“ชัยเกษม” นั่งหัวโต๊ะประชุม ศอ.รส.รับมือ 2 ม็อบชุมนุมใหญ่ หลัง “เฉลิม” แจ้งลาพัก แต่ยังดิ้นหาทางนั่ง ผอ.ศอ.รส.ต่อ อ้างยังไม่พ้นเก้าอี้ รมต.จากคำวินิจฉัยศาล รธน. “วรพงษ์” รับห่วง 2 ม็อบเผชิญหน้า วางกำลังตำรวจทหารคุมสองฝ่าย พร้อมทบทวนถอนกำลังทหาร
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะเลขานุการ ศอ.รส. กล่าวว่า ในวันนี้ (8พ.ค.) เวลา 14.00 น. นายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม ในฐานะรอง ผอ.ศอ.รส.จะเรียกประชุม ศอ.รส.เอง โดยจะทำหน้าที่แทน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีต รมว.แรงงาน และผอ.ศอ.รส.ที่ได้แจ้งลาตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 พ.ค.
อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวความคิดของตนและนายชัยเกษมเห็นตรงกันว่า ร.ต.อ.เฉลิมไม่ได้พ้นจากตำแหน่ง รมว.แรงงาน ด้วยเหตุผลว่าคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญเจาะจงถึงรัฐมนตรีที่ร่วมพิจารณาในการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี พ้นตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ขณะนั้น ร.ต.อ.เฉลิมอยู่ในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้พ้นตำแหน่งไปแล้ว ฉะนั้นจากตำแหน่ง รมว.แรงงาน จึงไม่มีส่วนในการโยกย้ายนายถวิล ตนทราบว่าขณะนี้รัฐบาลได้กำลังหาทางออกในเรื่องดังกล่าวอยู่ ทั้งนี้ หากในที่สุด ร.ต.อ.เฉลิมจะต้องพ้นการเป็น ผอ.ศอ.รส.ไป นายชัยเกษมในฐานะรอง ผอ.ศอ.รส.สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างแน่นอน จึงทำให้ไม่กระทบต่อการทำงานของ ศอ.รส.
สำหรับกรณีการทูลเกล้าฯ ขอพระบรมราชวินิจฉัยหากเกิดสุญญากาศทางการเมืองขึ้นนั้น ศอ.รส.ได้ยกเลิกไปแล้ว เพราะเวลานี้ถือว่าไม่เกิดสุญญากาศทางการเมืองตามที่มีความกังวลไว้ โดยยังมีคณะรัฐมนตรีที่ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะสามารถแต่งตั้งบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมใน ศอ.รส.ได้หรือไม่ นายธาริตกล่าวว่า เป็นหน้าที่ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ในการแต่งตั้ง ขณะนี้นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี มีตำแหน่งเป็นประธาน กอ.รมน. จะต้องพิจารณาเรื่องดังกล่าวซึ่งไม่เคยมีกรณีนี้มาก่อน แต่ก็ไม่เคยมีกฎหมายใดห้าม โดยการแต่งตั้งบุคคลใน ศอ.รส.ต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาล และกอ.รมน. ทั้งนี้ในเวลา 14.00 น. ศอ.รส.จะมีการหารือรับมือการชุมนุมใหญ่ของกลุ่ม กปปส.ในวันที่ 9 พ.ค.ด้วย ขณะนี้พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้ทำการประสานงานกับฝ่ายทหารอยู่
ด้าน พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร.กล่าวถึงการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. และนปช.ที่จะออกมาชุมนุมในวันที่ 9 พ.ค.ว่า ศอ.รส.ได้มีการคาดการณ์ถึงเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นซึ่งได้มีการวางแผนป้องกันไว้ในระดับหนึ่งแล้ว สิ่งแรกที่กังวลมากที่สุดคือ กรณีที่สองฝ่ายมาเผชิญหน้ากันซึ่งกองกำลังทั้งทหารและตำรวจได้เตรียมวางกำลังไว้ตรงกลางระหว่างสองฝ่ายประมาณ 7-8 จุด โดยบริเวณการชุมนุมของ กปปส.ที่สวนลุพินี จะมีแนวกองร้อยวางไว้ไม่ให้เคลื่อนไปฝั่งธนบุรี ขณะเดียวกัน ทางฝั่งธนบุรีจะมีกำลังกองร้อยไว้ในเส้นทางที่ทั้งสองฝ่ายอาจมาเผชิญหน้ากัน โดยเบื้องต้นใช้กำลังผสมทหารและตำรวจประมาณ 100 กองร้อย
พล.ต.อ.วรพงษ์กล่าวว่า กรณีที่ก่อนหน้านี้จะการถอนกำลังทหารออกบางส่วนนั้น สถานการณ์ขณะนี้คงจะต้องมีการทบทวน โดยในแง่ฝ่ายความมั่นคงจะต้องประเมินสถานการณ์ให้หนักที่สุดในสิ่งที่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุ เพื่อที่จะวางแผนป้องกันและระงับ เพื่อให้เกิดในสิ่งที่ประเมินไว้
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการเผชิญหน้าอย่างรุนแรงเกิดขึ้น ห่วงว่าจะมีการรัฐประหารหรือไม่ พล.ต.อ.วรพงษ์กล่าวว่า ยังประเมินไม่ถึงจุดนั้น ขณะนี้ ศอ.รส.ยังดูแลสถานการณ์ได้ โดยเวลานี้ได้ให้เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามการเคลื่อนกลุ่มผู้ชุมนุมตามจุดต่างๆ ที่จะเดินทางเข้ามา ส่วนข้อมูลการขนอาวุธหนักเข้ามาในพื้นที่ชุมนุม ฝ่ายความมั่นคงยังไม่ได้รายงาน เพียงแต่มีรายงานว่าห่วงทั้งสองกลุ่มปะทะกัน ซึ่งจะต้องเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังเป็นพิเศษในช่วงวันหยุดยาวนี้
พล.ต.อ.วรพงษ์กล่าวว่า อยากจะสื่อไปยังผู้ชุมนุมทั้งสองกลุ่ม ที่แกนนำได้ประกาศไว้ชัดเจนว่าจะไม่มีอาวุธ ใครมีอาวุธจะไล่กลับซึ่งจะให้ผู้ชุมนุมดูแลกันเอง ทาง ศอ.รส.ต้องขอบคุณ ขณะเดียวกันเราจะช่วยเรื่องการตรวจค้นอาวุธ ส่วนกรณีการยิงเอ็มระเบิดเอ็ม 79 ในสถานที่สำคัญคืนวันที้ 7 พ.ค. ขณะนี้ได้มีการเฝ้าระวังและจะเพิ่มมาตรการ โดยตนได้เชิญผู้บัญชาการตำรวจนครบาลมาพูดคุย
