xs
xsm
sm
md
lg

“องอาจ” ชี้ 3 อุปสรรคทำเลือกตั้งล่ม แนะวางกรอบให้ทุกฝ่ายยอมรับก่อน เชียร์ “สุรชัย” นำแก้วิกฤต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

องอาจ คล้ามไพบูลย์ (แฟ้มภาพ)
“องอาจ” เตือนมี 3 อุปสรรค ทำเลือกตั้งล่ม ทั้ง “นิวัฒน์ธำรง” ไร้อำนาจลงนามพระราชกฤษฎีกา ไม่มีวิธีการทำให้การเลือกตั้งสุจริต เที่ยงธรรม กปปส.คัดค้านเลือกตั้ง แนะ กกต.-รัฐบาล วางกรอบให้การเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายก่อน เชียร์ “สุรชัย” นำวุฒิฯ แก้วิกฤตชาติสำเร็จ พร้อมเสนอให้เปิดรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน ก่อนสรุปโรดแมป ขอฉันทามติสังคม ผ่านทางตันให้บ้านเมือง

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความพยายามเดินหน้ากำหนดวันเลือกตั้งของรัฐบาล โดยมีกำหนดหารือร่วมกับ กกต.ในวันที่ 14 พ.ค.นี้ว่า ไม่ใช่หนทางแก้วิกฤตชาติ แม้ว่าการเลือกตั้งจะเป็นกระบวนการตามระบอบประชาธิปไตยและพรรคไม่คัดค้าน แต่การดำเนินการขณะนี้ไม่ใช่ทางออก เพราะการเลือกตั้งจะสำเร็จต้องได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีอุปสรรค 3 ส่วนที่จะเกิดกับการเลือกตั้ง คือ 1. ยังไม่มีความชัดเจนว่านายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ มีอำนาจทูลเกล้าฯ และรับสนองพระบรมราชโองการฯแก้ไขกฤษฎีกาเพิ่มเติมการเลือกตั้งได้หรือไม่ อย่างไร แม้ว่านายนิวัฒน์ธำรงจะชี้นำสังคมว่าดำเนินการได้ แต่ก็มีคนส่วนหนึ่งโต้แย้งทำให้มีความไม่ชัดเจน ถือเป็นอุปสรรคขั้นต้นก่อนเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งที่ต้องชัดเจนก่อนกำหนดวันเลือกตั้ง

2. รัฐบาล และ กกต.จะมีวิธีการให้การเลือกตั้งสุจริต เที่ยงธรรมอย่างไร เพราะการเลือกตั้ง 2 ก.พ.ที่ผ่านมา กระบวนการเลือกตั้งไม่สุจริต เที่ยงธรรมตามรัฐธรรมนูญ มีหลายกรณีขัดกฎหมายจนการเลือกตั้งเป็นโมฆะ แม้ กกต.จะเสนอวิธีการที่จะให้การเลือกตั้งเกิดได้หลายวิธี เช่น รับสมัครทางไปรษณีย์ แต่กระบวนการเลือกตั้งไม่ได้มีแค่การรับสมัครเท่านั้น การจับสลากจะทำอย่างไร กกต.จับเองจะเป็นไปโดยสุจริตหรือไม่ มีอะไรเป็นหลักประกัน ดังนั้นกระบวนการเลือกตั้งหลังจากนี้ยังมีการดำเนินการที่อาจไม่สุจริต เที่ยงธรรม อีกมากมายที่จะเกิดได้ หากยังเดินหน้าโดยที่การเลือกตั้งไม่ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายก็จะเป็นโมฆะอีก

และ 3. มีกลุ่ม กปปส.แสดงตนคัดค้านการเลือกตั้งเพราะต้องการให้มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง หากยังมีการคัดค้านเช่นนี้ก็ต้องมีปฏิบัติการเช่นเดียวกับที่เคยทำในวันที่ 2 ก.พ. หากเดินหน้าอาจมีคนบาดเจ็บล้มตายมากกว่าเดิม โดยรัฐบาลทำทุกวิถีทางเพื่อดึงดันสู่การเลือกตั้ง ซึ่งอาจทำให้เกิดความสูญเสียมากกว่าวันที่ 2 ก.พ.

“ผมคิดว่ารัฐบาลควรจะต้องร่วมมือกับ กกต.ทำให้การเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายก่อน รัฐบาลต้องคำนึงถึงเรื่องที่รัฐบาลสามารถรับได้และดำเนินการ เพราะไม่เพียงแค่สูญเสียงบประมาณกว่า 4 พันล้าน แต่ประเทศจะเสียโอกาสเพิ่มมากขึ้น จึงควรเอาเวลา 4-5 เดือนข้างหน้ามาหาทางออกอื่นที่ทุกฝ่ายยอมรับได้จะเป็นประโยชน์มากกว่า การใช้การเลือกตั้งเป็นพิธีกรรมสร้างความชอบธรรมให้ตนเองกลับมามีอำนาจโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายต่อประเทศชาติบ้านเมือง ผมเรียกร้องไปยังรัฐบาลเพราะเป็นผู้ครองอำนาจรัฐ ต้องยอมสละอำนาจบางส่วนให้บ้านเมืองเดินหน้าได้ เพราะประชาชนหวังเห็นความเปลี่ยนแปลงในบ้านเมือง ปัญหาจึงอยู่ในมือของรัฐบาลว่าจะมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาประเทศหรือไม่” นายองอาจกล่าว

นายองอาจยังกล่าวถึงบทบาทของนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ว่าที่ประธานวุฒิสภา ในการเดินหน้าหาแนวทางแก้วิกฤตประเทศว่า ตนเห็นด้วยกับปฏิบัติการดังกล่าว แต่วิธีการของวุฒิสภาที่จะเดินหน้าเพื่อให้เกิดความสำเร็จได้ควรดำเนินการ 3 ส่วน คือ 1. วุฒิสภาควรเปิดโอกาสรับฟังความเห็นในที่ประชุมวุฒิสภาอย่างกว้างขวาง รอบด้าน เพื่อนำข้อสรุปมาเป็นแนวทางแก้ปัญหา แม้ความเห็นอาจไม่ตรงกันทั้งหมด แต่วุฒิสภาสามาระรวบรวมความเห็นส่วนมากมากำหนดแนวทางแก้วิกฤตได้

2. วุฒิสภา มีความชอบธรรมในฐานะที่เป็นองค์กรที่เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย สามารถเสนอแนวทางแก้ปัญหาให้องค์กรอื่นๆ ภายใต้รัฐธรรมนูญ มาช่วยแสวงหาทางออกร่วมกัน โดยวุฒิสภารวบรวมข้อเสนอขององค์กรต่างๆ มาแก้วิกฤตประเทศ 3. นอกจากประชุมในวุฒิสภา องค์กรศาลและองค์กรตามรัฐธรรมนูญแล้วให้ขยายแนวร่วมไปยังองค์กรต่างๆ รวมถึงภาคประชาสังคม หาจุดร่วมแก้วิกฤตชาติร่วมกัน เมื่อได้ข้อมูลก็ควรสรุปเป็นโร๊ดแม็พแก้ปัญหาต่อไป ทั้งนี้ต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว รอบคอบและรอบด้านด้วย เพื่อให้ข้อเสนอของวุฒิสภาเป็นแนวทางที่ได้รับการยอมรับเป็นฉันทามติจากเสียงส่วนมากของสังคม ตนยังตั้งความหวังไว้กับการปฏิบัติงานของวุฒิสภาว่าจะหาทางแก้วิกฤตบ้านเมืองได้


กำลังโหลดความคิดเห็น