อวานนี้จุดยืนของแต่ละฝ่ายยังสวนทางกัน นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวว่า ไม่ใช่สวนทางเสียทีเดียว ในส่วนของ กกต.พูดถึงแนวทางการเลือกตั้ง 2 ระยะ ทั้งเร็วและช้า และเราก็เห็นพ้องกับข้อเสนอของ กกต.เรื่องการเลือกตั้ง อยากให้เกิดการเลือกตั้งเร็วเพื่อให้ได้รัฐบาลถาวรที่มีอำนาจเต็มและต้องเข้าใจว่าขณะนี้เราอยู่ระหว่าง พ.ร.ฎ.ยุบสภา ดังนั้นรัฐบาลจะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 181 หากจะใช้วิธีอื่นตามกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จากที่ศึกษาไม่มีวิธีอื่นที่จะให้มีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มได้

เมื่อถามว่า ข้อเสนอให้รัฐบาลลาออก ยังเป็นเงื่อนไขอยู่ นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวว่า ก็เป็นอะไรที่เขาเสนอ แต่ต้องเข้าใจว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้มีตำแหน่งถาวร เพียงอยู่ในสถานะรักษาการเท่านั้นตาม พ.ร.ฎ.ยุบสภา ตำแหน่งรัฐมนตรีหายไปแล้วถ้าจะให้ลาออกอีกก็ไม่รู้จะลาออกอย่างไร ขณะเดียวกัน ตามมาตรา 181 และมาตรา 182 กำหนดให้ ครม.ที่เหลือทำหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีรัฐบาลจากการเลือกตั้งชุดถาวร มาทำหน้าที่ ถ้าเราไม่ทำก็ถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ผิดกฎหมาย และสอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม

เมื่อถามว่าแสดงว่ายังยืนยันไม่รับข้อเสนอการลาออกใช่หรือไม่ นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า มันผิดกฎหมาย เมื่อถามว่า แต่ถ้าเป็นการอ้างเพื่อขอให้เห็นแก่ทางออกของประเทศ นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวว่า ถ้าผิดกฎหมาย อ้างอย่างไรก็โดนฟ้องอยู่ดี ซึ่งวันนี้เราต้องส่งเสริมให้ทุกคนทำตามกฎหมาย ประเทศชาติจะสงบเรียบร้อย ถ้าให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย ถามต่อว่าวันนี้อำนาจของ ผบ.ทบ.สามารถที่จะยกเว้นบางมาตราในรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวว่า ไม่มีระบุว่าการประกาศกฎอัยการศึกแล้วจะละเว้นหรือไม่ปฏิบัติข้อกฎหมายข้อใดได้ เมื่อถามว่า หมายถึงรัฐธรรมนูญคือกฎหมายสูงสุดที่กฎอัยการศึกไม่สามารถไปยกเว้นได้ นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวว่า ไม่เชื่อว่าจะเป็นอย่างนั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า คาดหวังกับการทำหน้าที่ของ ผบ.ทบ.อย่างไร นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวว่า หวังเป็นอย่างยิ่ง เมื่อ ผบ.ทบ.ประกาศกฎอัยการศึกขึ้นมา เราก็เห็นมุมดีหลายมุม ในเรื่องของความสงบเรียบร้อย วันนี้ก็เป็นตัวอย่างอยู่พอสมควร และเวลานี้ก็กำลังคุยเพื่อหาทางออก และหวังว่า ผบ.ทบ.จะช่วยหาทางออก สอดคล้องกับหลักนิติรัฐ นิติธรรม กฎหมายรัฐธรรมนูญ รักษาระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข อันนี้คือสิ่งที่เรามุ่งหวัง รัฐบาลจะร่วมมืออย่างเต็มที่ โดยที่ต้องเป็นไปตามกฎหมายนะครับ

เมื่อถามว่า ถ้ายังยึดในจุดยืนอยู่ เกรงว่าจะนำไปสู่การทำรัฐประหารหรือไม่ นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวว่า อันนี้คงตอบอะไรไม่ได้ เมื่อถามว่าโดยส่วนตัวมีโอกาสจะหารือกับผบ.ทบ.ด้วยตัวเองหรือไม่ นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวว่า เมื่อวานได้คุยกันทางโทรศัพท์แล้ว และกำลังประสานหาช่วงเวลาที่ว่างของทั้งสองฝ่าย ซึ่ง ผบ.ทบ.ยังยุ่งอยู่กับการช่วยเหลือหาทางออก ไม่มีเวลา รอมีเวลาเพราะตนก็อยากเจอ เพื่อจะได้ช่วยกันทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย วันนี้เรื่องเศรษฐกิจ การช่วยเหลือประชาชนต้องรีบทำ

เมื่อถามว่าการไม่เดินทางไปหารือด้วยตัวเอง จะเป็นสัญญาณที่ทำให้ถูกมองว่ารัฐบาลไม่จริงใจหรือไม่ นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวว่า ไม่ใช่ เพราะรัฐบาลได้มอบหมายให้นายชัยเกษม เป็นหัวหน้าทีมไปพูดคุย โดยมีนโยบายที่ชัดเจน และมีอำนาจในการตัดสินใจแทนรัฐบาลได้ระดับหนึ่ง บางครั้งการที่ตนไปด้วยตัวเองก็ไม่สามารถตอบได้ทันทีทุกอย่าง บางเรื่องต้องนำเข้าหารือใน ครม.ก่อน และการที่ตนไม่ได้ไปก็เพราะมีภารกิจอื่นที่ต้องดูและไม่ได้คิดว่าตำแหน่งนายกฯ ที่ตนปฏิบัติหน้าที่แทนอยู่ มีสถานะสูงกว่า ผอ.กอ.รส. เมื่อถามว่าการดำเนินการของ ผบ.ทบ.ภายใต้กฎอัยการศึก ควรจะมีกำหนดเวลาหรือไม่ นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวว่า คงต้องขึ้นกับ ผบ.ทบ.รัฐบาลไม่มีส่วนไปกำหนด แต่หวังว่าผบ.ทบ.จะดำเนินการประสบความสำเร็จเพื่อผลดีต่อประเทศชาติ แต่ถ้ายิ่งเร็วก็ยิ่งดี

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้หารือกับกฤษฎีกาเกี่ยวกับตำแหน่งประธานวุฒิสภาหรือไม่ นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวว่า ทราบว่าเขาประชุมกันวันนี้ รัฐบาลจะไปคุยถึงแนวทางก่อนไม่ได้ เพราะเป็นอิสระของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่จะพิจารณาว่าควรจะเป็นอย่างไร ซึ่งต้องรอข้อเสนอของคณะกรรมการกฤษฎีกา ว่าอย่างไรก็ต้องเดินตามนั้น

เมื่อถามว่ามองอย่างไรกับ 3 รายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนกลางที่มีออกมาในขณะนี้ นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวว่า คงตอบอะไรไม่ได้ เมื่อถามว่า เห็นอย่างไรกับการที่มีชื่อ ผบ.ทบ.เป็นนายกฯ คนกลางอยู่ด้วย นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวว่า ตนคิดว่าคนไทยทุกคนมีสิทธิเป็นนายกฯ ได้ทั้งนั้น แต่ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนไว้ชัดเจนว่านายกฯ ต้องมาจากการเลือกตั้ง เมื่อถามต่อว่า แสดงว่า ผบ.ทบ.ก็ไม่ควรรับตำแหน่งนี้ใช่หรือไม่ นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวว่า ไม่ใช่ ไม่ได้พูดอย่างนั้น แต่คนไทยทุกคนมีสิทธิในการที่จะเป็นนายกฯ ได้ตามครรลองของกฎหมาย