รมต.เฝ้าเก้าอี้นายกฯ เรียกประชุมด่วนที่เซฟเฮาส์หลังมีอัยการศึก “ชัชชาติ” รับโทรคุยไม่ได้ถูกเรียกถก แจงทั้งคู่เลิกบินไปเชียงใหม่แล้ว “ปุ้ม” แจงหารือไม่เป็นทางการ อาจมีแถลงการณ์ “ชัยเกษม” ชี้ ผบ.ทบ.ต้องรายงานรัฐ คาดใช้ กม.พิเศษเพราะกปปส.เคลื่อนใหญ่ส่อรุนแรง “ภราดร” เผย ผบ.ทบ.แจ้ง รักษาการนายกฯ แล้วว่าดูความมั่นคงทั้งหมด สป.กห.ไร้เงา รมต. จนท.เข้าเก็บเอกสาร
วันนี้ (20 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ประกาศใช้กฏอัยการศึกทั่วประเทศ และได้จัดตั้งกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) เรียกหัวหน้าส่วนราชการเข้ารายงานตัว วันเดียวกัน เวลา 08.30 น.นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุม ประกอบด้วย นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี นายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา หารือที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครเป็นการด่วน เพื่อประเมินสถานการณ์ภาพรวมภายหลังมีการประกาศใช้กฎอัยการศึกและแนวทางการดำเนินการของคณะรัฐมนตรีรักษาการ ขณะที่รัฐมนตรีคนอื่นๆ นายนิวัฒน์ธำรงได้มีการพูดคุยประสานผ่านทางโทรศัพท์ ขณะที่นายสุรนันทน์เปิดเผยว่า เป็นการหารืออย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งภายหลังการประชุมอาจมีการออกแถลงการณ์ถึงแนวทางการดำเนินการของรัฐบาลหลังมีการประกาศกฏอัยการศึก
ด้านนายชัชชาติ สิทธิ์พันธุ์ รมว.คมนาคม ยอมรับว่าได้มีการพูดคุยกับนายนิวัฒน์ธำรง หลังมีการประกาศกฎอัยการศึกทางโทรศัพท์แล้ว ซึ่งนายนิวัฒน์ธำรงไม่ได้มีการเรียกประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ด่วนแต่อย่างใด ซึ่งการประกาศกฎอัยการศึกก็เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ทหารในการดูแลรักษาความเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม ได้มีการยกเลิกกำหนดการของตนเองและนายนิวัฒน์ธำรงที่จะเดินทางไป จ.เชียงใหม่ในเช้าวันนี้เพื่อติดตามความคืบหน้าการซ่อมแซมคมนาคมขนส่งหลังจากเกิดแผ่นดินไหว และอาฟเตอร์ซ็อก ทั้งนี้ในส่วนคมนาคมขนส่งใน กทม.ยังคงดำเนินการตามปกติ และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องดูแลประชาชน ไม่ให้ได้รับผลกระทบ
ส่วนนายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ประกาศใช้อัยการศึกษาเองก็ดี แต่ยังต้องอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของรัฐบาล เพียงแต่มีอำนาจมากกว่าฝ่ายพลเรือน เพราะปกติคนที่จะประกาศใช้กฎอัยการศึกได้จะมีผู้บังคับบัญชาของทหาร รวมถึง รมว.กลาโหม และนายกรัฐมนตรีด้วยที่ถือเป็นผู้บังคับบัญชาทหารเหมือนกัน และเมื่อประกาศใช้แล้วผบ.ทบ.ต้องรายงานรัฐบาล ซึ่งต้องดูว่าหลังประกาศใช้กฏอัยการศึกแล้วจะทำอย่างไรต่อไป ส่วนเหตุที่ พล.อ.ประยุทธ์ตัดสินใจประกาศใช้กฎอัยการศึกอาจเป็นเพราะกลุ่ม กปปส.มีการเคลื่อนไหวใหญ่ไปยังที่ต่างๆ เกินว่าจะเกิดความรุนแรง ขณะที่นายนิวัฒน์ธำรงยังไม่มีการเรียกประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถ้าจะมีการพูดคุยคงแบบไม่เป็นทางการ กับตนทางนายนิวัฒน์ธำรงก็สั่งแค่ให้สแตนด์บายไว้
ขณะที่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากช่วงเช้าที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ประกาศใช้กฎอัยการศึก พล.อ.ประยุทธ์รายงานให้นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ทราบแล้ว โดยตามกฎหมายความรับผิดชอบงานด้านความมั่นคงทั้งหมด ในการออกคำสั่งต่างๆ จะเป็นอำนาจหน้าที่ฝ่ายทหารโดย ผบ.ทบ.แต่ขณะที่รัฐบาลที่ดูแลในภาพรวมและบริหารราชการแผ่นดินไปตามปกติ ส่วนศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) โดยกำลังเจ้าหน้าที่ทหารทั้งหมดจะขึ้นตรงต่อกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่บรรยากาศที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (สป.กห.) เมืองทองธานี สถานที่ทำงานชั่วคราวของรัฐบาล และเป็นห้องทำงานของนายนิวัฒนธำรง บุญ ทรงไพศาล รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ปฏิบ้ติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี หลังประกาศกฎอัยการศึก ปรากฏว่า วันเดียวกันไม่มีรัฐมนตรีคนใดเดินทางเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ การดูแลรักษาความปลอดภัยยังเป็นไปตามปกติ เพียงมีการเสริมกำลังทหารเข้ามา 1 กองร้อย โดยอยู่เตรียมความพร้อมอยู่ในอาคารบางกอกแลนด์ ซึ่งอยู่ด้านหลัง สป.กห.ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) และเจ้าหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาได้เข้ามาทยอยมาเก็บเอกสารบางส่วนที่ยังค้างอยู่ไปเก็บไว้ที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ) จ.นนทบุรีก่อน และรอคำสั่งต่อไป