xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” จวก “ธาริต” เผยจัด ฉก.ล่ามือป่วน ลั่นไม่ยอมนองเลือด แย้มเรียกม็อบคุย ไม่จบไม่เกษียณ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผบ.ทบ. แถลงใช้อัยการศึกบางมาตรา สงบเมื่อไหร่ยกเลิกทันที ลั่นไม่ยอมนองเลือดอีก แย้มเรียกคู่ขัดแย้งเจรจา จี้หยุดยั่วยุ ขออภัยปิดสื่อ อ้างกลัวพูดไม่รู้เรื่อง ยังไม่เคอร์ฟิว ไม่คุยนายกฯ มาตรา 7 สวนสื่อถามรัฐบาลอยู่ไหน เลขาฯ กกต. เผยเจ้าตัวแนะเลือกตั้งทำไม่ได้ก็ยังไม่ควรจัด แหล่งข่าวเผย “ประยุทธ์” สั่งทหารตำรวจเลิกแบ่งฝ่าย เผยจัด ฉก. ล่าพวกใช้อาวุธ เตือน มท. อย่าสร้างเงื่อนไข แซว “ธาริต” อยู่ไหม พอได้แล้ว ถ้าจะฟ้องมาฟ้องตน โอ่ปมขัดแย้งไม่จบไม่เกษียณ

เมื่อเวลา 15.20 น. ที่สโมสรทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) แถลงภายหลังการหารือร่วมกับหัวหน้าหน่วยงาน ส่วนราชการ องค์กรอิสระ และภาคเอกชน เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ภายใต้การประกาศใช้กฎอัยการศึกว่า ทางกองทัพมีความจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกเพื่อความมั่นคงของประเทศ แต่ยืนยันว่ามีการบังคับใช้เพียงบางมาตราเท่านั้นที่เกี่ยวกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ส่วนมาตราอื่นๆ อีกหลายมาตราจะพยายามไม่นำมาใช้บังคับ ทั้งนี้ เพื่อไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง และสร้างปัญหาต่อไปในอนาคต แต่ยังไม่สามารถระบุกรอบเวลาในการบังคับใช้กฎอัยการศึกได้ว่าจะใช้ไปอีกนานเท่าใด โดยคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 3-6 เดือน หากสถานการณ์สงบเรียบร้อยเมื่อใด ก็จะยกเลิกประกาศดังกล่าว

“ขอให้ข้าราชการทุกคน ภาคประชาสังคม ได้ร่วมมือกันสนับสนุนการแก้ปัญหาไปให้ได้โดยเร็ว พวกเราจะพยายามรักษาสถานภาพนี้ไปสู่จุดนั้นโดยเร็ว อย่ามาถามว่าจะใช้ไปนานหรือไม่นาน ขอให้บ้านเมืองสงบปลอดภัย เพราะไม่มีใครอยากประกาศไว้นาน ขอให้หาทางออกได้โดยเร็วทุกฝ่าย ยืนยันว่าพวกเรามีความตั้งใจอันดีที่จะทำให้ชาติบ้านเมืองเดินไปข้างหน้า” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า จะไม่ยอมให้เกิดการนองเลือดขึ้นบนแผ่นดินไทยอย่างแน่นอน ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะเชิญคู่ขัดแย้งทางการเมืองและฝ่ายต่างๆ มาเจรจาหารือกัน เพราะถือว่าอยู่ในกระบวนการที่จะต้องดำเนินการในการหาทางออกร่วมกัน พร้อมเห็นทุกฝ่ายควรจะหยุดการกระทำใดๆ ที่จะนำไปสู่การยั่วยุ ปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรง เพราะตราบใดที่ยังมีการกระทำในลักษณะนี้อยู่ก็จะไม่สามารถมาเจรจากันได้

“ส่วน กปปส. และ นปช. ก็ขอให้ชุมนุมโดยสงบ โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งกำลังดำเนินการเรียกทุกฝ่ายเข้ามาเจรจา และวันนี้เราจะเริ่มนับหนึ่งใหม่เพื่อให้บ้านเมืองสงบ โดยไม่มองถึงอดีต ส่วนสื่อหลายช่องที่สั่งระงับการออกอากาศนั้นต้องขออภัย เนื่องจากมีความจำเป็นเกรงว่าข้อมูลข่าวสารอาจถูกบิดเบือน ตราบใดที่ไม่สงบ ยังมีการเคลื่อนไหว ยุยงปลุกปั่น สร้างภาพให้เกิดความรุนแรงขึ้นก็จะพูดกันไม่รู้เรื่อง เพราะฉะนั้นทุกฝ่ายต้องหยุดก่อน ไม่เช่นนั้นพูดกันไม่รู้เรื่อง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ขอให้ข้าราชการประจำทุกหน่วยงานปฏิบัติงานไปตามปกติ โดยไม่ต้องกังวลใดๆ เกี่ยวกับการประกาศใช้กฎอัยการศึกในครั้งนี้ โดยยืนยันว่าทุกอย่างยังสามารถดำเนินการไปตามปกติ และทหารจะพยายามละเมิดสิทธิมนุษยชนให้น้อยที่สุด หรือทำให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด ขณะที่เรื่องการประกาศเคอร์ฟิวยังไม่มีการพิจารณาแต่อย่างใด

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงนายกรัฐมนตรีมาตรา 7 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอบว่า ไม่ได้มีการกล่าวถึงในที่ประชุม แต่หากทำต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ทหารจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว

เมื่อถามต่อว่า ภายหลังจากการประกาศกฎอัยการศึกแล้วจะมีการทำรัฐประหารอีกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพียงว่า คำถามดังกล่าวเป็นคำถามที่ไม่สามารถมีผู้ตอบได้

สำหรับประเด็นการรายงานให้รัฐบาลทราบหลังประกาศใช้กฎอัยการศึกนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลอยู่ไหนไม่ทราบ อย่างไรก็ตาม ขอให้เป็นกำลังใจทหารตำรวจในการทำงานด้วย

ด้าน นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุม พล.อ.ประยุทธ์ ได้ฝาก 3 ประเด็น คือ 1. รักษาความสงบของบ้านเมือง ไม่ให้เกิดการเผชิญหน้า หรือเหตุการณ์รุนแรงใดๆ 2. ปัญหาการเมือง ต้องให้ผู้เกี่ยวข้องร่วมกันหาทางแก้ไข และ 3. ให้ข้าราชการทุกคนปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ โดยยืนยันว่าทุกอย่างยังสามารถดำเนินการไปตามปกติ พร้อมกันนี้ ยังได้ฝากไปถึงกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยว่า อย่าเคลื่อนไหวจนสร้างเงื่อนไขไปสู่ความรุนแรง และหากประสงค์ที่จะยุติการชุมนุมให้มวลชนกลับภูมิลำเนาก็จะเป็นเรื่องดี เพื่อลดบรรยากาศความขัดแย้ง โดยทางกระทรวงคมนาคมมีความพร้อมในการอำนวยความสะดวกในส่วนนี้ แต่ไม่ได้กำหนดกรอบเวลาว่า กลุ่มผู้ชุมนุมจะต้องยุติเมื่อใด

ขณะที่ นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวในที่ประชุมโดยฝากให้ทุกฝ่ายร่วมกันหาทางออกในส่วนของการแก้ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ส่วนเรื่องการเลือกตั้งนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า หากเลือกตั้งไม่ได้ ก็ยังไม่ควรจัด เพราะหากมีการเลือกตั้ง ก็จะมีการเผชิญหน้ากันจะมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ รวมไปถึงการบังคับใช้กฎหมาย ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องบังคับใช้อย่างเข้มงวด 100 เปอร์เซ็นต์ โดยขอให้ทุกฝ่ายร่วมกันหาทางออก และหาทางแก้วิกฤตด้วย ทั้งนี้ ตนจะนำข้อสรุปในการหารือเข้าสู่ที่ประชุม กกต. ในวันที่ 21 พ.ค. นี้เพื่อพิจารณาแนวทางการดำเนินการต่อไป

รายงานข่าวจากที่ประชุมแจ้งว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ระบุถึงเหตุผลในการประกาศกฎอัยการศึก ว่า เพื่อสร้างเสถียรภาพและความปลอดภัยของประเทศ มิใช่สร้างเสถียรภาพของรัฐบาล โดยต่อจากนี้ทหารและตำรวจต้องเลิกแบ่งฝักแบ่งฝ่าย คนไทยทุกคนต้องเป็นคนไทย และหากมีการต่อสู้ หรือใช้อาวุธร้ายแรง ทางเจ้าหน้าที่จะมีการตอบโต้อย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ กอ.รส. ได้จัดชุดเฉพาะกิจเพื่อจับกุมตัวผู้ใช้อาวุธสงครามแล้ว

ในระหว่างการหารือ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวถึงบทบาทของกระทรวงมหาดไทย ว่า ขอให้อย่านำกำนันผู้ใหญ่บ้าน หรืออาสาสมัครใดๆ เข้ามาสร้างเงื่อนไขความรุนแรงเด็ดขาด เพราะเชื่อว่าไม่สามารถต่อกรกับกองกำลังทหารที่ทำหน้าที่รักษาความเรียบร้อยอยู่ได้ นอกจากนี้ ยังได้กล่าวตำหนิบทบาทของ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ที่ออกแถลงการณ์หลายฉบับ และข่มขู่ที่ฟ้องคดีต่อบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล โดยเฉพากรณีที่ดีเอสไอฟ้อง นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในข้อหากบฏ

“อธิบดีดีเอสไออยู่ไหม มาหรือเปล่า ธาริตอยู่ไหม พอได้แล้ว หยุดได้แล้ว เละกันไปหมดแล้ว หรือถ้าจะฟ้อง ก็ฟ้องผมสิ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวจบพร้อมเสียงหัวเราะของผู้ร่วมประชุม

รายงานข่าวแจ้งว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้พูดถึงการตั้งรัฐบาลใหม่แต่อย่างใด โดยกล่าวเพียงว่า “ผมขอให้ทุกท่านปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายให้ดีที่สุด ถ้าทำไม่ได้ อาจต้องมีตัวช่วยหรือเปล่า และเรื่องความขัดแย้งนี้ต้องจบ หากไม่จบ ผมไม่เกษียณ”







กำลังโหลดความคิดเห็น